ป่าไม้ร่วมกับคณะสงฆ์ประชุมลับลงมติเป็นเอกฉันท์ ให้ดำเนินคดีกับ "พระเกษม" เหตุรุกป่าสงวนแห่งชาติ ขณะที่พระผู้ใหญ่บางรูปออกความเห็นให้เจ้าหน้าที่ทบทวนให้ดีก่อนดำเนินการ
28 ก.ย.54 ที่ห้องประชุมเขาค้อ ศาลากลางจังหวัด เพชรบูรณ์ คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ได้ร่วมประชุมพิจารณากรณีที่พระเกษม อาจิณุณสีโร ประธานที่พักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ตามที่สื่อนำเสนอไปอย่างต่อเนื่องนั้น
โดยผู้ร่วมประชุมมี นายไพฑูลย์ เจียมวิจิตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เพชรบูรณ์ นายชิด อินทระนก หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ พระเทพรัตนกวีเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ ฝ่ายมหานิกาย และพระครูวัชรธรรมรองเจ้าคณะจังหวัดฝ่าย(ธ) ในที่ประชุมมีมติออกมาเป็นเอกฉันท์คือต้องเข้าดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายของพระเกษมอย่างเฉียบขาด
ทันที
นายอุดร จันธิมา หัวหน้าอุทยานเขาค้อ กล่าวว่า การกระทำของพระเกษม ที่ทำลงไปนั้นทำให้ภาพพจน์ของศาสนาได้รับความเสียหาย จากการตรวจสอบเอกสารข้อมูลของฝ่ายสงฆ์นำมาแสดง พบว่า มีเอกสารการขอเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานนั้นไม่สมบูรณ์ และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่แต่อย่างใด เป็นเพียงเอกสารที่ทำกันระหว่างการเข้าขอร่วมโครงการเท่านั้น
จากการที่ทางป่าไม้จังหวัดทำรายงานถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงนั้นก็มีผลออกมาว่าให้ดำเนินการและยกเลิกโครงการนี้ทันที ดังนั้นได้รายงานถึง ผอ. สำนักที่ 11 เพราะพื้นที่ป่าที่สำนักสงฆ์ตั้งอยู่นั้น อยู่ในแปลง เอฟ ที พี 2 ในพื้นที่ 2.700 ไร่ ตามที่สำนักสงฆ์ป่าขอเข้าร่วมและใช้พื้นที่ 100 ไร่ ซึ่งกรมป่าไม้จะได้เพิกถอน และยังจะทำการวัดพื้นที่เพื่อมัดตัวพระเกษมได้ชนิดว่าดิ้นไม่หลุด หากว่าหน่วยงานไม่กล้าเข้าดำเนินการตนเองจะเป็นผู้นำและสนธิกำลังรวมทั้งทหารเข้าทำการทันที
ในส่วนความเสียหายที่มีการรุกป่านั้น นายชิต อินทระนก หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้เพชรบูรณ์ กล่าวว่า จากการเข้าไปตรวจสอบพิกัดและเนื้อที่ ที่ทางสำนักสงฆ์ป่าสามแยกมีการกระทำการผิดเงื่อนไขมีเจตนารุกป่าอย่างชัดเจน
โดยการสำรวจครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2554 พบว่ามีการก่อสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิพระ ห้องน้ำ โรงครัว โรงบิณฑบาต และสิ่งปลูกสร้างใหม่ คือกุฏิแม่ชี ที่พักญาติโยมขนาดเล็กจำนวน 15 หลัง และห้องน้ำ 2 หลัง เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ จึงสรุปข้อมูลพร้อมมอบต่อนายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาเพชรบูรณ์ เพื่อสั่งให้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่บุกรุก พร้อมดำเนินการกับพระเกษมทันที และสั่งให้ยกเลิกโครงการอุทยานพุทธแห่งนี้ทันที
ด้านพระเทพรัตนกวี เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ ฝ่ายมหานิกาย กล่าวว่า พระเกษมขาดจากการเป็นพระมานานแล้ว เพราะปัญหานี้เกิดขึ้นมานาน พระผู้ใหญ่ออกมาตักเตือนแล้วหลายครั้ง แต่พระเกษมไม่เคยรับฟัง และยังทำการขัดขืนคำสั่ง มีพฤติกรรมก้าวร้าวกับพระผู้ใหญ่ และอ้างตนเป็นผู้รู้ พร้อมให้คณะสงฆ์ และฝ่ายปกครองได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น
แหล่งที่มาของข่าว
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น