การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่
ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ร่วมแถลงความพร้อมในการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งแบบวิถีใหม่ 31
ตุลาคม - 1 พฤศจิกายนนี้
เน้นย้ำผู้เข้าร่วมงานปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19
อย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 9
ต.ค. 63 ที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่
นางสาวภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 5
และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.
แถลงความพร้อมการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2563
ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 1
พฤศจิกายน 2563 เพื่อสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น
ส่งเสริมเศรษฐกิจ และกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
โดยภายในงานจะมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ทั้งกิจกรรมต๋ามผางประตี๊ดส่องฟ้าฮักษาเมืองรอบคูเมืองเชียงใหม่ ลานโกมล้านนา
ซุ้มสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น การประกวดหนูน้องยี่เป็ง
และการประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็ง การปล่อยกระทงสายสืบสานล้านนา
รวมถึงการประดับโคมไฟตกแต่งเมือง
และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรือ โควิด-19
ทางเทศบาลนครเชียงใหม่
ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมงาน
และเป็นไปตามมติของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่
โดยการประกวดกระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานฯ จากเดิมที่จะมีขบวนแห่รถกระทงใหญ่ผ่านด้านหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่
ในปีนี้ได้เปลี่ยนรูปแบบการประกวดเป็นการจัดแสดงรถกระทงใหญ่ 7
จุด รอบเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ ลานประตูท่าแพ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์
ประตูช้างเผือก ประตูสวนดอก แยกตลาดสมเพชร ประตูเชียงใหม่ และด้านหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่
โดยจะจัดแสดงรถกระทงใหญ่ในวันที่ 31 ตุลาคม – 1
พฤศจิกายน 2563 ระหว่างเวลา 18.00 – 23.00 น.
และคณะกรรมการจะพิจารณาตัดสินในคืนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563
อย่างไรก็ตาม
ต้องขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน โปรดสวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
ทั้งการเช็คอินในแอพพลิเคชั่นไทยชนะ และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณจุดคัดกรอง
พร้อมทั้งขอให้งดการดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณพื้นที่จัดงาน
งดการจุดประทัดยักษ์ งดการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน อย่างเด็ดขาด และขอเชิญชวนร่วมกันแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง
เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป