"ที่นี่....เชียงใหม่" ม.ล.ปนัดดา รมต.สำนักนายกฯ รุดติดตามภัยแล้ง-หมอกควันและไฟป่า ภาคเหนือ ระบุ นายกฯ เป็นห่วงกำชับดูแลใกล้ชิดพร้อมชมสาธิตหุ่นยนต์พ่นละอองน้ำเพิ่มความชุมชื้นในตัวเมือง
เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาติดตามการทำฝนหลวงในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เพื่อหาแนวทางบรรเทา ปัญหาภัยแล้ง และหมอกควัน หลังจากนั้น หม่อมหลวงปนัดดา ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจ สภาพน้ำที่เขื่อนแม่งัด สมบูรณ์ชลและเขื่อนแม่ กวงอุดมธารา ต่อจากนั้นได้.เดินทางไปชมหุ่นยนต์ดับเพลิง ๔ คัน (ศูนย์ ปภ.เขต ๑๐ และ เขต ๔ ) ณ บริเวณข่วงประตูท่าแพ โดยมีการสาธิตการปฏิบัติภาระกิจสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ
หม่อมหลวงปนัดดา ระบุว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้มอบหมายให้ รัฐมนตรีที่กำกับดูแลจังหวัดต่างๆ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง หมอกควัน และไฟป่า อย่างใกล้ชิด เท่าที่ได้รับรายงานจ.เชียงใหม่ถือว่ายังอยู่ในภาพลักษณ์ที่เป็นปกติ แต่ตั้งอยู่ใน ความประมาทไม่ได้ส่วนเรื่องภัยแล้งนั้น นายกรัฐมนตรี ก็ห่วงใยเป็นพิเศษ สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงมหาดไทย รายงานทุกวัน วันละ ๒ เวลา และให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว สำหรับการตรวจเยี่ยมวันนี้จะเอาข้อมูลทั้งหมดไปประชุมประเมินสถานการ์ที่ส่วนกลางเพื่อให้เกษตรกรเจอปัญหาน้อยที่สุด ขณะเดียวกันยังกำชับให้จังหวัดเป็นตัวเทนรัฐบาลร่วม ทำงานกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขอความร่วมมือเกษตรกรช่วยกัน ประหยัดน้ำ
สำหรับสถานกาณ์น้ำในเขื่อนทั้งหมดของจ.เชียงใหม่ ทั้งเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และเขื่อน แม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเนื่องจากฝนตกช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้แผนการใช้น้ำ ของจ.เชียงใหม่ จะมีเพียงพอไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเข้าสู่ภาวะ วิกฤตในช่วงเดือนพฤษภาคม
ส่วนในเรื่องของหมอกควัน มล.ปนัดดากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "สถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ถือว่ายังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง และดีขึ้นเมื่อเปรียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเวลานี้เพิ่งเป็นช่วงเริ่มของสถานการณ์ปัญหาจึงไม่สามารถวางใจได้ และมีความจำเป็นอย่างยวดยิ่งที่จะต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมและลดปัจจัยเสี่ยงทุกอย่างที่เป็นต้นเหตุของปัญหา โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกคนและทุกภาคส่วนเป็นสำคัญ จึงจะช่วยป้องกันบรรเทาปัญหานี้ลงได้สำเร็จ"
ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าวเชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น