<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

นายอำเภอ สันกำแพง เชียงใหม่ เอาจริง !!!! จับร้านบ่อตกกุ้ง บริการดื่มแอลกอฮอลล์พร้อมสาวเสิร์ฟครบวงจร ฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรค

 

เชียงใหม่จับแล้วบ่อตกกุ้งบริการดื่มแอลกอฮอลล์พร้อมสาวเสิร์ฟครบวงจรฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรค 

นายชัยณรงค์  นันตาสาย นายอำเภอสันกำแพง นายศิริพงษ์ นำภา ปลัดอาวุโส ได้สั่งการให้ นายนคร กาวิชัย ปลัดอำเภอสันกำแพง นายณัฐพงษ์ พรสมบูรณ์กิจ ปลัดอำเภอสันกำแพง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอสันกำแพง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง นายจันทร์ทิพย์ อิยะสาม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลสันกลาง บูรณาการร่วมกันเป็นชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมฯ ดำเนินการตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่ อำเภอสันกำแพง เพื่อกวดขันสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และผลการตรวจสอบพบสถานประกอบการชื่อร้านพาราไดซ์ คลับ แอนด์ เรสเตอรองค์ ตั้งอยู่ ม.3 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง เปิดให้บริการและมีลูกค้าใช้บริการภายในร้านโดยผู้ประกอบการยินยอมให้มีการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน ผู้ประกอบการยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้จัดการร้านจำนวน 1 ราย แจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 127/2564 ดำเนินการทำบันทึกจับกุม และ นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสันกำแพงต่อไป

การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีการเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีสาวเสิร์ฟหน้าตาดีจำนวนมาก คอยบริการผู้มาใช้บริการ ซึ่งราคาค่าอาหารและเครื่องดื่มจะมีราคาสูงกว่าร้านทั่วไป บริการดูแลลูกค้าโดยมีห้องวีไอพีแยกส่วนรองรับ โดยมีบ่อตกกุ้งหลายแห่งดำเนินการบริการแบบครบวงจรลักษณะนี้ แม้ว่าทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้คลายล๊อคดื่มได้จำนวน 5 อำเภอนำร่องแล้วประกอบไปด้วย อำเภอเมือง อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม อำเภอจอมทอง และอำเภอดอยเต่า แต่พื้นที่อื่นยังคงห้ามการจำหน่ายอยู่










สภ.ช้างเผือกเปิดเชิงรุก "สมาร์ท เซฟตี้โซน 4.0 (Changpuak Smart Safety Zone 4.0)" เมืองอัจฉริยะลดปัญหาอาชญากรรม "เชื่อมั่น อุ่นใจ ปลอดภัย ในชุมชน"


สภ.ช้างเผือกเปิดเชิงรุก "สมาร์ท เซฟตี้โซน 4.0 (Changpuak Smart Safety Zone 4.0)" เมืองอัจฉริยะลดปัญหาอาชญากรรม "เชื่อมั่น อุ่นใจ ปลอดภัย ในชุมชน"
8 ธ.ค. 64 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดการประชุมโครงการ สมาร์ท เซฟตี้โซน 4.0 (Changpuak Smart Safety Zone 4.0) ณ ห้องประชุมชั้น 3 สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ โดยมี พ.ต.ท.สุพจน์ ฉลาด รอง ผกก.ป.สภ.ช้างเผือก, พ.ต.ท.วีรภัทร คำลาพิช สวป.สภ.ช้างเผือก, คณะกต.ตร.สภ.ช้างเผือก, อปท.ท้องถิ่น, หน่วยงานในพื้นที่, ภาครัฐ -​ ภาคเอกชน ร่วมไปถึงผู้​นำชุมชน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบสภช้างเผือกเข้าร่วมประชุม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมผลักดันขับเคลื่อน โครงการฯ ในครั้งนี้ ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มโครงการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง วันที่ 30 ก.ย.65 โดยจะมีการประเมินติดตามผลทุกๆ เดือน เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่
พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก กล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย การพัฒนารูปแบบวิธีการป้องกัน อาชญากรรมโดยใช้นวัตกรรมและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางตามแนวคิดเรื่อง "เมืองอัจฉริยะลดปัญหาอาชญากรรมที่เกิดเหตุสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน เพื่อยกระดับการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ ตามแนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะ และดูแลนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลไฮซีซั่นการท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่" ​โครงการ สมาร์ท เซฟตี้โซน 4.0 (Changpuak Smart Safety Zone 4.0) ครั้งที่ 1 / 64 ตามนโยบายของรัฐบาลได้กำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศไทยว่าประเทศไทย" มีความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน" เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สภ.ช้างเผือก จึงมีนโยบายที่จะใช้โมเดลขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมเพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นระบบ Thailand 4.0 ทำงานของภาครัฐ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเป็นการสานพลังระหว่างภาครัฐและภาคอื่นๆเพื่อยกระดับการทำงาน และพัฒนาไปสู่ความร่วมมือกันทุกภาคส่วน เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลพร้อมทั้งบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำในการป้องกันอาชญากรรมที่ควรจะดำเนินการในพื้นที่ Smart Safety Zone 4.0 เป็นการทำงาน การวิเคราะห์​จุดเสี่ยงในพื้นที่ร่วมกัน, การปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมในการป้องกันอาชกรรม, การจัดทำแผนการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกในรูปแบบใหม่โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆทั้งที่มีอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ สภช้างเผือกได้รับคัดเลือกให้ดำเนินการโครงการดังกล่าวจึงได้กำหนดพื้นที่ Safat zone ขึ้นโดยในพื้นที่ประกอบไปด้วย 3 โซนสำคัญ Economic (เศรษฐกิจ), Risk Zone (มีความเสี่ยงสูง)​และ Landmark Zone ( สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ)​ โดยได้นำโครงการดังกล่าวไปเสนอต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่และ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่พร้อมได้จัดทำ MOU บันทึกความร่วมมือในการป้องกันอาชญากรรมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
โดยสภ.ช้างเผือก ได้กำหนดกรอบพื้นที่ดำเนินการ Safety Zone ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1.72 ตารางกิโลเมตรครอบคลุมพื้นที่ตำบลช้างเผือกตำบลป่าตันตำบลศรีภูมิ ประกอบไปด้วย 6 ชุมชนได้แก่ชุมชนเชียงยืน, ชุมชนป่าเป้า, ชุมชนอุ่นอารีย์, ชุมชนวัดกู่เต้า, ชุมชนศรีมงคล, ชุมชนหลิ่งกอก และภาคีเครือข่ายต่างๆที่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ โดยมีตัวแทนชุมชนตัวแทนนักธุรกิจ, ตัวแทนส่วนราชการตัวแทนผู้สื่อข่าว และตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อร่วมกันแสดงความคิดเห็นพร้อมร่วมกันจัดทำแผนป้องกันภัยอาชญากรรมในพื้นที่ในวันนี้
พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก กล่าวเสริมว่า ในส่วนของ สภ.ช้างเผือก ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจแทนตู้แดงแบบเก่าผ่านระบบ Police 4.0 โดยได้กำหนดจุดตรวจแบบใหม่และได้จัดทำแผนป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกโดยการให้ตำรวจทุกสายงานรวมถึงอาสาตำรวจออกตรวจพื้นที่ผ่านระบบ Police 4.0 ครอบคลุมทุกพื้นที่ทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มักเกิดอาชญากรรมในพื้นที่เสี่ยงอาทิเช่นธนาคารร้านทองห้างสรรพสินค้าจุดเสี่ยงต่างๆเป็นต้น, งานชุมชนและมวลชนสัมพันธ์สภ. ช้างเผือกได้ดำเนินการประสานผู้นำชุมชนออกสำรวจพื้นที่ขีดสีตีเส้นพื้นที่ไหล่ทางในเขต Safety Zone โดยร่วมมือกับทางเทศบาลและจิตอาสาต่างๆ การสำรวจจุดติดตั้งกล้อง CCTV เฉพาะในเขตพื้นที่ Changpuak Smart Safety Zone 4.0
ติดตั้งทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 60 จุดและทางเทศบาลนครเชียงใหม่กำลังดำเนินการสำรวจติดตั้งเพิ่มเติม ผมจะตั้งกลุ่มไลน์เครือข่ายภาคประชาชน Application Police I Lert, you, Police 4.0, แจ้งเอกสารหายออนไลน์และเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ โดยทางสภช้างเผือก ขอรับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ในการจัดทำห้อง ccoc เพื่อเป็นศูนย์ควบคุมสั่งการโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการเชื่อมกล้อง CCTV ทั้งของส่วนราชการและเอกชนมารวมไว้นะที่เดียว โดยได้รับความเห็นชอบร่วมกันว่าควรจัดตั้งศูนย์ CCTV ที่ตู้ยามช้างเผือกถนนสนามกีฬาตรงข้ามขนส่งช้างเผือก รวมถึงได้มีการจัดทำโครงการสายตรวจชุมชนโดยบูรณาการร่วมกับอาสาประชาชนออกตรวจพื้นที่ Changpuak Smart Safety Zone 4.0 ริเริ่มการจัดทำโครงการสายตรวจอากาศยานไร้คนขับ (Drone), การติดตั้งตู้ SOS พร้อมกับขอความร่วมมือภาคีเครือข่ายร่วมกันออกสำรวจแบบสอบถาม Changpuak Smart Safety Zone 4.0 รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อต่างๆให้มากที่สุด ผมรับฟังความคิดเห็นว่าควรทำอย่างไรในพื้นที่ Changpuak Smart Safety Zone 4.0 ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น.











SUN ผนึก JP-KTDM ลุยวิจัยพัฒนากัญชงเต็มสูบ

 

SUN ผนึก JP-KTDM ลุยวิจัยพัฒนากัญชงเต็มสูบ 

บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN โดย นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมกับ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจอเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP โดย ดร.สิทธิชัย​ แดงประเสริฐ​ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ บริษัท เค ที ดี เอ็ม จำกัด หรือ KTDM โดย นายธีร ชุติวราภรณ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ลงนามความร่วมมือ 3 ฝ่าย ลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกัญชงครบวงจร เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาต่อยอดและเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตร ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาตั้งแต่ ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้  นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานซึ่งเป็น Core Business ของบริษัทแล้ว ยังให้ความสนใจในการพัฒนากัญชง ที่ถือเป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง ที่ใช้ประโยชน์ได้จากทุกส่วน ตั้งแต่ราก ลำต้น ใบ จนถึงดอกและเมล็ด และสามารถแปรรูปในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม เวชสำอาง และเวชภัณฑ์ยา ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้ร่วมมือกับมหาลัยวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อการพัฒนาสายพันธุ์สมุนไพรและกัญชง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และอาหาร โดยครอบคลุมถึงการศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ในการนำมาต่อยอดสู่ผลิตสินค้าต่างๆ นอกจากนี้บริษัทได้เล็งเห็นโอกาสในการเข้าไปร่วมมือกับ JP และ KTDM เพื่อดึงศักยภาพและความพร้อมที่แต่ละบริษัทมีมาใช้เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เป็นรูปธรรมและเพิ่มปัจจัยบวกมากยิ่งขึ้น 

ความร่วมมือระหว่าง 3 ฝ่าย มีวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาและวิจัย ทั้งด้านการปลูก และการสกัดสารสำคัญจากพืชกัญชง รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชง ด้วยความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่าย โดย JP มีประสบการณ์กว่า 40 ปี ด้านการผลิตยาแผนปัจจุบันและอาหารเสริมได้รับมาตรฐาน ควบคุมโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วน KTDM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN เป็นผู้ควบคุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และมีเครื่องจักรที่สามารถแยกสาร CBD ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ FULL SPECTRUM , BROAD SPECTRUM , CBD ISOLATE และ WATER SOLUBLE CBD ISOLATE ที่สามารถรองรับการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร 

อย่างไรก็ตาม การร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่นำไปสู่การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสนับสนุนการเพาะปลูก วิจัย สกัด และผลิต ผลิตภัณฑ์ใช้กัญชงเป็นส่วนประกอบ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชง ตอบสนองต่อเทรนด์สุขภาพ และสร้างรายได้ให้เติบโตร่วมกันแบบก้าวกระโดดในอนาคต นายองอาจ กล่าวทิ้งท้าย

กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน.






เทศกาลออกแบบเชียงใหม่ 4-12 ธ.ค. นี้ ร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจท้องถิ่นภาคเหนือ

 

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ จัดเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ Chiang Mai Design Week 2021 ภายใต้แนวคิด "Co-Forward เชื่อมโยง ฟื้นฟู ก้าวไปด้วยกัน" สนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจท้องถิ่นภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 4-12 ธันวาคม นี้ 

วันที่ 4 ธ.ค. 64 ที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ Chiang Mai Design Week 2021 ภายใต้แนวคิด "Co-Forward เชื่อมโยง ฟื้นฟู ก้าวไปด้วยกัน" ในการช่วยเหลือกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการสร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นรวมถึงช่วยผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในภาคเหนือมากขึ้น
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กว่า 200 ราย จัด "เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2564 หรือ Chiang Mai Design Week 2021" ขึ้น เพื่อเป็นการผลักดันและสนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจท้องถิ่นภาคเหนือ ที่จะแสดงถึงศักยภาพในการทำงานของทุกภาคส่วน เช่น ชุมชนนักออกแบบ ช่างฝีมือ ศิลปิน ผู้ประกอบการธุรกิจในภาคเหนือ ให้ได้มีพื้นที่ในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ จำหน่ายสินค้า และทดลองตลาด ที่จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคน ชุมชน รวมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ร่วม
สร้างสรรค์ท้องถิ่นให้เข้มแข็ง 
โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมชมเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2564 หรือ Chiang Mai Design Week 2021 ได้ที่บริเวณย่านอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ,ย่านล่ามช้าง ,ย่านวัดเกตุ ,ย่านช้างม่อย ,ย่านสันกำแพง และทั่วเมืองเชียงใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 4-12 ธันวาคม นี้ หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เว็บไซต์
 www.chiangmaidesignweek.com หรือ Facebook : Chiang Mai Design Week #CMDW2021 #chiangmaidesignweek2021

กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน.





























กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบระยะยาว Long Stay จังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ภายใต้โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพล้านนา

 

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1  จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบระยะยาว Long Stay จังหวัดภาคเหนือตอนบน 1

  วันที่ 29 พฤศจิกายน 64 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1  ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบระยะยาว Long Stay  ภายใต้โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพล้านนา โดยมี การจัดพิธีเปิดกิจกรรม Northern Long Stay Fair 2021 ระหว่างวันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน และ 1 ธันวาคม 64 ที่ ศูนย์การค้าเมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน
   นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวว่า ศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1  มีมากมายทั้งทางด้านวัฒนธรรม, แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม การศึกษา รวมถึงอัธยาศัยของคนในพื้นที่ ถือว่าเป็นจุดแข็งของกลุ่มจังหวัดฯ และมีนักท่องเที่ยวแบบ Long stay มาพำนักเป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะชาวต่างประเทศที่เกษียณอายุ มากกว่า 50,000 คน นอกจากนั้นยังมีกลุ่มผู้สูงอายุจาก ประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมาคือ อังกฤษ ออสเตรเลีย เยอรมัน แคนนาดา และเนเธอร์แลนด์ สนใจมาพำนักในจังหวัดเชียงใหม่ และใกล้เคียง โดยรายได้ของชาวต่างประเทศต่อเดือนที่มาพำนักในจังหวัดเชียงใหม่จะอยู่ในช่วง 75,000- 100,000 บาทต่อคนต่อเดือน ตังนั้นจะเห็นได้ว่ากลุ่มชาวต่างประเทศ  โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และชาวตะวันตกมีความสนใจที่จะมาพำนักระยะยาวในเชียงใหม่สูงขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดฯการดำเนินโครงการ Long stay อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้สามารถข้าใจตลาดการท่องเที่ยวแบบ Long stay มากยิ่งขึ้น จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้น  เพื่อส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว Long Stay ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ส่งเสริมพัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวพำนักระยะยาว กลุ่มเป้าหมายใหม่ ในทางประเทศกลุ่มตะวันตก(สหรัฐ และยุโรป) และจีนและเชื่อมโยงข้อมูลทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ด้วย.

กมล เครือนิล ทีมข่าว"ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน.