<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

สิ้นแล้วครูเพลงแต่งเพลงไอ้หนุ่มดอยเต่า ด้วยวัย 65 ปี



 สิ้นแล้วครูเพลงแต่งเพลงไอ้หนุ่มดอยเต่า ครูเพลงศิลปินล้านนาอารมณ์ดี ป้อเทพธารา ปัญญามานะ ด้วยวัย 65 ปี  หลังป่วยหนักหลายโรครุมเร้าถือเป็นการปิดตำนานนักร้องศิลปินล้านนาอารมณ์ดีและนักจัดรายการแพลงจิตอาสา 

ผู้สื่อข่าวรายงาน นายสมเทพ ปัญญามานะ  หรือที่รู้จักันดีในนาม เทพธารา ปัญญามานะ ศิลปินเพลงผู้ทำให้อำเภอดอยเต่าเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ กับบทเพลง "ไอ้หนุ่มดอยเต่า" ที่เคยโด่งดังเมื่อกว่าสามสิบปีที่ผ่านมา ป่วยหนักหลังพบเนื้อร้ายในช่องปอด และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ได้กว่าสองเดือน โดยได้สิ้นชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้  20 สิงหาคม 2560 ด้วยวัย 65 ปี  
เทพธารา ปัญญามานะ เกิด 19 ธันวาคม  2495  ประกอบอาชีพแต่งเพลงให้กับศิลปินจำนวนมาก แต่ฐานะทางการเงินไม่ค่อยดีนัก โดยในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2560 จะมีพิธีรดน้ำศพที่วัดปิยาราม (วัดป่าแงะ) เวลา 14.00 น.อย่างไรก็ตามยังเป็นนักจัดรายการอยู่ที่คลื่น FM 97.5 MHz. / CM77.COM ในแบบจิตอาสา เคยกล่าวกับผู้ร่วมงานว่าที่มาจัดรายการไม่หวังอันใดมากไปกว่าให้ชื่อเสียงของตนยังคงเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป จัดรายการถ่ายทอดเรื่องราวของเมืองเชียงใหม่แต่หนหลังทั้งสาระและความขบขัน
ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพ่อครู เทพธารา ปัญญามานะ  มาณ.ที่นี้




การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานมหัศจรรย์ผ้าไทยเทิดไท้องค์ราชินี



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานมหัศจรรย์ผ้าไทยเทิดไท้องค์ราชินี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่จังหวัดเชียงใหม่ หวังกระตุ้นให้เกิดการเดินทางไปท่องเที่ยวและสัมผัสวิถีชุมชนในแหล่งผลิตผ้าไทยในทั่วทุกภูมิภาค

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2560 ที่หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานมหัศจรรย์ผ้าไทย เทิดไท้องค์ราชินี โดยมีนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ ซึ่งงานจัดขึ้นเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ "ผ้าไทย" เป็นศิลปหัตถกรรมที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ท้องถิ่นและความสวยงามของผ้าไทยในแต่ละภูมิภาค โดยมีผู้สนใจ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก 
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานอัศจรรย์ผ้าไทย เทิดไท้องค์ราชินี ถือว่าเป็นงานสำคัญที่จัดขึ้นในเดือนสิงหาคม เนื่องจากเป็นเดือนพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางไปท่องเที่ยวและสัมผัสวิถีชุมชนในแหล่งผลิตผ้าไทยในทั่วทุกภูมิภาค โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการแสดงผ้าไทยจากทุกภูมิภาค และนิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางผ้าไทย พร้อมเลือกซื้อผ้าไทยจากชุมชนผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งเปิดโอกาสให้ ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ อาทิ ห้องเสื้อ Theatre โดยศิริชัย ทหรานนท์ นำแฟร์ชั่นจากผ้าทอลาวครั่ง จังหวัดสุพรรณบุรี , ห้องเสื้อ Anchavika โดยอัญชลี วิกสิตนาคกุล นำชุดผ้าทอนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง , Disaya โดยดิษยา สรไกรกิตติกุล กับชุดผ้าทอสันกำแพง เป็นต้น ตลอดจน ได้นำดีไซเนอร์จาก 5 สถาบันการศึกษามาแสดงผลงานในการออกแบบเครื่องแต่งกายจากผ้าทอท้องถิ่นต่าง ๆ และนำมาร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ด้วย
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเชิญชวน ผู้สนใจร่วมสัมผัสคุณค่าของผ้าไทยได้ในงาน มหัศจรรย์ผ้าไทย เทิดไท้องค์ราชินี สามารถเข้าชมได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์จังหวัดเชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 19 - 20 สิงหาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 10.00 -20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือ www.tourismthailand.org/thaifest
กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน










กสทช. เปิดตัวแอปพลิเคชั่น “กันกวน” ลดการถูกคุกคามจากการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์




กสทช. เปิดตัวแอปพลิเคชั่น “กันกวน” เพื่อปิดกั้นเบอร์โทรศัพท์และข้อความ จากผู้ประกอบการหรือกลุ่มธุรกิจ ลดการถูกคุกคามจากการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ในสังคมยุคปัจจุบัน 

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2560 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์  เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. พร้อมด้วย นายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันเปิดตัวแอปพลิเคชั่น “กันกวน” ที่ศูนย์การค้าเมญ่า อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการทั้ง 5 ค่าย ประกอบด้วย AIS DTAC TRUE TOT CAT คุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ลดการถูกคุกคามของประชาชนจากการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ในสังคมปัจจุบันและในอนาคต รวมทั้ง คุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยวิธีการปิดกั้นเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามารบกวนก่อให้เกิดความรำคาญ เช่น การกลั่นแกล้ง การขายตรง การขายประกัน และการติดตามทวงหนี้
ทั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “กันกวน” ไปแล้วในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน ซึ่งดูได้จากยอดดาวโหลดแอปพลิเคชันที่เพิ่มขึ้นทั้งในระบบ App Store และ Play Store เนื่องจากทุกภาคส่วนล้วนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะช่วยพัฒนา คุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ลดการถูกคุกคามต่อประชาชน ทั้งนี้จึงได้มีการลงพื้นที่ต่อเนื่องในจังหวัดภูเก็ต  และสำหรับจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดสุดท้าย เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เกิดการเข้าถึงประชาชนทั่วทุกภูมิภาค
สำหรับวิธีการใช้งาน ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้จาก App Store และ Play Store ผ่านการ Search “กันกวน” เมื่อทำการดาวน์โหลด และติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ระบบจะให้กรอกข้อมูลยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน เพื่อเป็นการป้องกันการกลั่นแกล้งกรณีแจ้งระงับเบอร์ และใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบข้อมูลทั้งผู้แจ้งให้ปิดกั้นเบอร์ และผู้ถูกปิดกั้นเบอร์ แอปพลิเคชัน “กันกวน” เป็นการสร้างความร่วมมือจากผู้ใช้ ในการนำเสนอข้อมูลจากการโทรรบกวนร่วมกัน โดยประชาชนเสมือนตำรวจออนไลน์ในการตรวจสอบ แบ่งปันข้อมูล และปกป้องสิทธิจากการรบกวนดังกล่าว
เลขาธิการ กสทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า แอปพลิเคชั่น “กันกวน” จะแบ่งระบบการจัดการออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเรียกว่า บัญชีสีขาว (White list) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ White list ที่สามารถปิดกั้นได้ เช่น การขายที่ไม่พึงประสงค์ การขายประกัน ขายสินเชื่อ และขายตรง ซึ่งต้องมีการลงทะเบียนเข้าระบบแอปพลิเคชันกันกวน เพื่อให้ประชาชนทราบถึงเลขหมายที่มีการโทรเข้า และเลือกรับสายได้ สำหรับ White list ที่ไม่สามารถปิดกั้นได้ แต่สามารถโทรได้ในช่วงเวลา วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น. เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนแก่ประชาชน เช่น การติดตามทวงหนี้ ทวงถามการชำระเงินจากผู้ประกอบการด้านการสื่อสาร หรือจากสถาบันการเงิน ส่วนที่ 2 เรียกว่า บัญชีสีดำ (Black list) สำหรับเบอร์ที่สร้างการรบกวน เกินเวลาที่กำหนด โดยสำนักงาน กสทช. จะทำการรวบรวมเบอร์โทรศัพท์ที่รบกวน ส่งไปให้ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม ทุกค่าย สำหรับบทลงโทษ จะมีการตักเตือน ปิดกั้นเบอร์เป็นเวลา 3 เดือน และยกเลิกเบอร์ในที่สุด







ชุมชนอนุรักษ์ช้างบ้านแม่กลาง แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่เส้นขึ้นดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง เชียงใหม่


เชิญชวนไปสัมผัส ชุมชนอนุรักษ์ช้างบ้านแม่กลาง แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่เส้นขึ้นดอยอินทนนท์ ท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงอนุรักษ์สัมผัสวิถีชีวิตช้าง เน้นการป้อนอาหาร เล่นกับช้างอาบน้ำให้ ไม่ทรมานช้าง 

ชุมชนอนุรักษ์ช้างบ้านแม่กลาง หรือ Maeklang Elephant Conservation ปางช้างแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนถนนสายขึ้นดอยอินทนนท์ เลี้ยวซ้ายเข้าทางบ้านแม่หอย ซอย 1 ไปซอยบ้านสันป่าป๋วยซอย 1 อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็น หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของอำเภอจอมทอง ซึ่งในเวลานี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มจะรู้จักและเข้ามาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก
นายคีตวัฒน์ คานิยอร์ ผู้บริหารกล่าวว่า ปางช้างแห่งนี้เพิ่งเกิดขึ้นได้เพียง 1 เดือนเศษ เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งยุโรปและอเมริกา ในแต่ละวันจะมีเดินทางมาเที่ยวประมาณ 50-60 คนต่อวัน โดยเป็นกรุ๊ปทั้งแบบครอบครัว หมู่เพื่อนที่จะพากันมา ความแตกต่างของปางช้างแห่งนี้จะเป็นการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สอนให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนกับช้าง จะไม่มีการผูกล่ามโซ่ช้างจะปล่อยให้ช้างเป็นอิสระ กิจกรรมที่มีก็เริ่มจากการล้างอาหาร ป้อนอาหาร การเล่นกับช้างในโคลน และจบด้วยการอาบน้ำกับช้าง เป็นทริปครึ่งวัน ส่วนเต็มวันจะมีกิจกรรมเพิ่มให้กับการอยู่เลี้ยงช้างเพิ่มขึ้น
สำหรับช้างในปางจะเป็นตัวเมียทั้งหมด ตอนนี้มีจำนวน 6 เชือก นำมาจากจ.สุรินทร์ จ.ตาก และอ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นับเป็นการเริ่มของการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งแห่งใหม่บนถนนสายขึ้นดอยอินทนนท์ ทำให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเที่ยวปางช้างแห่งนี้เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สอนให้รู้จักธรรมชาติของช้างเป็นหลัก สำหรับในช่วงนี้ คนไทยจะเปิดให้เข้าเที่ยวชมฟรี ส่วนในอนาคตหากนักท่องเที่ยวไทยเข้ามามากขึ้น ก็จะหารือร่วมกับชุมชนในการจัดเก็บค่าเข้าชมโดยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับชุมชนเพื่อใช้พัฒนาพื้นที่ ก็เป็นอีกทางเลือกของการเที่ยวปางช้างที่จะแตกต่างจากที่อื่นๆ โดยเฉพาะการเดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอจอมทอง แล้วมีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกก่อนจะเดินทางขึ้นดอยอินทนนท์







ห้ามพลาดต้องไปชมให้ได้ !!!! หุ่นยักษ์ M Sport สูงที่สุดและสนามไดร์ฟกอล์ฟ ยาวที่สุดในประเทศไทย



ห้ามพลาดต้องไปชมให้ได้ !!!! หุ่นยักษ์ M Sport สูงที่สุดและสนามไดร์ฟกอล์ฟ ยาวที่สุดในประเทศไทย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเพียง 3 วันนักท่องเที่ยวไทยต่างประเทศขอถ่ายภาพเซลฟีตลอดทั้งวัน ส่วนสนามไดร์ฟกอล์ฟยาวที่สุด 388 หลา มีโปรไทยมาตีได้ 330 หลา

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณสี่แยกหลุยส์ ตำบลต้นเปา กำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเซลฟี่ของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ่นยักษ์ M Sport ขนาดใหญ่สูง 8 เมตร เท่ากันตึก 2 ชั้นครึ่งและอีกหลายตัวที่ตั้งโชว์จนกลายเป็นแม่เหล้กดึงดูดไม่วาจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่จะต้องมาขอถ่ายภาพเซลฟี่กับหุ่นยักษ์กัน และสนามไดร์ฟกอล์ฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย 388 หลา นายทวีวัฒน์ เดชโพธิยานนท์ อายุ 46 ปี เจ้าของ M SPORT กล่าวว่าตนเองได้มาพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ให้กลับมาคึกคักมีชีวิชีวาของถนนสายวัฒนธรรมหรือถนนสันกำแพงสายเก่า หลังจากมีการตัดถนนใหม่ทำให้ผู้คนไม่ค่อยใช้เส้นทางนี้มากหนัก จึงได้มาลงทุนทำเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์แบบครบวงจร โดยเฉพาะสนามไดร์ฟกอล์ฟที่ยาวที่สุดและดีที่สุดในประเทศไทย ยาว 388 หลา โดยล่าสุดมีโปรกอล์ฟมาตีไกลที่สุด 330 หลา เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของนักกอล์ฟที่จะมาพิชิตสนามไดร์ฟแห่งนี้
ส่วนเจ้าหุ่นยักษ์ M Sport ซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศตัวนี้มีความสูง 8 เมตร เป็นฝีมือช่างคนไทยที่นำเศษวัศดุของเครื่องยนต์มาประกอบ ซึ่งใช้เวลา 1 ปีในการประกอบแล้วเสร็จราคาเกือบ 1 ล้านบาท และมีตัวขนาดเล็กอีก 7 ตัว ที่ได้รวบรวมมาจากที่ต่างๆ มาตั้งโชว์ โดยจากนี้จะมีหาซื้อปละประกอบขึ้นอีกให้เป็นอุทยานของหุ่นยนต์ทุกตัวมารวบรวมทำขึ้นและจะสร้างให้สูงขึ้นกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับช่างเพราะต้องใช้การคำนวนศูนย์ถ่วงที่ดี เพราะใช้เศษวัสดุจากอุปกรณ์รถยนต์มาประกอบ
ส่วนพื้นที่ทั้งหมด 85 ไร่ กำลังจะก่อสร้างไปเรื่อยคาดอีก 1 ปีเศษจะมีแบบครบวงจรให้ทุกคนได้เดินทางมาออกกำลังได้ทุกชนิดกีฬา มีความพร้อมในทุกด้านมีลานจอดรถได้ 180 คัน เพื่อรองรับผู้มาใช้บริการ หลังจากเปิดได้ 3 วันได้การตอบรับจากโปรกอล์ฟและนักกอล์ฟให้ความสนใจเดินทางมาทั้งที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะเจ้าหุ่นยักษ์ M Sport ตัวใหญ่นักท่องเที่ยวนั่งรถบัสรถบริการจะเข้ามาขอถ่ายภาพตลอดทั้งวันจนกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่











ชาวเชียงใหม่ ทุกภาคส่วนร่วมใจจัดกิจกรรม ปลูกดอกปอเทือง



ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ นำหัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษาวิชาทหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ปลูกดอกปอเทือง เพื่อเพื่อให้เหลืองอร่าม ทั่วบริเวณพื้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ในช่วงจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2560 เวลา 09.30 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษาวิชาทหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมเปิดกิจกรรมปลูกดอกไม้สีเหลือง (ดอกปอเทือง) ซึ่งเป็นสีวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพื้นที่บริเวณหน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดงานถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560
โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้รณรงค์ให้ส่วนราชการ สถานที่สำคัญของจังหวัด บริษัทห้างร้าน และบ้านเรือนของประชาชน ปลูกดอกดาวเรือง และดอกไม้สีเหลืองเพื่อให้บานพร้อมกันทั้งจังหวัดในช่วงการจัดงาน ซึ่งการปลูกดอกปอเทืองในครั้งนี้ คณะทำงานฝ่ายประดับและตกแต่งสถานที่ ดำเนินการปลูกระหว่างวันที่ 15-18 สิงหาคม 2560 รวมทั้งได้ออกแบบและตกแต่งบริเวณโดยรอบสถานที่ประกอบพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยดอกดาวเรืองและดอกไม้สีเหลือง เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรม
ขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข่าว : ณัฏฐ์ สินันตา – สุดาภรณ์ อินต๊ะธรรม / ส.ปชส.เชียงใหม่








ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่นำประชาชน จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา



ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่นำประชาชน จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา  

 เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 12 สิงหาคม 2560 ที่ บริเวณห้องนิทรรศการ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางมลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ เจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ หัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการ ตำรวจ ทหาร รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เริ่มพิธีถวายเครื่องราชสักการะพร้อมกับส่วนกลาง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถวายเครื่องราชสักการะ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 จากนั้น ได้จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เพื่อจุดต่อให้กับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ และกล่าวนำถวายพระพรราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชินี และเพลงเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยอยู่ดี มีสุข
ขอบพระคุณภาพข่าวจาก ณัฏฐ์ สินันตา / สุพิชฌาย์ อุ่นแสง – ส.ปชส.เชียงใหม่ 









ชาวเชียงใหม่พร้อมใจเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 12 สิงหาคม 2560


ชาวเชียงใหม่พร้อมใจเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 12 สิงหาคม 2560 อย่างพร้อมเพรียงกัน

วันที่ 12 สิงหาคม 2560 เวลา  06.30 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำข้าราชการ สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชน องค์กรสาธารณกุศล ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 86 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 12 สิงหาคม 2560 ที่ห้องโถง ด้านหน้า อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา
จากนั้น ได้พร้อมใจกันลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9   ที่ห้องนิทรรศการ 1 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ และเดินทางไปลงนามถวายพระพรชัยมงคล ณ เรือนรับรอง ภายในพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่
ส่วนในช่วงเย็น เวลา 18.00 น. วันนี้(12 ส.ค.60) จังหวัดเชียงใหม่กำหนดจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลที่ห้องนิทรรศการ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา โดยได้เชิญชวนประชาชนชาวเชียงใหม่ทุกหมู่เหล่าร่วมแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกัน
ขอบคุณภาพข่าว จาก สุพิชฌาย์ อุ่นแสง / ณัฏฐ์ สินันตา – ส.ปชส.เชียงใหม่







“เอสเซนโซ่” จัดกิจกรรมชงชิม ฟรี!! 4 ภาคทั่วไทย


“เอสเซนโซ่” จัดกิจกรรมชงชิม ฟรี!! 4 ภาคทั่วไทย

หลังทำการเปิดตัว "เอสเซนโซ่ " กาแฟ ไมโครกราวด์ บุกตลาด 3 in 1 และ 2 in 1 เป็นกาแฟคั่วบดละเอียด (กาแฟสด) ในปี 2559 ที่ผ่านมา จนประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยยอดขายกว่า 165 ล้านบาท ในปีแรก และเพื่อทำการตลาดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ในปี 2560 บริษัท เอส ซี เอ็ม แอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกาแฟปรุงสำเร็จ ภายใต้แบรนด์ "ซุปเปอร์กาแฟ"และแบรนด์ "เอสเซนโซ่" จากประเทศสิงคโปร์ ได้ใช้งบประมาณ 180 ล้านบาท สำหรับการออกสินค้าใหม่ "เอสเซนโซ่ ไมโครกราวด์ แบล็ค คอฟฟี่" เป็นกาแฟคั่วบดละเอียด (กาแฟสด) มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะ 2 สัมผัสใหม่ ได้อย่างเต็มรสเต็มกลิ่นในแบบกาแฟดำที่ปราศจากน้ำตาลหรือนม เพื่อเพิ่มจำนวนกลุ่มผู้บริโภคแตกไลน์ไปสู่กลุ่มที่ชื่นชอนดื่มกาแฟดำให้มีมากขึ้น 
บริษัทได้ทำการประชาสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขาย ในทุกเซ็กเมนต์ พร้อมกันนี้ ยังดึงศิลปินชื่อดัง อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธและแต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อเข้าถึงคอกาแฟได้ทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น โดยมีการผลิตภาพยนต์โฆษณา ให้ “อาเล็ก-ธีรเดช” สวมบทเพื่อนบ้านหนุ่ม และ“แต้ว-ณฐพร”เป็นเพื่อนบ้านสาว มาพบรัก ด้วยการนำทางของความหอมกรุ่น ของกลิ่นหอมจาก “เอสเซนโซ่ ไมโครกราวด์คอฟฟี่”
ซึ่งแฟนๆ ของดาราดังทั้ง 2 คน สามารถติดตามชมได้ในช่องโทรทัศน์หลักๆและสื่อต่างๆ นอกจากนี้ “อาเล็กและแต้ว” แบรนด์แอมบาสเดอร์ จะสลับผลัดเปลี่ยน เดินสายพบปะแฟนคลับ ในการนำ "เอสเซนโซ่ ไมโครกราวด์ แบล็ค คอฟฟี่" ชงให้ได้ชิมกันสดๆ ถึง 4 จังหวัด 4 ภาค โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ ,วันที่ 12-14 ส.ค.เซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ,วันที่ 27 ส.ค.เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช และวันที่ 21-24 ก.ย. เซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น