สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่รายงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ว่า โลกกำลังจะเข้าสู่ยุคกึ่งน้ำแข็ง ซึ่งอาจจะกินเวลานานกว่า 10 ปี ซึ่งมีสาเหตุมาจากดวงอาทิตย์กำลังเข้าสู่ภาวะผิดปกติ หรือ การจำศีล ในช่วงหลังปี 2020 และอาจจะกินระยะเวลานานเป็นทศวรรษ
ดร.ริชาร์ด อัลทร็อค ผู้เชี่ยวชาญและนักดาราฟิสิกส์ของสถาบันวิจัยระบบสุริยะแอร์ฟอร์ซ ได้อธิบายว่า วงจรของดวงอาทิตย์กำลังจะเข้าสู่ช่วงจำศีล ซึ่งสามารถระบุได้ตั้งสมมติฐาน 3 อย่าง ได้แก่ การเกิดพวยความร้อนที่ออกมาจากขั้วความร้อนของดวงอาทิตย์ลดปริมาณลง หรือการแผ่ขยายของจุดดับมีความอ่อนตัวลง และไม่พบการขับไอของวงจรสุริยะ
สำหรับภาวะดังกล่าวที่อาจจะส่งผลให้โลกเข้าศู่ยุคกึ่งน้ำแข็ง โดยจะทำให้โลกมีอากาศที่หนาวเย็นลงนานหลายปี บรรเทาปัญหาโลกร้อน อีกทั้งยังลดผลกระทบจากพายุสุริยะและการขัดข้องของด้วยเทียมสื่อสารได้อีกด้วย ซึ่งภาวะผิดปกติเช่นนี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นเป็นแรก ย้อนกลับไปเมื่อราวต้นศตวรรษที่ 18 ภาวะผิดปกติเช่นนี้ของดวงอาทิตย์เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
นอกจากนี้ ดร.แฟรงค์ ฮิลล์ ผู้เชี่ยวชาญแห่งศูนย์สังเกตการณ์สุริยะของอังกฤษ ยังเผยว่า ดวงอาทิตย์เข้าสู่ภาวะนิ่งสงบมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว โดยปกติในทุก 22 ปีสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะขับพลังให้เกิดเป็นจุดบอดบนดวงอาทิตย์และกินระยะเวลาราว 11 ปี สำหรับในปีนี้มีการตรวจพบว่า ดวงอาทิตย์เกิดจุดบอดขึ้นทุกวัน และยังมีการปะทุและพายุสุริยะที่ส่งผลกระทบต่อดาวเทียมของโลก คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2001
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดยังไม่สามารถยืนยันและกำหนดช่วงเวลาที่จะเกิดได้อย่างชัดเจน เบื้องต้นหากข้อสันนิษฐานดังกล่าวเป็นจริง สนามแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์จะอ่อนกำลังลงในช่วงปี 2022 และจะส่งผลให้อุณหภูมิของโลกลดลงราว 10 ปี
advertise:
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น