หุ้น7มิ.ย.ลดลงต่อเนื่องปิดที่ 1,034.75 จุด ลดลง 11.41 จุด หรือ 1.09% มูลค่าการซื้อขาย 28,303.75 ล้านบาท
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 7 มิ.ย. ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะการซื้อขายในภาคบ่ายจนกระทั่งปิดตลาดที่ 1,034.75 จุด ลดลง 11.41 จุด หรือ 1.09% มูลค่าการซื้อขาย 28,303.75 ล้านบาท นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟาร์อีสต์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากปัจจัยจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติหนี้ในกลุ่มประเทศยุโรป และความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองในประเทศยังกดดันตลาดเช่นกัน โดยนักลงทุนมองว่า อาจจะเกิดความวุ่นวายภายหลังการเลือกตั้ง
"หุ้นขนาดใหญ่ทั้งพลังงานและธนาคารถูกขายออกมา ซึ่งนักลงทนุต่างชาติมองว่า ภาพรวมการลงทุนไม่ดีจะลดน้ำหนักการลงทุน โดยไม่ใช่เฉพาะหุ้นไทย นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่มีกำไรที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1 เพราะฉะนั้นคาดว่า โอกาสที่ไตรมาส 2 อาจจะกำไรเหนือกว่ามีอยู่ไม่มาก จึงเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาด" นายปริญทร์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ ตลาดหุ้นยังคงผันผวน อย่างไรก็ตาม นายปริญทร์ กล่าวว่า ดัชนีที่ระดับ 1,030 จุด จะเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และในปัจจุบันดัชนีปรับลดลงมาแล้ว 7.5% จากดัชนีที่ 1,113 จุด (เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2554) แสดงให้เห็นว่า ราคาหุ้นได้ตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว และในระยะต่อไปน่าจะสามารถมีเสถียรภาพมากขึ้น และหากประคองตัวอยู่ได้น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี
มูลค่าซื้อขาย 5 อันดับหลักทรัพย์
BBL ปิด 152.00 บาท -3.50 บาท หรือ 2.25%
KBANK ปิด 113.50 บาท -4.00 บาท หรือ 3.40%
PTT ปิด 339.00 บาท -4.00 บาท หรือ 1.17%
JAS ปิด 3.02 บาท -0.04 บาท หรือ 1.31%
SCB ปิด 104.50 บาท -2.50 บาท หรือ 2.34%
โพสทูเดย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น