ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำให้ใช้มาตรการควบคุมการเผาอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง แม้จุด Hotspot จะลดลง หลังจากการระดมกำลังเข้าดับไฟและออกตรวจการกระทำผิดในพื้นที่เสี่ยง
วันนี้ 5 มีนาคม 2563 ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานจุด Hotspot ระบบ VIIRS ตามข้อมูล GISD วันที่ 5 มี.ค.63 (รอบเช้า เวลา 01.03 น. และ 02.44 น) จำนวน 55 จุด ในพื้นที่ 7 อำเภอ 16 ตำบล ศูนย์ฯ ได้ตรวจสอบแล้ว เป็นพื้นที่เกษตรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 1 จุด และลุกลามจากจุดเดิมรอบบ่ายวานนี้ 1 จุด โดยพบว่ามีจุดความร้อนลดลงจากเมื่อวาน (4 มี.ค. 63) โดยเฉพาะ 3 อำเภอ ในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ อำเภอเชียงดาว จาก 30 จุด ลงลงเหลือ 21 จุด , อำเภอแม่แตง จาก 5 จุด ลดลงเหลือ 2 จุด และอำเภอแม่แจ่ม ไม่มีจุดความร้อนเลย สำหรับ ค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ (ที่มาจากเว็ปไซด์ Air4Thai) พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. ในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง 60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง 54 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนในตำบลสุเทพ อำเภอเมือง มีค่าอยู่ที่ 27 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่ดี โดยเป็นผลมาจากกำลังลมที่พัดเข้ามาบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ทำให้ลมพัดเอากลุ่มควันทางภาคเหนือออกไปได้บางส่วน
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากที่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งกำลังทหาร ชุดเหยี่ยวไฟ ชุดเสือไฟ อส. และชุดเผชิญเหตุฯของ อบจ. เข้าไปร่วมกับชุดปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ตั้งแต่เมื่อวาน รวมทั้งขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เข้าควบคุมไฟในตำบลปิงโค้งและตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว ซึ่งเป็นหน้าผาสูงชัน กำลังภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าไปได้ ควบคู่กับการส่งกำลังได้ทำการลาดตระเวน ออกตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนฯ รวมทั้งเข้าไปพบปะและประชาสัมพันธ์มาตรการห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างการการรับรู้ให้กับราษฎรในพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนแต่ละพื้นที่ที่ในการมีส่วนร่วมสอดส่องดูแล และเฝ้าระวังการลักลอบเผาป่าเป็นอย่างดี