ผกก.สภ.ช้างเผือก ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหลังหนุ่มทำร้ายตำรวจ ช่วงม็อบศาลากลางเชียงใหม่
เข้ามอบตัวตามหมายเรียกพร้อมทนาย เพื่อสู้คดีเชิญ กต.ตร. ช้างเผือก รับทราบข้อเท็จจริงหาทางออกลดความขัดแย้ง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 กันยายน 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางเข้าออก พร้อมให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข มาร่วมคัดกรองการเข้า-ออก ของประชาชนที่จะเข้ามาติดต่อราชการ หลังจากที่ได้มีการออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาที่ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวันที่มีการจัดคาร์ม็อบแม่น้ำ 5 สาย เพื่อขับไล่นายกฯ แก้ไข รธน. และเรียกร้องวัคซีน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกตัว นายเอกจีรวัฒน์ บริกัปปกุล มารับทราบข้อกล่าวหา
ด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการความชุลมุนในช่วงที่มีการรวมกลุ่มของประชาชน ซึ่งได้มีการปะทะกันเล็กน้อย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่มีการชุมนุมวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยในคลิปปรากฏว่า มีชายวัยรุ่นชกหมัดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ตอบโต้ เพียงแต่เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น ก็มีการประกาศว่าเจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชน แต่เมื่อมีคลิปปรากฏออกมาในโลกออนไลน์ปราฏว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ทำร้ายใคร จึงได้ออกหมายเรียกชายดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้ และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขณะเดียวกันทางหนึ่งในแกนนำที่เดินทางมาด้วย ทางด้าน ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้เชิญไปพูดคุยในห้องประชุมของ กต.ตร. เพื่อพูดคุยและชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี กต.ตร.สภ.ช้างเผือก ซึ่งเป็นตัวกลางระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน ช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย
สำหรับด้านของนายเอกจีรวัฒน์ หลังจากได้รับทราบข้อกล่าวหาเสร็จแล้ว ก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น ขณะเดียวกันเตรียมชี้แจงเป็นหนังสือตามข้อกล่าวหา ส่งผ่านทางทนายความ ภายในวันที่ 22 กันยายน 2564 นี้ ซึ่งภายหลังจากการรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็ได้เดินทางกลับพร้อมกับทนายความและเพื่อนที่เข้าร่วมการชุมนุม
กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น