<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 01 เมษายน 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

21 เม.ย. 2563

จนท.พลัดตกเขาได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติการ "พิทักษ์ดอยหลวงเชียงดาว" ขณะนี้อาการปลอดภัย



CM-UPDATE / หมอกควันไฟป่า : จนท.พลัดตกเขาได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ออกลาดตระเวนเฝ้าระวัง ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจกับชุมชน หลัง เปิดปฏิบัติการ "พิทักษ์ดอยหลวงเชียงดาว" เชียงใหม่ ระดมกำลังกว่า 200 นาย ด้านผู้ว่าฯ เป็นกำลังใจได้ประสานโรงพยาบาลฯ ให้อำนวยความสะดวกผู้บาดเจ็บให้ดีที่สุด หากติดขัดประการใด ให้รายงานได้โดยตรง ตลอด 24 ชั่วโมง กำชับทุกพื้นที่ใช้ความระมัดระวัง

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรายงานจากนายอำเภอเชียงดาว แจ้งว่าเมื่อเวลา 15.00 น. มีเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าแม่ตะไคร้ ทราบชื่อว่า นายทนง เหมยป้อ อายุ 42 ประสบอุบัติเหตุพลัดตกเขา ขณะปฏิบัติหน้าที่สนธิกำลังดับไฟป่าบริเวณร่องห้วยในป่าบ้านนาเลาใหม่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว หมู่ 10 ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว เบื้องต้นได้นำส่งโรงพยาบาลเชียงดาวเพื่อทำการรักษา และเมื่อเวลา 18.30 น.ได้รับแจ้งจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ว่าโรงพยาบาลเชียงดาวได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ เบื้องต้นได้เอ็กซเรย์พบว่ากระดูกข้อขวาหัก โดย ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ได้ประสานโรงพยาบาลฯ ให้อำนวยความสะดวกผู้บาดเจ็บให้ดีที่สุด หากติดขัดประการใด ให้รายงานได้โดยตรง ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ยังขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกนายที่ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในทุกพื้นที่ 

โดยในวันนี้ 21 เมษายน 2563 นายชัชวาลย์ พุทธโธ นายอำเภอเชียงดาว พร้อมด้วย นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 และผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการ ภารกิจ "พิทักษ์ดอยหลวงเชียงดาว" เพื่อออกลาดตระเวนเฝ้าระวังการเผาป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ระหว่างวันที่ 21- 30 เมษายน 2563 นี้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่อุทยาน ชุดเสือไฟ ทหาร ตำรวจ จำนวนกว่า 200 นาย เข้าร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้

ทั้งนี้ ได้แบ่งกำลังทำภารกิจ ดังนี้ 1.การลาดตระเวน ปราบปรามการกระทำผิดในพื้นที่ และพักค้างแรมในป่า ปฏิบัติโดย เจ้าหน้าที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำหน้าที่ ลาดตระเวนป่า โดยจัดชุดลาดตระเวน จำนวน 4 ชุด ชุดละ 12 นาย ทำการลาดตระเวนตามเส้นทางที่ได้รับหมอบหมาย พักค้างแรมในพื้นที่เสี่ยงรอบดอยหลวงเชียงดาว ชุดละ 3 คืน 4 วัน และทำการสับเปลี่ยนกำลังแล้วทำการลาดตระเวนต่อในพื้นที่ , 2.การลาดตระเวนป้องปรามในพื้นที่กันชนติดเขตหมู่บ้านที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าบริเวณดอยหลวงเชียงดาว ปฏิบัติโดย เจ้าหน้าที่ทหาร ร.7 พัน2 ค่ายพิชิตปรีชากร อำเภอเชียงดาว ทำหน้าที่ ลาดตระเวนในพื้นที่ป่าติดกับพื้นที่ชุมชน เพื่อทำการป้องปรามไม่ให้มีคนลักลอบเข้าป่า โดยจัดชุดลาดลาดตระเวน จำนวน 3 ชุด ชุดละ 11 นาย ทำการลาดตะเวน พักค้างแรมในพื้นที่ จำนวน 3 พื้นที่ ประกอบด้วย 1)ต.เชียงดาว บ้านฟ้าสวย/บ้านนาเลาใหม่/บ้านนาเลาเก่า 2)ต.แม่นะ บ้านปางโฮ่ง/บ้านปางฮ่าง 3)ต.แม่นะ บ้านสันป่าเกี๊ยะ/บ้านปางปู่วัน
ภารกิจที่ 3.การประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับชุมชน ปฏิบัติโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงดาว และ ฝ่ายปกครอง กองร้อย อส. อำเภอเชียงดาว ทำหน้าที่สืบค้นหากลุ่มคนเข้าป่า
ให้คนกลุ่มเสี่ยงรายงานตัวว่าไม่เข้าป่า แจ้งให้ออกจากป่า ทำความเข้าใจและแสวงหาความร่วมมือกับชาวบ้านในการป้องกันไฟป่าในพื้นที่ , 4.ทำความเข้าใจและแสวงหาความร่วมมือกับชาวบ้านในการป้องกันไฟป่าในพื้นที่ และภารกิจที่ 5.การควบคุมและดับไฟป่า ปฏิบัติโดย เจ้าหน้าที่ สถานีควบคุมไฟป่า ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเสือไฟ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำหน้าที่ดับไฟป่า โดยจัดวางกำลังพลชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ตามจุดต่างๆ  

สำหรับ ภารกิจนี้ สืบเนื่องมาจากมาตรการของจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ให้เพิ่มความถี่ในลาดตระเวนและเฝ้าระวังมากขึ้น เพื่อป้องกันและป้องปรามการลักลอบจุดไฟเผาป่าซ้ำ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ในชุมชนที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เนื่องจากยังมีประชาชนบางส่วนไม่ทราบถึงประกาศห้ามเผาในที่โล่งเด็ดขาด เพื่อสร้างการรับรู้อย่างทั่วถึง









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น