หนึ่งเดือนเต็มๆ แล้ว น.ส.ปรัชฎา แต้มพรมรินทร์ หรือ "น้องกุ๊กไก่" อายุ 24 ปี นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง หายตัวไปอย่างลึกลับ...จนครอบครัวเริ่มทำใจยอมรับว่าอาจจะเสียชีวิตแล้ว แต่เมื่อยังไม่พบศพก็ยังมีความหวังลึกๆ ว่าเธออาจจะยังมีชีวิตอยู่
"ตอนนี้มีความคืบหน้าที่ดีขึ้น ตำรวจกองปราบปรามพยายามติดตามคดีให้ทุกวัน ทำให้พอมีความหวังมากขึ้นว่า ต้องเจอหลักฐานใดหลักฐานหนึ่งที่ทำให้เจอลูกสาว ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทุกวันนี้แม่พยายามทำใจ นอกจากพึ่งตำรวจกองปราบฯแล้ว แม่ก็พึ่งทางไสยศาสตร์ไปให้หมอดูทำนาย พึ่งร่างทรงซึ่งได้รับคำตอบที่หดหู่ใจ แต่แม่ต้องทำใจ เพราะนานมากแล้วติดต่อลูกสาวไม่ได้ ต้องขอขอบคุณตำรวจและนักข่าวทุกคนที่ช่วยกันในเรื่องการหายตัวไปของลูกสาว ทำให้แม่มีกำลังใจมากขึ้นจากที่ไม่เคยมีความหวัง" นางพรนภา นิลผาย อายุ 47 ปี แม่ของ น.ส.ปรัชญาบอก และยอมรับว่า เธอและลูกสาวอีกคน น.ส.ขนิษฐา แต้มพรมรินทร์ อายุ 18 ปี ยังมีความเป็นห่วงและคิดถึงน้องกุ๊กไก่อยู่ตลอดเวลา
การหายตัวอย่างมีเงื่อนงำของนักศึกษาสาวชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง "กองปราบปราม" อยู่ระหว่างช่วยตามหาคลี่คลายคดี พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า "เสี่ยนักรัก" ที่เคยถูกกล่าวหาในคดีฆาตกรรมนักศึกษาหญิงคนหนึ่งน่าจะมีส่วนรู้เห็น!!
หลังจากการหายตัวไปของ น.ส.ปรัชฎา ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม ยังไม่ทันครบ 24 ชั่วโมง ผู้เป็นแม่และน้องสาวตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผกก. พ.ต.ท.คณพัฒน์ พาหุมันโต สว.กก.1 บก.ป. และ ร.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ รองสว.กก.1 บก.ป. เพื่อขอให้ช่วยเหลือติดตามบุตรสาว ที่สันนิษฐานว่าน่าจะตกอยู่ในอันตรายหรืออาจจะเสียชีวิต
การคลี่คลายคดีการหายตัวของนักศึกษาสาวรายนี้ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. สั่งการให้เร่งรัดคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน โดยชุดสืบสวนนำข้อมูลที่ได้จากแม่และน้องสาวว่า น.ส.ปรัชฎาออกไปรับประทานอาหารกับ "เสี่ย ส." โดยขับรถยนต์เบนซ์ ป้ายแดง รุ่นอี 200 สีดำ ออกจากอาคารเอช ดิไอริช ย่านถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ
"ข้อมูลรายละเอียดเรื่องส่วนตัวของน้องกุ๊กไก่ คงเปิดเผยไม่ได้มากนัก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เมื่อนำข้อมูลลการให้ปากคำของแม่และน้องสาว เชื่อมั่นว่าเสี่ยคนที่น้องกุ๊กไก่คบหาอยู่ด้วยนั้นน่าจะมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการหายตัวไปของน้องกุ๊กไก่แน่นอน เบื้องต้นพอมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวข้องกับน้องกุ๊กไก่ว่า ตั้งแต่ออกจากที่พักในกรุงเทพฯ ไปตรงจุดไหนบ้าง แล้วไปสิ้นสุดอยู่ที่จังหวัดใด" แหล่งข่าวในชุดสืบสวน ระบุ
นอกจากนี้ชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติของเสี่ยที่คบหากับน้องกุ๊กไก่ทราบว่า เคยถูกกล่าวหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2551 โดยเหยื่อเป็นนักศึกษาสาวคนหนึ่ง เรียนอยู่ระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี ถูกฆาตกรรมขณะสวมใส่ชุดนักศึกษา ทิ้งศพไว้บริเวณบ่อลูกรังบ้านแก้วเมืองเพชร หมู่ 9 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถัดจากวันที่พบศพเพียง 2 วัน ชุดสืบสวนของบก.สส.ภ.2 จับกุม เสี่ยคนนี้ได้เพราะจำนนต่อหลักฐานหลายอย่าง แต่ภายหลังทราบว่าตำรวจและอัยการสั่งไม่ฟ้อง
ขณะเดียวกัน เสี่ยคนนี้ยังมีหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2554 ในข้อกล่าวหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าหนักงาน พฤติการณ์แห่งคดี เสี่ยคนนี้แจ้งความว่า โฉนดที่ดินหาย แต่ข้อเท็จจริงโฉนดใบดังกล่าวนำไปใช้กู้ยืมเงินจากผู้เสียหายคนหนึ่ง
"ชุดสืบสวนออกติดตามจนกระทั่งพบเสี่ยคนนี้ และแสดงหมายจับในข้อกล่าวหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ชุดสืบสวนพยายามสอบถามเรื่องของน้องกุ๊กไก่ แต่เมื่อพูดคุยกันเหมือนแบ่งรับแบ่งสู้ยังบอกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับน้องกุ๊กไก่ไม่มาก ทางชุดสืบสวนจึงพยายามประสานพนักงานสอบสวน เพื่อขอคัดค้านการประกันตัวของเสี่ยคนนี้ในข้อกล่าวหาตามหมายจับ เพื่อจะได้สอบสวนเรื่องของน้องกุ๊กไก่ให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด เพื่อติดตามน้องกุ๊กไก่ แต่ทนายความก็ขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล และศาลพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว จึงไม่ได้รายละเอียดเท่าที่ควร" แหล่งข่าวในชุดสืบสวน ระบุ
คงต้องวัดศักยภาพของหน่วยงานที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนว่า สามารถติดตาม "น้องกุ๊กไก่" กลับคืนสู่อ้อมอกผู้เป็นแม่และน้องสาวได้หรือไม่?!!
แหล่งที่มาของข่าว
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น