<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

กองกำลังผาเมืองสรุปผลการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ปี 64

 

กองกำลังผาเมืองสรุปผลการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ปี 64 ยึดยาบ้ากว่า 25 ล้านเม็ด เฮโรอีน 67 กิโลกรัม และไอซ์ 669 กิโลกรัม โดยจังหวัดเชียงใหม่มีผลการตรวจยึดยาบ้าและเฮโรอีนมากที่สุด 

      พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า   จากภารกิจในการป้องกันประเทศ การสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนของกองกำลังผาเมือง ที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่ติดกับชายแดนไทย – เมียนมา และติดกับ สปป.ลาว โดยที่ผ่านมากองกำลังผาเมืองได้วางมาตรการในการสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด ด้วยการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ การลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ การปิดล้อมตรวจค้นตลอดจนการซุ่มโจมตีของกำลังในพื้นที่   โดยในห้วงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงปัจจุบัน ตรวจพบการกระทำผิด จำนวน 435 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 533 คน กลุ่มขบวนการเสียชีวิต จำนวน 5 คน ตรวจยึดยึดยาบ้ากว่า 25 ล้านเม็ด เฮโรอีน 67 กิโลกรัม และไอซ์ 669 กิโลกรัม โดยชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ตรวจยึดยาบ้าและเฮโรอีนมากที่สุด  ในขณะที่ชายแดนจังหวัดเชียงรายตรวจยึดไอซ์ มากที่สุด

      ในส่วนของการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ห้วงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงปัจจุบัน ตรวจพบการกระทำผิด  175 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา  624 คน, ผู้นำพา  56 คน  ตลอดจนใช้กลไกคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา (TBC ฝ่ายไทย) ในการอำนวยความสะดวกผลักดันบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา กลับออกนอกราชอาณาจักร  2,559 คน ทั้งนี้หน่วยยังสามารถจับกุมคนไทยที่ลักลอบ เข้า - ออก ประเทศโดยผิดกฎหมาย  120 คน ขณะที่ปัจจุบันมีคดีของผู้นำพาฯ จำนวน  32 คดี คดีถึงที่สุด 18 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการ 14 คดี 

     ทั้งนี้จากสถานการณ์ความไม่สงบและสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การปราบปรามยาเสพติดภายในประเทศเมียนมาลดลง และถูกจำกัด  แต่ชนกลุ่มน้อยและกลุ่มขบวนการ ยังคงมีความพยายาม ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังประเทศไทยในพื้นที่ด้านจังหวัดเชียงใหม่  และจังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง  รวมทั้งยังใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่าน ในการลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามในการเสริมสร้างกำลังและการขยายเขตอิทธิพลของกองกำลังชนกลุ่มน้อย ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน

   อย่างไรก็ตาม จากความร่วมมือของทุกหน่วยที่ปฏิบัติภารกิจ ตลอดปีงบประมาณ 2564  ส่งผลให้การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด การสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังผาเมือง สามารถลดการนำเข้ายาเสพติดตลอดจนการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่จะเข้าสู่พื้นที่ตอนในได้สำเร็จ ตามเจตนารมณ์ของกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 3 เพื่อให้ปัญหายาเสพติดและการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหมดไปจากภาคเหนือ











สำนักงานชลประทานที่ 1 จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ดูงานชลประทาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564

 


สำนักงานชลประทานที่ 1 จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ดูงานชลประทาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ในพื้นที่โครงการชลประทานและโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา เขตสำนักงานชลประทานที่ 1

     เมื่อวันอังคารที่ 14 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น. นายอภิวัฒน์ ภูมิไธสง ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 1 พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานชลประทานที่ 1  นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ลงพื้นที่ดูงานโครงการชลประทานเชียงใหม่ เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่โครงการฯ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำในอนาคต ตลอดจนแผนการพัฒนาชลประทานระยะ 20 จังหวัดเชียงใหม่ ณ โครงการชลประทานเชียงใหม่ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ นายสิรภพ แท่นมณี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโครงการชลประทานเชียงใหม่ให้การต้อนรับ 

       สำหรับโครงการชลประทานเชียงใหม่ แบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบออกเป็น 8 ส่วน โดยมีฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1-8 เป็นผู้รับผิดชอบ 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ มีโครงการชลประทานประเภทอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก จำนวน 176 แห่ง แก้มลิง 1 แห่ง ฝาย 450 แห่ง ประตูระบายน้ำ 5 แห่ง สถานีสูบน้ำ ระบบส่งน้ำ ระบบระบายน้ำและอื่น ๆ รวม 402 แห่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้มีพื้นที่ทำการเกษตรที่เหมาะสม ทุกภาคส่วนได้รับน้ำอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ตลอดจนราษฎรได้รับความสูญเสียเนื่องจากภัยอันเกิดจากน้ำลดลง ทั้งนี้ได้ดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ กรอบการพัฒนาระยะยาว และยุทธศาสตร์กรมชลประทานทั้ง 6 ประการ สำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จะประเมินตามศักยภาพของลุ่มน้ำ ในช่วงที่เกิดน้ำแล้ง จะดำเนินการเพิ่มน้ำต้นทุน ให้มีกระจายน้ำและการบริหารจัดการน้ำตามโครงการต่าง ๆ ในช่วงที่เกิดน้ำท่วมทางโครงการชลประทานเชียงใหม่มีแผนป้องกันพื้นฟูสภาพต้นน้ำ ฟื้นฟูแหล่งน้ำ พัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำ ระบบระบายน้ำ ซึ่งจะมีระบบป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน ตลอดจนพื้นที่รับน้ำนองและแก้มลิง  ในช่วงที่เกิดน้ำเสียตามแหล่งน้ำต่าง ๆ จะมีการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้กับประชานชน พร้อมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำเพื่อเจือจางน้ำเสีย รวมถึงการกำจัดวัชพืชที่จะเป็นอุปสรรคในการเดินทางของน้ำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดน้ำเน่าเสียเช่นกัน 

       ส่วนการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำในอนาคตของจังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 4 กิจกรรมหลักๆ ได้แก่การอุปโภค-บริโภค 95.64 ล้านลูกบาศก์เมตร การรักษาระบบนิเวศน์ 130.91 ล้านลูกบาศก์เมตร การเกษตร (ในเขตพื้นที่ชลประทานและนอกเขตพื้นที่ชลประทาน) 1,942.34 ล้านลูกบาศกเมตร และอุตสาหกรรม 16.06 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง 4 กิจกรรม 2,184.95 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งคาดการณ์ว่าในอีก 20 ปี (พ.ศ.2580) จะเพิ่มขึ้นอีก 1,534.84 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเท่ากับ 3,719.79 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 70.24% สำหรับแผน-ผลการเพาะปลูกพืชฤดูฝนปี 2564 ในพื้นที่เขตความรับผิดชอบของโครงการชลประทานเชียงใหม่ได้วางแผนไว้ 81,366 ไร่ ปัจจุบันดำเนินการตามแผนแล้ว 75,491 ไร่ คิดเป็น 92.77% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตามทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ ยังคงมีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำชับให้บุคลากรผู้รับผิดชอบร่วมลงพื้นที่เพื่อชี้แจงสถานการณ์น้ำและเหตุการณ์สำคัญ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจและแจ้งเตือนเหตุการณ์กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนมีการรณรงค์ให้ใช้น้ำฝนเป็นหลักและใช้น้ำชลประทานเสริมเพื่อจะได้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าอีกด้วย















ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชียงใหม่ พุ่ง พบรายใหม่ถึง 96 ราย / 13 ก.ย.64

 

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ พุ่งสูง พบรายใหม่ถึง 96 ราย โดย 95 ราย เป็นการติดเชื้อในจังหวัด ติดตามรายละเอียดจากการแถลงเย็นนี้

สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (13 ก.ย.64) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มจำนวนมากถึง 96 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดถึง 95 ราย ส่วนอีก 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ 3,244 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 490 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ 191 ราย โรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจ (แม่ตื่น) 18 ราย โรงพยาบาลรัฐ 109 ราย โรงพยาบาลเอกชน 168 ราย และโรงพยาบาลต่างจังหวัด 4 ราย โดยศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ จะแถลงรายละเอียดในเย็นวันนี้

สำหรับผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 383 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 99 ราย และอาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 8 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 38 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมระลอกเดือนเมษายนของจังหวัดเชียงใหม่ (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 จนถึงปัจจุบัน) มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วทั้งหมด 7,413 ราย และรักษาหายแล้ว 6,876 ราย 

ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีผู้ประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 909,985 คน มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 501,347 คน คิดเป็นร้อยละ 39.75 ของเป้าหมาย แบ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดแล้ว 151,483 คน คิดเป็นร้อยละ 46.23 กลุ่ม 7 โรคเรื้อรังฉีดแล้ว 63,333 คน คิดเป็นร้อยละ 52.28 และกลุ่มประชาชนทั่วไป ฉีดแล้ว 812,403 คน คิดเป็นร้อยละ 35.27

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่/ข่าว

13 กันยายน 2564





จับ “Crazy German” กลางเมืองเชียงใหม่ ปล่อยให้ลูกค้าต่างชาติดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ฝ่าฝืนคำสั่ง คกก.โรคติดต่อเชียงใหม่

 

จับ “Crazy German” กลางเมืองเชียงใหม่ ปล่อยให้ลูกค้าต่างชาติดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ฝ่าฝืนคำสั่ง คกก.โรคติดต่อเชียงใหม่ 

วันที่ 8 ก.ย. 64 ภายใต้การอำนวยการของ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการให้ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ นายอภิชาติ เหมือนมนัส นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ มอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรีเดชพงศ์ นาคเสวี ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายเอกชัย แสนใจ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายณัฐกร ชุ่มอินทรจักร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย สมาชิก อส. กองร้อย อส.อำเภอเมืองเชียงใหม่ที่ 2 บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ดำเนินการจับกุมสถานประกอบการ ร้านอาหาร ซึ่งเปิดให้บริการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ 1 แห่ง ชื่อร้าน “Crazy German” ตั้งอยู่เลขที่ 317 ถนนช้างม่อย ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้บริการและมีลูกค้าใช้บริการภายในร้าน โดยยินยอมให้มีการบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ภายในบริเวณร้าน

ผู้สื่อข่าว รายงานวัน ชุดจับกุมทำการจับกุบผู้ประกอบการ 1 ราย โดยกล่าวหาว่า “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 127/2564 เรื่อง มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แบบบูรณาการ ข้อ 2 ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยได้ยินยอมให้ลูกค้าบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและพื้นที่ต่อเนื่อง”

นอกจากนี้มีรายงานว่า ชุดจับกุมยังทำการจับกุมผู้นั่งบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารดังกล่าวอีก 1 ราย โดยกล่าวหาว่า “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 127/2564 เรื่อง มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แบบบูรณาการ ข้อ 2 ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม และพื้นที่ต่อเนื่องตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ” 

จากการตรวจสอบในร้าน พบว่า ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบภายในร้านดังกล่าว พบผู้มาใช้บริการอีกจำนวนหนึ่งซึ่งนั่งกินอาหารและดื่มเครื่องดื่มแต่เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ จึงได้ดำเนินการทำบันทึกจับกุมเฉพาะผู้ที่กระทำความผิด ทั้ง 2 ราย นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News >>> สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน



















ผกก.สภ.ช้างเผือก ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหลังหนุ่มทำร้ายตำรวจ ช่วงม็อบศาลากลางเชียงใหม่ เข้ามอบตัวตามหมายเรียกพร้อมทนาย เพื่อสู้คดีเชิญ กต.ตร. ช้างเผือก รับทราบข้อเท็จจริงหาทางออก ลดความขัดแย้ง


ผกก.สภ.ช้างเผือก ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหลังหนุ่มทำร้ายตำรวจ ช่วงม็อบศาลากลางเชียงใหม่
เข้ามอบตัวตามหมายเรียกพร้อมทนาย เพื่อสู้คดีเชิญ กต.ตร. ช้างเผือก รับทราบข้อเท็จจริงหาทางออกลดความขัดแย้ง

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 กันยายน 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางเข้าออก พร้อมให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข มาร่วมคัดกรองการเข้า-ออก ของประชาชนที่จะเข้ามาติดต่อราชการ หลังจากที่ได้มีการออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาที่ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวันที่มีการจัดคาร์ม็อบแม่น้ำ 5 สาย เพื่อขับไล่นายกฯ แก้ไข รธน. และเรียกร้องวัคซีน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกตัว นายเอกจีรวัฒน์ บริกัปปกุล มารับทราบข้อกล่าวหา

ด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการความชุลมุนในช่วงที่มีการรวมกลุ่มของประชาชน ซึ่งได้มีการปะทะกันเล็กน้อย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่มีการชุมนุมวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยในคลิปปรากฏว่า มีชายวัยรุ่นชกหมัดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ตอบโต้ เพียงแต่เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น ก็มีการประกาศว่าเจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชน แต่เมื่อมีคลิปปรากฏออกมาในโลกออนไลน์ปราฏว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ทำร้ายใคร จึงได้ออกหมายเรียกชายดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้ และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ขณะเดียวกันทางหนึ่งในแกนนำที่เดินทางมาด้วย ทางด้าน ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้เชิญไปพูดคุยในห้องประชุมของ กต.ตร. เพื่อพูดคุยและชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี กต.ตร.สภ.ช้างเผือก ซึ่งเป็นตัวกลางระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน ช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย

สำหรับด้านของนายเอกจีรวัฒน์ หลังจากได้รับทราบข้อกล่าวหาเสร็จแล้ว ก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น ขณะเดียวกันเตรียมชี้แจงเป็นหนังสือตามข้อกล่าวหา ส่งผ่านทางทนายความ ภายในวันที่ 22 กันยายน 2564 นี้ ซึ่งภายหลังจากการรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็ได้เดินทางกลับพร้อมกับทนายความและเพื่อนที่เข้าร่วมการชุมนุม

กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News  สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน.