9 มิ.ย. นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยถึง ผลการตรวจสอบอะโวคาโดจากสเปน เพื่อหาการปนเปื้อนเชื้อ อีโคไล โอ 104 จากการตรวจสอบโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการนำโคโลนีที่ได้รับจากการเพาะเชื้อแบคทีเรียในอะโวคาโด ส่งให้กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบซ้ำ เพื่อให้ทราบผลอย่างชัดเจน คาดว่าจะทราบผลในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ สำหรับผลตัวอย่างของการเก็บตัวอย่างกะหล่ำปลีแช่แข็งที่มาจากประเทศเบลเยียมนั้น เชื่อว่าจะทยอยทราบผลในสัปดาห์หน้าเช่นกัน เนื่องจากเพิ่งมีการส่งตัวอย่างให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ
ด้าน นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สิ่งที่เป็นห่วงคือการนำสินค้าผักผลไม้กลับมาจากต่างประเทศ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงถึงความไม่ปลอดภัย หากไม่จำเป็นก็ขอให้มีการซื้อผักผลไม้เมืองหนาวที่จำหน่ายในประเทศ ทั้งของโครงการหลวง ดอยคำ ดอยตุง เพราะมีความปลอดภัยสูง และจำหน่ายราคาไม่แพง ส่วนผักผลไม้ที่มาจากยุโรปในไทยนั้น ยอมรับว่ามีน้อยมาก
นอกจากนี้ นพ.สถาพร วงษ์เจริญ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในการตรวจสอบหาเชื้ออีโคไลโอ 104 นั้น ต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบผล โดยขั้นตอนการตรวจสอบหลังจากเพาะเชื้อแบคทีเรียได้ จะต้องนำโคโลนีมาตรวจสอบว่ามีพิษหรือไม่ เนื่องจากการเพาะเชื้อเบื้องต้นไม่สามารถทราบผลได้ หากทราบว่ามีพิษ ก็จะนำมาแยกชนิดว่าใช่ชนิดโอ 104 หรือไม่ ซึ่งตามธรรมชาติของพืชผัก ผลไม้ทุกชนิดมักมีการปนเปื้อนเชื้ออีโคไลอยู่แล้ว แต่อาจเป็นชนิดที่ไม่มีอันตราย ซึ่งในการตรวจสอบแยกเชื้อจะต้องปฏิบัติเช่นนี้เสมอ เพื่อความชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า การตรวจพบเชื้ออีโคไลในอะโวคาโดครั้งนี้จัดเป็นเรื่องปกติ ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล เพราะโดยทั่วไปเชื้ออีโคไลมีหลายชนิด และเป็นเชื้อที่มีอยู่ทั่วไปในผลิตภัณฑ์การเกษตร ผัก ผลไม้ ไม่เป็นอันตรายสำหรับประชาชน ยังสามารถรับประทานผัก ผลไม้ต่อไปได้ตามปกติ ซึ่งก่อนที่จะนำมารับประทาน ควรล้างน้ำให้สะอาดก่อนหลายๆ ครั้ง วิธีการล้าง อาจล้างนานอย่างน้อย 2 นาที หรือใช้สารละลายอื่นๆ ในการล้างควบคู่ด้วย และการรับประทานผักโดยปรุงผ่านความร้อน พร้อมผักลวกจะปลอดภัย เชื้อแบคทีเรียจะตายเมื่อถูกความร้อน 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น