วันนี้ (5 เม.ย. 63) นายคมสัน
สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
โดยประชุมกับอำเภอที่เกิดจุด Hotspot สูงที่สุด 5
อำเภอของเมื่อวานที่ผ่านมา คือ อำเภอแม่แจ่ม อมก๋อย สะเมิง แม่วาง และอำเภอจอมทอง
ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประเมินสถานการณ์และวางแผนปฏิบัติงาน
โดยศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่
ได้รับรายงานจุด Hotspot ที่เกิดขึ้นเช้านี้ จำนวน 223
จุด อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ 126 จุด เขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 92
จุด และพื้นที่อื่นๆ 5 จุด ซึ่งได้สั่งการทุกพื้นที่เข้าดำเนินการตรวจสอบและติดตามผลอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดี ได้ดำเนินการแล้วจำนวน 107
คดี ใน 17 อำเภอ ล่าสุด เมื่อวานนี้
ในอำเภอแม่อายจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย
สอบสวนยอมรับว่ากระทำไปด้วยความคึกคะนอง จึงส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกอำเภอรายงานผลการจับกุมให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เมื่อวานนี้เกิดขึ้น 5
จุด เจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการดับได้ทั้งหมดแล้ว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
บูรณาการกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 33
ร่วมปฏิบัติการลาดตระเวน ป้องกัน และดับไฟป่า พร้อมกับฝ่ายปกครอง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดกำลังชุดปฏิบัติการลาดตระเวนป้องปรามการลักลอบจุดไฟเผาป่า
และตั้งจุดตรวจร่วมป้องกันการเข้าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตลอด 24
ชั่วโมง
นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ได้ขอความร่วมมือทั้ง 25 อำเภอ
สำรวจพื้นที่ทำกินของราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกพื้นที่ เนื่องจากหลังจากวันที่ 30
เมษายนนี้ จะสิ้นสุดการประกาศห้ามเผา อาจจะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงพร้อมกันในทุกพื้นที่
อาจก่อให้เกิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มมากขึ้น
ทางจังหวัดจึงได้มีแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยภายในกลางเดือนนี้ให้นายอำเภอทุกอำเภอร่วมประชุมหารือ
เพื่อวางแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้
เน้นย้ำในเรื่องของการวางแนวทางการดับไฟ โดยการทำแนวไฟเผาชน
การใช้เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล กรณีหากพบไฟไหม้ตามลำต้นของต้นไม้ที่มีลำต้นสูง
จนไม่สามารถใช้เครื่องสูบน้ำดำเนินการดับได้ ให้สามารถใช้เลื่อยยนต์ในการตัดและโคนล้มได้ ในกรณีทีต้นไม้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น
โดยให้พิจารณาตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานตรวจเช็คเครื่องมืออุปกรณ์
เพื่อให้พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
กำชับให้ทุกอำเภอติดตามและตรวจสอบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
หากมีจุดใดที่ไม่สามารถเข้าไปดับได้ ขอให้แจ้งมายังศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดโดยด่วน
เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์การตัดสินใจนำอากาศยานเข้าสนับสนุน โดยขณะนี้มีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก
ปภ.
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ที่สามารถขึ้นปฏิบัติการโปรยน้ำได้ทันที
และยังเน้นเรื่องการลาดตระเวนป้องปราม ทำแนวกันไฟ ดับไฟป่า ตั้งจุดตรวจ
ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้รับรู้มาตรการห้ามเผาในที่โล่งเด็ดขาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น