เจย์ซี ดูการ์ด สาววัย 29 ปี ซึ่งถูกลักพาตัวไปจากป้ายรถเมล์ในเมืองเซาท์เลค ทาโฮ รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2534 ตอนอายุ 11 ปี และถูกชายที่ลักพาตัวเธอไปบังคับข่มขืนมาราธอนนาน 18 ปี จนมีลูก 2 คน ได้ยอมเปิดเผยตัวแล้ว โดยการขึ้นปกนิตยสารพีเพิ่ล
งานนี้ตำรวจได้จับกุมนายฟิลิป การ์ริโด อดีตนักโทษคดีลักพาตัวและข่มขืนวัย 58 ปีกับนางแนนซี่ ภรรยาวัย 54 ปี ในข้อหาลักพาตัวเธอเพื่อไปข่มขืนและสมรู้ร่วมคิดในการลักพาตัว
ดูการ์ดบอกว่าถูกสองสามีภรรยาขังไว้ในสนามหลังบ้าน และถูกนายการ์ริโดข่มขืนจนมีลูกคนแรกเมื่อตอนเธออายุได้เพียง 14 ปี ลูกของเธอซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 11 และ 15 ปี ก็ถูกคุมขังไว้ในสวนหลังบ้านเช่นกัน
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม หลังนายการ์ริโด ไปที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่เบิร์คเลย์ พร้อมกับเด็ก 2 คน เพื่อแจกหนังสือเกี่ยวกับศาสนา แต่พฤติกรรมที่แสดงต่อเด็กทำให้หลายฝ่ายกังขา ตำรวจจึงได้สอบปากคำและพบว่าเขาเคยถูกตัดสินในข้อหาข่มขืนและลักพาตัวเมื่อปี 2514 และถูกทำทัณฑ์บนตลอดชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าทัณฑ์บนได้พบกับดูการ์ดที่มากับเขาและเด็กทั้งสอง และต่อมานายการ์ริโดสารภาพว่าเขาลักพาตัวเธอมา และปัจจุบันกำลังมีการดำเนินคดีกับเขาอยู่
นิวยอร์กไทมส์รายงานวันที่ 2 มิ.ย. ศาลแขวงเอลโดราโด เมืองเพลซวิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ตัดสินจำคุกนายฟิลิป การ์ริโด ชาวอเมริกันวัย 60 ปี เป็นเวลา 431 ปี และนางแนนซี่ ภรรยาวัย 55 ปี เป็นเวลา 36 ปี ในข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยวเหยื่อสาว เจย์ซี ลี ดูการ์ด ตั้งแต่เป็นเด็กหญิง เมื่อปี 2534 นานถึง 18 ปีในบ้านของทั้งสองที่ตั้งอยุ่บนถนนเซาธ์ เลก ทาโฮ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยระหว่างถูกกักขัง เหยื่อยังถูกผู้ต้องหาข่มขืนด้วย เป็นคดีช็อกชาวอเมริกันในปี 2552 ที่มีการพบตัวหญิงสาว ซึ่งตอนนี้อายุ 31 ปี
นางเทอร์รี่ โพรบีน แม่ของเหยื่อ อ่านแถลงการณ์ของลูกสาวที่มีต่อจำเลย ในศาลด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจและโกรธแค้น ว่า "ไม่มีพระเจ้าองค์ใดในจักรวาลแห่งนี้จะให้อภัยต่อการกระทำของคุณ คุณขโมยชีวิตฉันและของครอบครัวฉัน และตอนนี้คุณทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว"
ขณะเดียวกันนางโพรบีน ยังกล่าวถึงความรู้สึกของตนเองทั้งน้ำตา ว่า "ฉันคิดว่าฉันจะเสียสติไปแล้ว เมื่อลูกหายไป มันเป็นเพราะคุณ แนนซี่ การ์ริโด และก็คุณ ฟิลิป การ์ริโด ผู้ย่ำยีหัวใจฉัน ฉันเกลียดพวกคุณทั้งคู่"
ขณะที่ผู้พิพากษา กล่าวว่า จำเลยทั้งสองได้กระทำการอันเป็นการฟื้นวิธีทรมานทาสขึ้นมาอีก จึงสมควรให้รับโทษดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น