วันที่ 30 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศบค.มีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนปรนให้มีมาตรฐานกลางบางกิจการและกิจกรรม เช่น แผงลอย หาบแร่ กิจกรรม เช่น การออกกำลังกายในสวนสาธารณะ โดยศบค.จะกำหนดมาตรฐานกลาง และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่ากทม.กำหนดรายละเอียดต่อไป โดยสามารถกำหนดความเข้มข้น มากกว่าระดับมาตรฐานกลางได้ แต่น้อยกว่ามาตรฐานกลางไม่ได้ และต้องมีแนวทางดำเนินการที่คำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก และสังคม-เศรษฐกิจตามมา
“มาตรการผ่อนปรน 6 กลุ่มกิจการและกิจกรรม ประกอบด้วย 1.ตลาด 2.ร้านอาหาร 3.กิจการค้าปลีก-ส่ง 4.กีฬา 5.ร้านตัดผม-เสริมสวย และ6.อื่น ๆ เช่น ร้านตัดขน ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์ เริ่ม 3 พ.ค.”
ทั้งนี้ การยึดถือข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับที่ 1 ข้อ 11 เช่น การทำความสะอาดพื้นผิวสถานที่ที่เกี่ยวข้อง การใส่หน้ากากผ้า การล้างมือ การรักษาระยะห่าง 1 เมตร มีแอฟลิเคชั่นตามตัว
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.อธิบายเพิ่มเติมถึงมาตรการผ่อนปรน 6 กลุ่มกิจการและกิจกรรม ดังนี้
1.ตลาด ได้แก่ ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย
2.ร้านอาหาร ได้แก่ ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนนหวาน ไฮศรีม (นอกห้าง) ร้านอาหารริมทาง รถเข็นและหาบเร่
3.กิจการค้าปลีก-ส่ง ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง/ยืนรับประทาน รถเร่ หรือ รถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อย/ร้ายอาหารปลีกชุมชน ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
4.กีฬาสันทนาการ ได้แก่ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน,รำไทเก็ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอฟล์และสนามซ้อม
5.ร้านตัดผม-เสริมสวย ได้แก่ ร้านตัดผมเฉพาะตัด สระ ไดร์ผม
6.อื่น ๆ เช่น ร้านตัดขน ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์
ทุกประเภทกิจการเริ่มเปิดดำเนินการได้ 3 พ.ค.2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น