ครม.ให้ยุบกรรมการเจรจาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารตามที่กระทรวงทรัพยฯเสนอ ยันดูความสอดคล้องของรธน.-ข้อกฎหมายเกี่ยวข้องแล้ว
การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 20 ก.ย.ได้มีการพิจารณาเรื่องการทบทวนความจำเป็นต้องคงอยู่ของคณะกรรมการต่างๆที่แต่งตั้งโดยมติครม. หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ซึ่งแต่ละกระทรวงได้เสนอเรื่องเข้ามาให้พิจารณาหลายคณะกรรมการด้วยกัน แต่ที่น่าสนใจอยู่ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เสนอให้ครม. ยกเลิกคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการเจรจากรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยให้เหตุผลว่า ได้คำนึงถึงความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว
ทั้งนี้ ครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2554 ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีมติ แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการเจรจากรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยมี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นกรรมการและเลขานุการ และกรรมการอื่นอีก 20 คน
อำนาจหน้าที่ของคณธกรรมการดังกล่าวมีดังนี้ 1.เจรจาร่วมกับภาคีและองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่ข้อยุติกรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก 2.พิจารณา กำหนดท่าทีในการเจรจา กรณีปราสาทพระวิหาร และเพื่อให้มีเอกภาพในการเจรจาให้หน่วยงานให้มีการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก จะต้องได้รับความเห็นชอบจากประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการเจรจากรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก 3.แต่งตั้งคณะทำงานตามความจำเป็น 4.ปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
แหล่งข่าว ทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การยุบคณะกรรมการชุดนี้จึงเป็นที่จับตามองว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะมีนโยบายต่อการเจรจากรณีปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกอย่างไร และจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่หรือไม่ และจะเป็นใครมาทำหน้าที่นี้
นอกจากนี้ ในส่วนของสำนักปลัดสำนักนายกฯ ภายใต้การกำกับดูแลของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกฯ ได้เสนอให้ยุบ คณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกร เนื่องจากรัฐบาลมิได้มีนโยบายที่จะดำเนินการในโครงการดังกล่าว
ขณะที่กระทรวงกลาโหม ได้รายงานว่ามีกรรมการตามมติครม. 16 คณะ แต่ขอให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและหน้าที่ อาทิ คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศ หรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน(พิจารณาเงินทดแทนและบำเหน็จบำนาญความชอบ)
ปรับปรุงคณะกรรมขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ฯลฯ ในส่วนของสำนักพระพุทธศาสนา ภายใต้การกำกับดูแลของนพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.สำนักนายกฯ ได้ขอปรับลดคณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายฆราวาสเดิมมี 49 คน ขอปรับลดคณะกรรมการอำนวยการ(เดิม) 3 ตคน และขอปรับเพิ่ม (ใหม่ ) 9 คน รวมจำนวนกรรมการทั้งสิ้น 55 คน
โพสทูเดย์
โพสทูเดย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น