<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่เยี่ยมชมผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าในงาน "โชว์คราฟ อาร์ทสตรีท" (SHOW CRAFT ART STREET)

 

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่เยี่ยมชมผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าในงาน "โชว์คราฟ อาร์ทสตรีท" (SHOW CRAFT ART STREET)
********************************************
วันที่ 30 มีนาคม 2565 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ โดยนางโสพิตย์ ฤทธิศร หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าในงาน "โชว์คราฟ อาร์ทสตรีท" (SHOW CRAFT ART STREET) ตามโครงการพัฒนาเศษฐกิจสร้างมูลค่าเชื่อมโยงการค้าอนุภูมิภาค ภาคเหนือประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จัดโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 3 เมษายน 2565 ณ วัดศรีสุพรรณ ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภายในงานมีร้านค้ากว่า 50 ร้าน เริ่มจำหน่ายสินค้าตั้งแต่เวลา 15.00 น -20.00 น. พบกับสินค้างานคราฟ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความร่วมสมัย รวมทั้งผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน สินค้าชุมชน หัตถกรรมท้องถิ่น อาหารและเครื่องดื่มโฮมเมด ราคาประหยัดถูกใจ จากผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่







“ARV” ชวน Startup และ Tech Professional ภาคเหนือ ร่วมงาน “Harnessing Our Digital Future with AI” ในวันที่ 1 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 18.00 - 21.00 น. ที่โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงใหม่

 

ปฏิทินข่าวประชาสัมพันธ์: “ARV” ชวน Startup และ Tech Professional ภาคเหนือ ร่วมงาน “Harnessing Our Digital Future with AI” ในวันที่ 1 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 18.00 - 21.00 น. ที่โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงใหม่
“ARV” ชวน Startup และ Tech Professional ภาคเหนือ เสริมคมความรู้ด้าน AI และ ML 
พร้อมคว้าโอกาสในการร่วมเป็นพันธมิตร หรือร่วมงานกับบริษัทฯ ในอนาคต 
ในงาน “Harnessing Our Digital Future with AI” วันที่ 1 เม.ย. นี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ 
บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (ARV) Tech Company ชั้นนำด้านการพัฒนาและให้บริการเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ของไทย ในเครือ ปตท.สผ. จัดงาน “Harnessing Our Digital Future with AI” ในวันศุกร์ที่ 1 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 - 21.00 น. ที่โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงใหม่ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ และผู้มีความสามารถในแวดวงเทคโนโลยีในพื้นที่ภาคเหนือของไทย ร่วมติดอาวุธทางความรู้ด้าน AI, Machine Learning และ Data Analytics  
ภายในงานพบกับกิจกรรมเสวนาสุดพิเศษที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปของวงการมาร่วมแบ่งปันข้อมูล และประสบการณ์มากมายภายใต้หัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ  
“Data First AI: ข้อมูลที่ดีกว่าหมายถึงAI ที่ดีกว่า” โดยคุณวีรวัฒน์ รัตนวราหะ Entrepreneur in Residence จาก ARV และเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้งานด้าน Big Data และ Data Analytics เชิงพาณิชย์ 
“Al-powered Digital Twin – AI กุญแจแห่งการสำรวจและตรวจสอบแห่งอนาคต” โดยดร.ศิวัตม์ สายบัว ผู้ร่วมก่อตั้ง, SKYLLER Solutions ผู้นำด้านการพัฒนาโซลูชันโดรนและหุ่นยนต์อัตโนมัติ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานในหลากหลายอุตสาหกรรม 
“Geospatial AI: บทบาทของAI ใน Urban Informatics” โดยรศ.ดร.สันติ พิทักษ์กิจนุกูร หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
“AI for Subsea: สำรวจโลกใต้สมุทรด้วยเทคโนโลยีAI และ Robotics” โดยคุณภัคชนม์ หุ่นสุวรรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ROVULA ผู้นำด้าน Subsea IRM (Inspection Repair & Maintenance) ที่ให้บริการเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ ตลอดจนหุ่นยนต์ที่ใช้ในการสำรวจ และซ่อมบำรุงท่อปิโตรเลียมใต้น้ำอย่างครบวงจร 
“What's Next? To compete in the age of Al”: แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในแวดวง AI ที่จะผลักดันวิวัฒนาการให้ก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง 
พร้อมการแนะแนวหนทางสู่ความสำเร็จในสายงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และ Machine Learning ในหัวข้อ “Al & ML Future Career” โดย ดร.กิตติพัฒน์ คำภา วิศวกรด้าน Machine Learning จาก Redfin และเคยร่วมงานกับ Amazon และคุณวโรกาส ภูณุสุวรรณ วิศวกร Software & DevOps ประจำบริษัท Apple ในฐานะทีม iCloud Engineering ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การทำงานใน Tech Company ระดับโลก  
รวมถึงข้อเสนอและโอกาสดี ๆ ในสร้างเครือข่ายด้านเทคโนโลยี อีกทั้งการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองและความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญในแวดวงมากมาย รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก และนำเสนอไอเดียธุรกิจแบบตัวต่อตัว เพื่อคว้าโอกาสในการเป็นพันธมิตรและการได้ร่วมงานในฐานะสมาชิกของทีม ARV ในอนาคต 
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อสำรองที่นั่งได้ที่ลิงก์ด้านล่าง รับจำนวนจำกัดเพียง 100 ท่านเท่านั้น https://forms.gle/RweYyMqAX37suQja9




ทีมแพทย์ฉุกเฉิน Sky Doctor ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเลือดออกในสมอง จากโรงพยาบาลแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ส่งรักษาโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่

 

ทีมแพทย์ฉุกเฉิน Sky Doctor ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเลือดออกในสมอง จากโรงพยาบาลแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ส่งรักษาโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ 
.
วันที่ 28 มีนาคม 2565 เวลา 12.03 น. น่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จัดอากาศยาน ฮ.ท. 212 จำนวน 1 เครื่อง ร่วมกับ ทีมแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ เพื่อทำการช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน นายสุรชัย  แก้วโกมลรัตน์ อายุ 18 ปี ที่อยู่บ้านห้วยริน หมู่ 14 ตำบลแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเกิดภาวะเลือดออกในสมอง โดยอากาศยานได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจาก สนาม ฮ. ชั่วคราว หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถึงสนาม ฮ. ชั่วคราว กองพลทหารราบที่ 7 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลนครพิงค์ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาที
.
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์






สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปีการศึกษา 2563 – 2564 ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 56 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรีและนายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหาร บุคลากร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เฝ้ารับเสด็จฯ ในวันที่ 25 มีนาคม 2565 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
.
ในการนี้ สภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีการศึกษา 2564 เพื่อเทิดทูนยกย่องในพระปรีชาสามารถ และพระอัจฉริยภาพที่เกี่ยวข้องกับวงวิชาการด้านการสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สาธารณสุขของประเทศไทย 
.
จากนั้นได้พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา 2564 จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ปริญญาศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา นายชวลิต ถนอมถิ่น ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรณีวิทยา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์วิชาญ วิทยาศัย ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาแพทยศาสตร์ ศาสตราจารย์พิเศษประสิทธิ์ โฆวิไลกูล ปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ดร.เภสัชกร แสงสุข พิทยานุกุล ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเภสัชศาสตร์ ศาสตราจารย์ ดร.ไบรอัน ไทท์  (Professor Brian Tighe, Ph.D.) ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเคมี  และพระราชทานเกียรติบัตรศาสตราจารย์เกียรติคุณ ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ทันตแพทย์ธีระวัฒน์ โชติกเสถียร สาขาทันตกรรมจัดฟัน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ขวัญชัย ศุภรัตน์ภิญโญ สาขาอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ  ศาสตราจารย์เกียรติคุณนฤมล ธีรวัฒน์ สาขาประวัติศาสตร์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณสุพรรณี ปิ่นมณี สาขาวิชาภาษาอังกฤษ   
.
พิธีพระราชทานปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครั้งที่ 56 มีบัณฑิตเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จำนวน 2,728 คน ได้แก่ ปริญญาเอก 113 คน ปริญญาโท 296 คน และปริญญาตรี 2,319 คน จาก 21 คณะ 1 สถาบัน 2 วิทยาลัย และ 1 บัณฑิตวิทยาลัย ได้แก่ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะบริหารธุรกิจ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิจิตรศิลป์ คณะสังคมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร คณะการสื่อสารมวลชน คณะเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี วิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ และบัณฑิตวิทยาลัย
.
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์ 













แทบไม่น่าเชื่อหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอแม่แตงอยู่โดยไม่มีไฟฟ้ามานาน 39 ปีชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือหลังลูกหลานต้องเรียนออนไลน์

 

เด็กๆในหมู่บ้านห้วยราชบุตร ตำบลบ้านเป้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ต้องนั่งล้อมวงจุดเทียนเพื่อทำการบ้านเป็นประจำทุกวันหลังวันนี้ ฝนตกในพื้นที่ทำให้พลังไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ไม่สามารถชาร์ทไฟได้ทัน ทำให้คืนนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ เมื่อผู้สื่อข่าวได้เห็นคลิปนี้จึงได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่

โดยนางสาวจุรี จะคือ อายุ 38 ปี  ผู้ที่ถ่ายคลิปนี้ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า

 หมู่บ้านห้วยราชบุตรนั้นส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าลาหู่ อพยพมาจากอำเภอแม่อายเมื่อปี 2526 มาสร้างรกรากที่นี้ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตงคาบเกี่ยวเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา  ปัจจุบันมีทั้งหมด 40 ครอบครัวมีประชากร 200 กว่าคน ทุกวันนี้ชาวบ้านที่นี้ลำบากกันมากถึงแม้พื้นที่จะห่างจากตัวอำเภอแม่แตงประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร แต่กลับไม่มีไฟฟ้าใช้ ทำให้เด็กๆและชาวบ้านได้รับความลำบากเป็นอย่างมาก การเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างลำบากโดยเฉพาะเวลากลางคืน 

บ้านไหนพอจะมีเงินก็จะหาซื้อแผงโซล่าเซลล์มาติด  แต่บ้านไหนไม่มีเงินก็ต้องจุดเทียน  

ในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะเด็กที่เรียนหนังสือต้องจุดเทียน  และเวลาเรียนออนไลน์ก็ต้องมาเปลี่ยนกันเรียน หาอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงเพียงหนึ่งเครื่องมาแชร์กันเปลี่ยนกันเรียน ทุกวันนี้การไม่มีไฟฟ้าใช้นั้นลำบากมาก โซล่าเซลล์ที่มีต้องเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นอย่างเช่นไว้ชาร์ทโทรศัพท์ให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือออนไลน์ ไม่สามารถใช้อย่างอื่นได้เลยซึ่งพวกตนก็อดทนมานาน 39 ปี ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ที่ผ่านมานั้นเคยทำเรื่องไปหลายหน่วยงานแล้วแต่เรื่องนี้ก็เงียบหายไปจึงมาร้องต่อผู้สื่อข่าวเพื่อให้เป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้วยเพราะที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าพื้นที่ของหมู่บ้านอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง แต่เท่าที่ทราบที่ผ่านมาพื้นที่อื่นก็ประสบปัญหาเช่นนี้แต่ก็ยังขอมีไฟฟ้าได้

กรรณิกา 081-9525355 










ตำรวจ PCT ทลายออฟฟิศใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา หลังพบหลอกเป็น สภ.เมืองเชียงใหม่ และDHL Fed EX

 

“ตำรวจ PCT ทลายออฟฟิศใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา หลังพบหลอกเป็น สภ.เมืองเชียงใหม่ และDHL Fed EX" 

วันนี้ (24 มี.ค.65) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.) หรือ PCT: Police Cyber Taskforce, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 PCT, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 ร่วมแถลงผลการจับกุมแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ จับกุมผู้ต้องหา 28 ราย ช่วยเหลือเหยื่อคนไทย 5 ราย อยู่ระหว่างคัดแยกอีก 28 ราย รวม 61 ราย ใจกลางเมืองพระสีหนุ หลังสืบทราบว่า หลอกเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และ พนักงาน DHL Fed EX ผู้เสียหายจำนวนมาก 
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ขยายผลจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกราย คดีนี้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ฯ นำทีมสืบสวนจนทราบแหล่งกบดานของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้ ซึ่งใช้อาคารในเมืองพระสีหนุ เป็นฐานปฏิบัติการ จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ฯ เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อประสานขอความร่วมมือกับตำรวจประเทศกัมพูชา 
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่าในวันที่ 20 มี.ค.65 เวลาประมาณ 14.00 น. พล.ต.อ.Sar Theth รอง ผบ.ตร.แห่งกัมพูชา ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.Wan Wera ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระสีหนุ สนธิกำลังกับตำรวจฝ่ายไทย นำกำลังเข้าตรวจค้นออฟฟิศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ในจังหวัดพระสีหนุ 
จุดที่ 1 โรงงานร้างไม่มีเลขที่ ถ.Santepheap จ.พระสีหนุ  ซึ่งจุดนี้จะมีแผนประทุษกรรมในการหลอกลวงโดยการโทรศัพท์ไปหาเหยื่อแล้ว "อ้างว่ามีพัสดุจากบริษัทขนส่ง DHL หรือ FedEX และถูกด่านของกรมศุลกากรอายัดไว้และมีสิ่งของผิดกฏหมาย จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ติดต่อไปเพื่อทำการตรวจสอบบัญชีหรือตรวจสอบการเงินเพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ โดยใช้รูปโปรไฟล์ในแอพพลิเคชั่นเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุด ผบ.ตร.มาแอบอ้างทำให้ประชาชนตกเป็นเหย
ผลการตรวจค้นพบจับกุมผู้ต้องหา 28 คน โดยเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับไว้แล้วทั้งหมด คือ 
นายซิน ฮัง เต หรือนายอาเต๋อ อายุ 28 ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) หัวหน้าใหญ่, นายจาง เจียน เทียน หรือนายอาหู อายุ 41 ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) หัวหน้าใหญ่ และ นายพรศักดิ์ รีพล อายุ 30 ปี สัญชาติไทย พร้อมพวกคนไทยอีก 25 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ร่วมกันเป็นซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฟอกเงิน” นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบพยานหลักฐานสำคัญ คือ 
1.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Iphone จำนวน 30 เครื่อง
2.วิทยุสื่อสาร จำนวน 8 เครื่อง
3.คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 4 เครื่อง
4.สคลิปเตรียมบทพูดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ , เจ้าหน้าที่จาก DHL และ FedEx
5.เอกสารหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม
6.เอกสารหมายจับศาลอาญา ซึ่งเป็นเอกสารปลอม
7.เอกสารหมายเรียกของสำนักคดีการเงินการธนาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม
  จุดที่ 2 อาคาร Diwei Entertainment City ถนน 2 Thnou เมืองพระสีหนุ ซึ่งเปิดเป็นบ่อนคาสิโนบังหน้า ลักลอบทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์บนชั้น 5 ของตึก ซึ่งจุดนี้จะมีแผนประทุษกรรมในการหลอกลวงโดยการ "หลอกลวงให้หลงรักในแอ็พพลิเคชั่น Tinder จากนั้นชักชวนลงทุนเทรดเงินดิจิตัล โดยจะให้โอนเหรียญชนิด Usdt เข้าไปในกระดาษเทรดเหรียญเถื่อน บางรายที่เทรดเป็นอยู่แล้ว ก็จะถูกชักจูงให้เทรดในโหมด Futures Trade ซึ่งมีความเสี่ยงสูง และหากผู้ถูกหลอกสามารถเทรดจนได้กำไรในพอร์ต ก็ไม่สามารถถอนเงินออกได้อยู่ดี และขั้นตอนสุดท้ายคือจะถูกหลอกให้เสียเงินภาษีเพื่อถอนเงินในพอร์ตออกมา แต่เมื่อผู้ถูกหลอกโอนเงินเข้าไปแล้ว ก็ไม่สามารถถอนเงินออกจากพอร์ตได้เลย" นอกจากนี้ ยังใช้วิธีการหลอกลวงให้ร่วมลงทุน กับการขายสินค้าแอ็พพลิเคชั่น Lazada ให้ผลตอบแทนสูง 
ผลการตรวจค้น พบคนไทย 33 คนขณะกำลังทำงานคุยกับลูกค้า ซึ่งจะต้องทำการคัดแยกต่อไปว่าใครเป็นเหยื่อ ใครเป็นผู้ต้องหา เบื้องต้นสอบถามมี 5 คนที่สมัครใจอยากกลับประเทศไทย ซึ่งได้ส่งตัวไปยังสถานกงสุลไทยในกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบพยานหลักฐานสำคัญ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ All in one จำนวน 68 เครื่อง รวมทั้ง 2 จุด พบเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 61 คน คนจีน
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้เตือนสติให้กับผู้ต้องหาถึงภัยอันตรายของการมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสุดท้ายก็จะถูกขายและถูกใช้แรงงานไม่ต่างจากทาส และจะวนเวียนในวัฏจักรดังกล่าวไม่จบไม่สิ้น และเมื่อกลับประเทศไปก็จะต้องถูกดำเนินคดีทุกราย โดยหลังตรวจค้นจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศกัมพูชา ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายในประเทศกัมพูชาก่อน และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตามกฎหมายของประเทศกัมพูชาแล้ว จะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้ประเทศไทย ทั้งนี้ได้สั่งการให้พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่างผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.อิทธิพร  โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เตรียมรอรับตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป 
ที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากกงสุลประจำสถานทูตไทยในพนมเปญ โดยนายวรินทร  ตันวิเชียร ประสานความร่วมมือระหว่างตำรวจกัมพูชา กับตำรวจไทย ในการช่วยเหลือคนไทย ทั้งที่เป็นเหยื่อถูกหลอกมาทำงาน และเป็นผู้ต้องหา โดยการจัดสวัสดิการที่พักและอาหารให้กับทุกคนในฐานะประชาชนคนไทย รอง ผบ.ตร.กล่าว 
ผอ.PCT ย้ำอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความกังวลปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ปัจจุบันระบาดหนักและมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ จึงสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปรามอย่างจริงจัง และหาแนวทางเสริมภูมิความรู้ให้กับประชาชน 
นับตั้งแต่เปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.65 จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์ 4,649 ราย 
อันดับ 1 คือ คดีหลอกลวงด้านการเงิน 3,737 เรื่อง แบ่งเป็น 
- คอลเซ็นเตอร์ 460 เรื่อง
- ปลอมโปรไฟล์คนหน้าตาดีหลอกให้ลงทุน (Hybrid Scam) 443 เรื่อง
- ปลอมโปรไฟล์คนหน้าตาดีหลอกให้หลงรัก (Roman Scam) 70 เรื่อง 
- หลอกให้กู้เงิน 642 เรื่อง 
- แชร์ลูกโซ่ 251 เรื่อง
- อื่นๆ 992 เรื่อง
อันดับ 2 คือ "หลอกจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 724 เรื่อง แบ่งเป็น
- หลอกขายไม่ได้รับสินค้า 659 เรื่อง
- หลอกขายสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ 105 เรื่อง
- อื่นๆ 44 เรื่อง 
อันดับ 3 คือเฟคนิวส์ (Fake News) 87 เรื่อง จึงขอฝากเตือนว่าอย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อง่ายๆ หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์ PCT 081-8663000 หรือ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ www.pct.police.go.th ตลอด 24 ชม. หรือผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com 








รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมสหกรณ์การเกษตรโหล่งขอดสามัคคี อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

 

รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมสหกรณ์การเกษตรโหล่งขอดสามัคคี อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสหกรณ์การเกษตรโหล่งขอดสามัคคี ชื่นชมความเข้มแข็งของสหกรณ์การเกษตรเชียงใหม่ พร้อมขับเคลื่อนโครงการลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน และผลักดันพัฒนาหัวมันของไทยให้มีคุณภาพ

วันนี้ (24 มี.ค. 65) นางสาวมนัญญา ไทยเศษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรโหล่งขอดสามัคคี จำกัด ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่  ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  พร้อมมอบอุปกรณ์การตลาด สิ่งก่อสร้าง จากเงินอุดหนุนภายใต้โครงการปรับโครงสร้างการผลิต การรวบรวมและการแปรรูปของสถาบันเกษตรกร รองรับผลผลิตทางการเกษตรให้แก่สถาบันเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 8 แห่ง มูลค่า 65 ล้านบาท

โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวชื่นชมสหกรณ์การเกษตรของจังหวัดเชียงใหม่ทั้ง 8 แห่ง ที่นำงบประมาณจากการขอรับสนับสนุนไปดำเนินการกระจายสินค้าร่วมกับเครือข่ายได้ตามนโยบายของรัฐบาล จนประสบความสำเร็จ  ซึ่งเกิดขึ้นจากความเข้มแข็งของเกษตรกร  โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  มีความมุ่งหวังที่จะตอบสนองความต้องการของสหกรณ์การเกษตรให้มากที่สุด และได้มีการสนับสนุนเครื่องอบความชื้น เครื่องชั่งน้ำหนักที่มีมาตรฐาน รวมถึงโกดังจัดเก็บผลผลิต เพื่อให้สหกรณ์การเกษตรนำไปจัดสรรแก่สมาชิกและเกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการดำเนินโครงการลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน โดยบูรณาการทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เพื่อช่วยดูแลลูกหลานเกษตรกรที่กลับมาประกอบอาชีพที่บ้านเกิด ให้มีงาน มีรายได้เลี้ยงตนเอง ทั้งนี้ ในพื้นที่อำเภอพร้าว  ถือเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกมันจำนวนมาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาหัวมันของประเทศไทยให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และห่างไกลจากเชื้อรา  เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ  รวมทั้งขอให้เกษตรกรหันมาเพิ่มพื้นที่ปลูกพืชที่ยั่งยืน สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร