<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตำรวจภูธรภาค ๕ แถลงข่าวการขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่


ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตำรวจภูธรภาค ๕ 
(Children Women Families Protection Center and Anti Human Trafficking and fishing sector of Provincial Police Region 5) 
ขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 
.
สืบเนื่องจาก เมื่อวัน 29 มิถุนายน 2564 ตำรวจภูธรภาค ๕ โดย ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการจับกุมตัว หญิงที่เป็นแม่เล้า อายุ 29 ปี พร้อมพวก ในความผิดฐาน ข้อหา “ร่วมกันสบคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี , เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม เป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี , เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม , พรากและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง เพื่อการอนาจารและยุยงส่งเสริมเด็กประพฤติไม่สมควร” นั้น 
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.๕ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา รอง ผบช.ภ.๕ , พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.๕ ,พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน
ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.๕ , พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.๕ จึงได้สั่งการและแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อทำการขยายผลเครือข่ายการค้ามนุษย์ดังกล่าว 
พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่สืบสวนได้สืบสวนขยายผลจากคดีค้ามนุษย์ดังกล่าวข้างต้นพบผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก จำนวน 3 คน ถูกกลุ่มแม่เล้าชักชวนไปค้าประเวณีให้แก่ลูกค้าชาย ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผู้ซื้อประเวณีส่วนใหญ่เป็นชายสูงอายุจะติดต่อผ่านมายังแม่เล้าให้จัดหาเด็กสาวเพื่อมามีเพศสัมพันธ์และให้ค่าตอบแทนครั้งละ 1,000 – 2,000 บาท โดยนัดหมายให้แม่เล้านำเด็กสาวไปส่งยังโรงแรมต่างๆ หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ซื้อประเวณีเสร็จสิ้นแล้วแม่เล้าจึงมารับเด็กและแบ่งเงินค่าตัวกันโดยแม่เล้าได้รับส่วนแบ่งค่านายหน้า แม่เล้ายังมีเครือข่ายผู้จัดหาเด็กใหม่ๆมาเพื่อให้ผู้ซื้อประเวณีเลือกไม่ซ้ำหน้า 
จากการสืบสวนยังพบว่ามีผู้ซื้อประเวณีเด็กเป็นกลุ่มชายสูงอายุ ประกอบอาชีพพ่อค้า นักธุรกิจ ผู้รับเหมา และข้าราชการบำนาญ มีการซื้อบริการทางเพศเด็กซ้ำๆ บางครั้งซื้อประเวณีเด็กพร้อมกันสองคนเพื่อไปมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่ จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน ๗ หมาย ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ ภายใต้การอำนวยการของ ผบช.ภ.๕ สั่งการให้ชุดปฏิบัติการร่วมกันระดมกวาดล้างบุคคลตามหมายจับ และสามารถจับกุมผู้ซื้อประเวณีเด็กได้จำนวน ๖ ราย ดำเนินคดีในข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี , พรากและพาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่ออนาจาร โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ส่วนผู้ซื้อประเวณีรายอื่นอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับมาดำเนินคดีต่อไป 
สถานที่เกิดเหตุ โรงแรมม่านรูดในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.สันทราย อ.สันกำแพง และ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 
ผลการดำเนินคดี จับกุมผู้กระทำความผิดค้ามนุษย์ จำนวน ๖ คดี ผู้ต้องหา ๓ ราย 
จับกุมผู้ซื้อประเวณี จำนวน ๑๑ คดี ผู้ต้องหา ๗ ราย 
ช่วยเหลือผู้เสียหาย จำนวน ๔ คน 
-๒- 
เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. ได้ทำการจับกุมพ่อเล้าที่ชักจูงเด็กชายไปค้าประเวณีในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป 
พฤติการณ์แห่งคดี สืบเนื่องมาจาก เมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เจ้าหน้าที่ ศพดส.ภ.๕ เข้าช่วยเหลือเด็กชาย จำนวน ๒ คน ถูกพ่อเล้าได้ชักชวนกลุ่มเด็กชายเร่ร่อนบริเวณประตูท่าแพ ไปขายบริการทางเพศให้แก่ชาวต่างชาติ และกลุ่มคนไทยชายรักชาย พ่อเล้าจะพาเด็กไปส่งให้ลูกค้ามีเพศสัมพันธ์ตามสถานที่ต่างๆ เช่น โรงแรมม่านรูด ห้องน้ำในปั๊มน้ำมันหรือบางครั้งริมถนนจุดมุมอับลับตาผู้คน ค่าบริการครั้งละ ๕๐๐ - ๑,๐๐๐ บาท พ่อเล้าเก็บเงินทั้งหมดไว้และแบ่งให้เด็กเพียงค่าขนมและค่าเล่นเกมส์เท่านั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อช่วยเหลือเด็กที่เคยถูกผู้ต้องหาพาไปค้าประเวณี และได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบผู้ซื้อประเวณีเพื่อมาดำเนินคดีต่อไป 
ผลการดำเนินคดี จับกุมผู้กระทำความผิดค้ามนุษย์ จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา ๑ ราย 
ช่วยเหลือผู้เสียหาย จำนวน ๒ คน 
ตำรวจภูธรภาค 5 ขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้ 
1. ขอประชาสัมพันธ์ฝากสื่อมวลชนและประชาชนว่า นโยบายของรัฐบาลในการเร่งปราบปรามปัญหาการค้ามนุษย์ ประกอบกับการที่ประเทศไทยเป็นชาติสมาชิกที่ร่วมลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เราได้มีความจริงจังที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามหลักสากลว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิเด็กดังกล่าว โดยเด็กจะได้รับการรับรองและคุ้มครองตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ดังนั้นให้ผู้ที่คิดจะเป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณีเด็ก มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง และเป็นการยุยงส่งเสริมเด็กไปในทางมิชอบ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ 
2. เตือนผู้ชายที่มีรสนิยมชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่อายุยังไม่เกิน 18 ปี การกระทำดังกล่าวมีโทษตามกฎหมายอาญาที่สูง โดยเฉพาะเด็กที่อายุไม่เกิน 15 ปี แม้เด็กนั้นจะยินยอมก็ตาม และยังเป็นความผิดต่อบิดามารดา ผู้ปกครองของเด็กนั้นอีกด้วย 
3. ฝากเตือนผู้ปกครองเฝ้าระมัดระวังบุตรหลานมิให้เข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนดังกล่าวมักมาจากครอบครัวที่แตกแยก หรือมีความยากจนขัดสน หรือไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ ปล่อยให้เด็กหรือเยาวชนไปเที่ยวหรือพักอาศัยอยู่กับเพื่อนเป็นเวลานานๆ ซึ่งมักจะถูกหลอกลวงชักจูงได้ง่าย 
๔. โรงแรมและสถานประกอบการ ช่วยเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่เมื่อพบเห็นการนำเด็กไปค้าประเวณี 
๕. ตำรวจภูธรภาค ๕ ได้จริงจังในการปราบปรามอาชญากรรมรูปแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังพบว่ามีกลุ่มแม่เล้า ผู้ที่ชื่นชอบการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ตำรวจภูธรภาค ๕ จะได้ดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่องต่อไป 










ทหารพรานกองกำลังผาเมืองปะทะกลุ่มค้ายาในพื้นที่ อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จับกุมผู้ค้า 2 คนพร้อมยึดยาบ้า 251,400 เม็ด

 

ทหารพรานกองกำลังผาเมืองปะทะกลุ่มค้ายาในพื้นที่ อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จับกุมผู้ค้า 2 คนพร้อมยึดยาบ้า 251,400  เม็ด

      วันที่ 14 ส.ค. 64 พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า   เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา กองร้อยทหารพรานที่ 3314 กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 กองกำลังผาเมือง ( บก.ควบคุม ทพ.ศปก.ทภ.3 )จัดกำลังซุ่มโจมตี บริเวณ บริเวณดอยแหลม ต.แม่อาย อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำกำลังลาดตระเวนเพื่อตรวจการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณแนวชายแดน พบกลุ่มบุคคลประมาณ 3 คน แบกสัมภาระ เดินเข้ามาตามเส้นทางในภูมิประเทศ จึงได้แสดงตัว เพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ และเกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที ผลการปะทะฝ่ายเราปลอดภัย เมื่อคาดว่ากลุ่มขบวนการหนีออกจากพื้นที่ปะทะ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบกลุ่มขบวนการ  2 คน ทราบชื่อคือ นายสมภพ จะมู อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 บ.ดอยแหลม ต.แม่อาย อ.แม่อาย จว.ช.ม. และ นายจะอือ จะลอ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 บ.ดอยแหลม ต.แม่อาย   อ.แม่อาย จว.ช.ม. หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่พร้อมเป้ดัดแปลง จำนวน 2 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1  (ยาบ้า) ประมาณ  251,400  เม็ด 
     ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า จากการกดดันของหน่วยทหารต่อกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา วันนี้เราสามารถจับกุมผู้ค้ายาในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ได้ 2 ราย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ทางกองกำลังผาเมืองจะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สภ.แม่อาย ฝ่ายความมั่นคง ทำการขยายผลการจับกุมกลุ่มขบวนการมาอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ได้แจ้งเบาะแสการลักลอบค้ายาเสพติดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้ายาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่









สสปน. เดินหน้าปลุกเศรษฐกิจ จัด +BLOOMS FESTIVAL 2021ปักหมุดเชียงใหม่จุดหมายจัดงานประชุมและนิทรรศการ


สสปน. เดินหน้าปลุกเศรษฐกิจ จัด +BLOOMS FESTIVAL 2021 (พลัส บลูมส์ เฟสติวัล) สร้างแรงจูงใจเลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายในการจัดงานประชุมและนิทรรศการ

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จัด Plus Blooms Festival 2021 ซึ่งเป็นโครงการขยายผลของ Chiang Mai Blooms 2021 ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา งาน Plus Blooms Festival 2021 ในเดือนสิงหาคมนี้ จัดเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างแรงจูงใจในการเลือกจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายของการจัดงานประชุมและนิทรรศการ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และการจัดกิจกรรมองค์กรต่าง ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเดินทางธุรกิจ จึงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดเทศกาลที่จะเป็นเทศกาลท้องถิ่น ให้เป็นเทศกาลในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ขอเชิญร่วมงาน +BLOOMS FESTIVAL 2021 (พลัส บลูมส์ เฟสติวัล) ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ณ จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ (11 ส.ค. 64) คุณจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) พร้อมทั้งผู้แทนหน่วยงานความร่วมมือในจังหวัดเชียงใหม่ คุณมรกต ยศธำรงค์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรม ภาคเหนือ (NOHMEX) คุณรามาริน บุญสม ผู้แทนเครือข่ายงานคราฟท์ อ.ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานมูลนิธิสืบสานล้านนา และคุณดวงรัตน์ ญานะ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ จำกัด ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน Plus Blooms Festival 2021 ณ โฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนจากชุมชนในพื้นที่ ดำเนินการโดยเครือข่ายในพื้นที่ ที่จะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจ การจ้างงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การประสานงานร่วมกันระหว่างชุมชน องค์กรเอกชน ผู้ประกอบการท้องถิ่น ไปจนถึงระดับจังหวัด ซึ่งอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมไมซ์ สร้างกระบวนการพัฒนาศักยภาพของทุนในพื้นที่สำหรับนักเดินทางไมซ์ ทั้งทางด้านวิถีชีวิตที่เอกลักษณ์ การเชื่อมโยง ช่างฝีมือและศิลปินพื้นบ้านเข้ากับผู้ประกอบการโรงแรมร้านอาหาร สร้างจุดขายใหม่ ๆ ให้กับไมซ์ โดย Chiang Mai Blooms : Plus Blooms Festival 2021 ประกอบไปด้วยกิจกรรม 4 โครงการ ได้แก่
1. เทศกาลคราฟท์ บลูมส์ 2021 (Crafts Blooms Festival 2021) ระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม 2564
2. โครงการวิถีราชดำเนิน ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมเป็นต้นไป
3. โครงการการเดินทางของดอกไม้ ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมเป็นต้นไป
4. การประชุมวิชาการงานหัตถกรรมของเครือข่ายช่างฝีมือจากเมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative City of Craft and Folk Art Network) ในวันที่ 18 สิงหาคม 2564
“เทศกาลคราฟท์ บลูมส์ 2021” (Crafts Blooms Festival 2021) เทศกาลที่จะรวบรวมคนทำงานคราฟท์ทุกประเภทและเครือข่าย มาร่วมรังสรรค์บรรยากาศงานคราฟท์ให้มีสีสันมากกว่าที่เคย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 22 สิงหาคม 2564 เวลา 12.00 – 18.00 น. ด้วยกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่ กิจกรรมเสวนา 5 หัวข้อ ได้แก่ The Taste of Craft, The Taste of the City, City of Craft and Folk Art, Go wide, Go online, Creative District และ Craft Local to Global โดยวิทยากรจากหลากหลายวิชาชีพ กิจกรรมเวิร์คช็อป 15 งานคราฟท์ เช่น การทำผ้าอุ๊ก เพ้นท์เซรามิก การทำผ้ามัดย้อม ถักทอผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือทิ้ง, นิทรรศการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรรมสร้างสรรค์, กิจกรรมแนะนำร้านค้า สินค้างานคราฟท์จากผู้ผลิต อีกทั้งกิจกรรมย่อยอื่นๆ เช่น นิทรรศการเชิดชูผลงานศิลปินเอก (Lanna Wisdom Masterpiece), เซียมซีดอกไม้, Flower Kinetic Installation, และดนตรี ในรูปแบบ ONSITE (รับจำนวนจำกัด) ณ Weave Gallery (Weave Artisan Society) หรือร่วมกิจกรรมในรูปแบบONLINE โดยรับชมการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook live ได้ที่ page : www.facebook.com/PlusBlooms รวมถึง นำเสนอร้านค้าจากเครือข่ายเทศกาลคราฟท์กว่า 80 ร้านที่ https://www.plusblooms.com
“วิถีราชดำเนิน” (Rachadamnoen Model) เป็นกิจกรรมที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ร่วมกับภาคีเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ และผู้ประกอบการ ผู้อยู่อาศัยในชุมชนราชดำเนิน ร่วมกันปรับปรุงย่านถนนราชดำเนินให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการจัดแยกขยะ ปรับทัศนียภาพ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และทำให้เป็นต้นแบบของเมืองน่าเดิน (Walkable City) โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมเชื่อมโยงชุมชนช่างศิลป์สู่งานเชิงฟังก์ชั่น From Community to Function จับคู่สถานประกอบการ 10 แห่ง และ 10 พ่อครูแม่ครูและชุมชนช่างศิลป์ สร้างงานศิลปะเพื่อให้เป็นจุดสนใจ (Landmark) สำหรับประชาชนได้เดินชื่นชมและถ่ายรูปบนถนนราชดำเนิน ส่งผลให้เกิดมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จุดที่มีการติดตั้งงานศิลปะแลนด์มาร์ค 10 แห่ง ตลอดถนนราชดำเนิน ได้แก่ แอดราชดำเนินพลาซ่า, โรงแรมอักษราเฮอริเทจ, กาดกลางเวียง, โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ, พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดเชียงใหม่, ร้านกาแฟอาข่าอาม่า, บุรีแกลลอรี่, ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์, คราม สปา และโรงแรมเดอ ลานนา นอกจากนี้ ยังมีการสานต่อโครงการของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เรื่องการชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารเกษตรอินทรีย์จากแปลง สู่งานฟังก์ชั่น Farm to Function เพื่อประสานให้เกิดการจัดขายอาหารค่ำมื้อพิเศษจากเชฟโรงแรมร้านอาหาร ในเครือขายเจียงใหม่ออร์แกนิคบนถนนราชดำเนิน โดยทุกเมนูพิเศษเน้นวัตถุดิบพื้นบ้านออร์แกนิคจากเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ในเชียงใหม่

“การเดินทางของดอกไม้”  (Flowers journey) โครงการรวบรวมเมล็ดพันธุ์ กล้าดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง จากภาคีเครือข่ายในเชียงใหม่ อาทิ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ เครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม เพื่อทำการเพาะปลูกในพื้นที่ต้นแบบ เชื่อมโยงเครือข่ายต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำของการรณรงค์การปลูกและประชาสัมพันธ์ดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยโครงการได้รวบรวมเมล็ดพันธุ์กล้าดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง 20 ชนิด จากภาคีเครือข่ายในเชียงใหม่ อาทิ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ เครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม เพื่อนำไปเพาะปลูก ในพื้นที่ต้นแบบ 5 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ภายในหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ พื้นที่ในสวนผักคนเมือง ถ.ช้างคลาน พื้นที่สวนหลวงล้านนา ร.9 (พื้นที่ริมคลองแม่ข่า)  พื้นที่ในสวนสาธารณะหนองบวกหาด และพื้นที่หน้าสำนักงานยาสูบเชียงใหม่
“การประชุมวิชาการนานาชาติของเครือข่ายช่างฝีมือจากเมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก” (UNESCO Creative City of Craft and Folk-Art Network) หัวข้อ “จากภูมิปัญญาพื้นบ้าน สู่เศรษฐกิจวัฒนธรรม” From Local Wisdom to Cultural Economy โดยมีการเชิญทั้งวิทยากรและผู้เข้าร่วมจากนานาชาติผ่านการประชุมแบบไฮบริดกับผู้เข้าร่วมที่อยู่ในประเทศไทย เป็นการเชื่อมเครือข่ายคนทำเทศกาล Craft และช่างฝีมือจากทุกมุมโลก เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งปันประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ให้ช่างฝีมือในงานเทศกาลฯ ตลอดจนช่างฝีมือที่อยู่ห่างไกลได้นำไปพัฒนา ต่อยอดสินค้าได้












โตโยต้านครพิงค์ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่ โดยการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล

 

โตโยต้านครพิงค์ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่โดยการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล

วันที่ 9 สิงหาคม 2564 บริษัทโตโยต้านครพิงค์ เชียงใหม่ จำกัด โดย คุณเกรียงไกร พิทักษ์ชัชวาล กรรมการผู้จัดการ คุณพิชามญชุ์ พิทักษ์ชัชวาล กรรมการบริหาร และ คุณอัศไชย ไชยสุรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการสร้างแบรนด์  ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สมเกียร ชัยพิบูลย์ คณบดี และ อาจารย์ ดร.สุจิตรา แก้วสีนวล รองคณบดีฝ่ายการต่างประเทศ ในโครงการพัฒนาการศึกษาเพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกร ภายในจังหวัดเชียงใหม่ โดยการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล ณ บริษัท โตโยต้านครพิงค์ เชียงใหม่ จำกัด สำนักงานใหญ่

โตโยต้านครพิงค์เชียงใหม่ และ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับรู้ถึงความผลกระทบของสถาณการณ์ Covid-19 ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ ใกล้เคียง จึงได้ร่วมหารือเพื่อหาแนวทางร่วมกัน ในการใช้ช่องทาง ดิจิทัล สื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า และ ผลิตภัณฑ์ ของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรคุณภาพชีวิตที่ดี และมีรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต  

โตโยต้านครพิงค์เชียงใหม่ มีปณิธาณอันแน่วแน่ ในด้านการสนับสนุนและส่งเสริมบุคคลากรของชาติ โดยผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ ระหว่างนักศึกษาจากคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำทางด้านวิชาการและการเกษตร ร่วมกับเกษตรกร รวมไปถึงหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลิตบุคคลากร และผลงาน อันเป็นแรงขับเคลื่อนของประเทศชาติในภายภาคหน้าต่อไป
















พล.ร. 7 ร่วมวัดป่าดาราภิรมย์ แม่ริม แจกผัก ผลไม้ แก่ชาวอำเภอแม่ริม เชียงใหม่ กว่า 30 ตัน ไว้เพื่อประกอบอาหารบรรเทาความเดือดร้อนจากโควิด-19

 

กองพลทหารราบที่ 7 ร่วมกับเจ้าอาวาส วัดป่าดาราภิรมย์ แม่ริม แจกผัก ผลไม้ แก่ชาวอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ จำนวน 30 ตัน เพื่อประกอบอาหารในครัวเรือนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 

    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6สิงหาคม 2564 ลานหน้ากองบัญชาการ กองพลทหารราบที่ 7 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พระราชวิสุทธิญาณ เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน ( ธรรมยุต ) ร่วมกับ พลตรี จรัส ปัญญาดี ผู้บัญชาการ กองพลทหารราบที่ 7 และจิตอาสาพระราชทานกองพลทหารราบที่ 7  นำพืชผักผลไม้ จากอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 30 ตัน ประกอบด้วย ฟักทองจำนวน 2,500 กิโลกรัม , ถ้วแขก 300 กิโลกรัม, ผักกาด 4,000 กิโลกรัม, กะหล่ะปลี 6,000 กิโลกรัม, มะเขือเทศ 3,500 กิโลกรัม, หน่อไม้ 200 กิโลกรัม, แตง 1,000 กิโลกรัม, ถั่วฝักยาว 600 กิโลกรัม และผักอื่นๆ อีกจำนวนมาก เพื่อมาจ่ายแจกแก่ประชาชนพื้นที่อำเภอแม่ริม โดยมี นายอำเภอแม่ริม และนายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น 16 ตำบล เป็นตัวแทนมารับของเพื่อนำไปแจกให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ การนำสิ่งของมาแจกในครั้งนี้ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง ศบค.19 เว้นระยะห่างกันอย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษอีกด้วย

     สำหรับการนำผลผลิตทางการเกษตรของเจ้าอาวาส วัดป่าดาราภิรมย์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ที่ผ่านมาแจกตามสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชนเมือง อาทิ ประตูท่าแพ หน้าค่ายกาวิละ ชุมชนท่าสัต๋อย ชุมชนทิพยเนตร อ.พร้าว และหน้ากองพลทการราบที่ 7 ซึ่งผลผลิตทางการเกษตรเหล่านี้ เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ รวมทั้งทีมงานได้ไปไล่ซื้อตามไร่ สวน เกษตรกร ในพื้นที่ อำเภออมก๋อย อำเภอฮอด เป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่มีพ่อค้ามาซื้อของเกษตรกร ถ้าปล่อยไปก็เน่าไป เจ้าอาวาส ท่านมีความเมตตา จึงซื้อเพื่อมาแจกแก่ประชาชนในเมืองได้มีของดี ๆ อีกด้วย