ปชป.จัดเวทีปราศรัยใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ3วัน เมินโพลระบุแพ้เพื่อไทย เชื่อยังได้เก้าอี้เมืองกรุงอย่างน้อย 27 ที่นั่ง จวกแดงขัดขวางหาเสียง
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ช่วงนี้พรรคเตรียมการออกแคมเปญหาเสียงเพิ่มเติมที่นอกจากจะลงพื้นที่ในช่วงเช้า กลางวัน เย็นแล้ว จะมีการจัดปราศรัยใหญ่ 3 ครั้งในพื้นที่ กทม.
ส่วนผลโพลที่ออกมาคะแนนประชาธิปัตย์คงไม่แพ้ห่างอย่างที่โพลระบุ เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ 33 ที่นั่งจาก 36 ที่นั่ง โดยยังยืนว่าจะได้เก้าอี้ ส.ส. 27 ที่นั่งและจะต้องพยายามชิงพื้นที่ในพื้นที่ที่ไม่เคยได้ส.ส.มาก่อนได้แก่ สายไหม ดอนเมือง หนองจอก ซึ่งพรรคจะเรียกร้องให้กลุ่มประชาชนที่ตั้งใจว่าจะไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งและกลุ่มเยาวชนที่ใช้สิทธิครั้งแรกให้ออกไปใช้สิทธิกันมากๆ ทั้งนี้ประกอบด้วย วันที่ 16 มิ.ย. จะปราศรัยใหญ่ที่วงเวียนใหญ่ สำหรับพื้นที่กทม.ใต้ ฝั่งธนบุรี วันที่ 17 มิ.ย. จะมีการปราศรัยสวนเบญจศิริ สำหรับพื้นที่กทม.ชั้นใน และวันที่ 19 มิ.ย. จะปราศรัยใหญ่ที่ตลาดลำผักชีเขตหนองจอก สำหรับ เขตกทม.ตะวันออก
ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกปชป. กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าไปตรวจสอบวิทยุชุมชน ซึ่งไม่กี่วันที่ผ่านมาพบว่า นายวีระกานต์ มุสิกะพงษ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดรายการ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการถ่ายทอดกทม.หรือจัดในพื้นที่ แต่เป็นเรื่องที่ไม่ควรที่จะให้มีการจัดรายการวิทยุเชียร์พรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะสื่อมวลชนจะต้องเป็นกลาง
นอกจากนี้ขอเรียกร้องกกต.เข้าไปดูแลเรื่องการส่งข้อความเอ็สเอ็มเอสไปทางรายการโทรทัศน์ ในช่วงเจ็ดวันก่อนการเลือกตั้ง เพราะจะมีผลชี้นำได้ เพิ่มเติมจากที่กกต.ห้ามเฉพาะการแพร่การผลสำรวจโพลก่อนวันเลือกตั้ง 7วันเพราะจะเป็นการชี้นำนั้น
ขณะที่ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกปชป. กล่าวว่า ผลสำรวจของกรุงเทพโพลที่ระบุว่าประชาธิปัตย์ยังมีคะแนนตามหลังพรรคเพื่อไทยนั้น ในอดีตที่ผ่านมาโพลสำนักเดียวกันนี้ เมื่อปี 50 ก็เป็นโพลเดียวที่ออกมายืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะชนะเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาก็เป็นตรงกันข้าม ไม่ทราบว่าคราวนี้จะเป็นอย่างเดียวกันหรือไม่
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งคราวนี้สิ่งที่จะกำหนดสำคัญที่สุดคือการเลือกผู้นำ ระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทยซึ่งผลสำรวจเรื่องความเป็นผู้นำนั้นเห็นได้ชัดว่านายอภิสิทธิ์ ยังได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวุฒิภาวะ ความเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และความเหมาะสมในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของประเทศ
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ปัญหาที่พรรคประชาธิปัตย์พบขณะนี้คือ การลงพื้นที่แล้วเจอกับขบวนการจัดตั้งกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เริ่มใช้วิธีค่อนข้างหยาบคายขัดขวางการหาเสียง ซึ่งทำให้คนไทยเห็นภาพของความขัดแย้งและสร้างความหวาดกลัวโดยขบวนการข่มขู่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ต้องแก้ และผู้ที่รับผิดชอบและต้องแก้ปัญหานี้ก็คือพรรคเพื่อไทย
โพสทูเดย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น