<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

กลุ่มช่างตัดผม-นักดนตรีจิตอาสา จัดตัดผมฟรีและเล่นดนตรีบริจาคช่วยเหลือ สปป.ลาว



กลุ่มช่างตัดผม - นักดนตรีจิตอาสา จัดตัดผมฟรีและเล่นดนตรีขับกล่อมประชาชนนักท่องเที่ยว บนข่วงประตูแพเพื่อช่วยเหลือนำรายได้บริจาคให้พี่น้อง สปป.ลาว ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และมทบ.33

อีกหนึ่งน้ำใจของชาวเชียงใหม่ นายฤทธิไกร พงศ์ธิ เจ้าของร้าน "ตัดเพลิน" และเพื่อนพ้องในวงการอีกร้าน "cnx hair cut" จัดกิจกรรมนำช่างตัดผมของร้านจำนวน 5 คน จาก 3 สาขาอำเภอหางดง สันป่าตอง และตำบลแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมตัดผมฟรี โดยได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ทหารที่มารับบริจาคสิ่งของ ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็มาใช้บริการตัดผมจำนวนมาก นำรายได้บริจาคสมทบเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม สปป.ลาว นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีจิตอาสาอีกหลายวงหลากหลายแนวดนตรี มาร่วมทำการแสดงให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับฟัง ซึ่งทั้งสองกิจกรรมได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหมร่วมกับทหารมลฑลทหารบกที่ 33 เปิดจุดรับบริจาคเพื่อช่วยพี่น้อง สปป.ลาว ณลานข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ ไปจนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จนถึง 20.00 น. ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็นอาทิ น้ำดื่ม เสื้อผ้า เครื่องนอน ผ้าห่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง และของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตอื่นๆเพื่อส่งมอบให้กับพี่น้องชาวลาวที่ประสบภัย

ทางด้านมทบ. 33 โดยการอำนวยการของ พล.ต.สาธิต ศรีสุวรรณ ผบ.มทบ.33 ได้จัดการแสดงวงดนตรีทหาร ของ มทบ.33 มาขับกล่อมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับชมรับฟัง รวมทั้งยังนำกำลังพลมาช่วยบริการประชาชนในด้านต่างๆอีกด้วย

นอกจากนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่ยังได้เปิดศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม สปป.ลาว ห้องศูนย์ดำรงธรรมชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5311-2592 ในเวลา 08.30 – 16.30 น. หรือที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5322-1470 ได้ทุกวัน และสำหรับท่านที่ต้องการบริจาคเป็นเงิน สามารถโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ชื่อบัญชี “หัวใจไทยส่งไป สปป.ลาว” เลขที่บัญชี 067-0-12886-4 ได้โดยตรง

กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News 
สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน







ภาพบรรยากาศวันที่ 3 ของจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ มทบ. 33 รับบริจาคช่วยเหลือ สปป.ลาว



ภาพบรรยากาศ วันที่ 3 ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้ร่วมกับ มทบ.33 สำนักงานปภ.จังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม สปป.ลาว  ในช่วงวันหยุดยาว ณ ข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 29 กค. 61 เวลา 16.30 น. ณ ลานข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ตรวจเยี่ยมจุดรับบริจาคสิ่งของ พร้อมรับบริจาค สิ่งของ เสื้อผ้า ข้าวสาร อาหารแห้ง รวมทั้งเงินสด เพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม สปป.ลาว ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 3 ที่ได้มีการจัดตั้งจุดดังกล่าวขึ้น โดยมีประชาชนชาวเชียงใหม่ หน่วยงานต่างๆ ภาคเอกชน สมาคมฯ องค์กรต่างๆ จำนวนมากได้นำสิ่งของมาบริจาค และทาง มทบ. 33 โดยการอำนวยการของ พล.ต.สาธิต ศรีสุวรรณ ผบ.มทบ.33 ได้จัดการแสดงวงดนตรีทหาร ของ มทบ.33 มาขับกล่อมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับชมรับฟัง รวมทั้งยังนำกำลังพลมาช่วยบริการประชาชนในด้านต่างๆอีกด้วย

 นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 33 หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เปิดจุดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพิ่มเติม โดยเฉพาะช่วงวันหยุด ณ บริเวณข่วงประตูท่าแพ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่มีความประสงค์ร่วมบริจาคสิ่งของจำเป็น อาทิ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง และยารักษาโรค ซึ่งเป็นการช่วยเหลือในภาพรวมของจังหวัด นอกจากนี้ ยังเป็นจุดรวบรวมสิ่งของบริจาค ที่ส่วนราชการในจังหวัด และอำเภอใกล้เคียง รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะได้นำมาบริจาคสมทบ ในห้วงวันหยุดราชการนี้ สำหรับท่านที่ต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ชื่อบัญชี “หัวใจไทยส่งไป สปป.ลาว” เลขที่บัญชี 067-0-12886-4 ได้โดยตรง และสำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคสิ่งของ ควรบริจาคของใช้จำเป็นในการดำรงชีวิตของผู้ประสบภัย โดยควรบริจาคของใหม่ ได้มาตรฐาน ไม่มีสภาพเสี่ยงต่อการชำรุด บูดเน่า เสียหาย รวมทั้งไม่บริจาคของใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุแล้ว และไม่ควรนำสิ่งของใช้แล้วเช่นเสื้อผ้าเก่ามาบริจาค ทั้งนี้ ควรบรรจุหีบห่อสิ่งของบริจาคให้เหมาะสม สามารถขนส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยได้สะดวก โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของที่บริจาค ด้วย

นอกจากนี้ ผู้มีจิตศรัทธายังสามารถติดต่อบริจาคที่ “ศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม สปป.ลาว” ห้องศูนย์ดำรงธรรมชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5311-2592 ในเวลา 08.30 – 16.30 น. หรือที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5322-1470 ได้ทุกวัน สำหรับจุดรับบริจาค ที่ข่วงประตูท่าแพนี้ จะดำเนินการจนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 61นี้ และจะได้มีการส่งสิ่งของบริจาคไปยัง สปป.ลาว ในลำดับต่อไป ซึ่งในการขนส่งทั้งหมดนี้ บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง (1988) จำกัด โดยคุณอุดม สุวิทย์ศักดานนท์ รับเป็นผู้ดูแลและดำเนินการให้ทั้งหมด

กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่"  Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน








มทบ 33 ร่วมชาวเชียงใหม่รับบริจาคช่วยผู้ประสบภัยสปป.ลาว



มทบ.33 เปิดรับบริจาคช่วยพี่น้องชาวลาวที่ข่วงประตูท่าแพน้ำใจชาวเชียงใหม่และชาวต่างชาติเนื่องแน่น ทั้งสิ่งของเครื่องใช้และเงิน ขณะเดียวทางจังหวัดเชียงใหม่เปิดรับบริจาคที่ศาลากลาง ชั้น 1 ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ( 27 กค. 61) ที่ข่วงประตูท่าแพ กลางเมืองเชียงใหม่ มลฑลทหารบกที่ .33 เชิญชวนประชาชนชาวเชียงใหม่ ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัย สปป.ลาว” โดยเปิดรับบริจาค เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง และยารักษาโรค รวมทั้งของใช้จำเป็นต่างๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย พี่น้องชาวลาว ที่ประสบภัยเขื่อนแตก เพียงช่วงไม่กี่ชั่วโมงบรรดาชาวเชียงใหม่ ที่ทราบข่าวก็พากันนำสิ่งของต่างๆ พากันทะยอยเดินทางนำมาบริจาคต่อเนื่อง ร่วมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังบริเวณข่วงประตูท่าแพก็ใช้การบริจาคด้วยเงินสดแทน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารจากมทบ. 33 มาค่อยรับบริจาค พร้อมนำวงดนตรีมาร้องเพลงขับกล่อมให้กับผู้ที่เดินทางมาร่วมบริจาค

นอกจากนี้นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิญชวนประชาชนชาวเชียงใหม่-ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง และยารักษาโรค รวมทั้งของใช้จำเป็นต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย พี่น้องชาวลาว โดยสามารถบริจาคได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 1 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันนี้ (27 ก.ค.61) เป็นต้นไป โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ บริจาคได้ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. นอกจากนี้ยังสามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้อีกช่องทาง โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ชื่อบัญชี “หัวใจไทยส่งไป สปป.ลาว” เลขที่บัญชี 067-0-12886-4

ทั้งนี้ ผวจ.เชียงใหม่ ยังมีข้อแนะนำเกี่ยวกับการจะบริจาคสิ่งของเพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกว่า สิ่งของบริจาคต้องเป็นของใช้จำเป็นในการดำรงชีวิตของผู้ประสบภัย เป็นของใหม่ที่มีมาตรฐาน ไม่มีสภาพเสี่ยงต่อการชำรุด บูดเน่า เสียหาย หลีกเลี่ยงการบริจาคของใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้ว หรือสิ่งของใช้แล้ว เช่น เสื้อผ้าเก่า ควรให้ความสำคัญในการบรรจุหีบห่อสิ่งของบริจาคที่มีความเหมาะสมต่อการขนส่งไปยังพื้นที่ที่ประสบภัยได้สะดวก และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของบริจาค ทั้งนี้สิ่งที่มีความจำเป็นและได้รับการประสานจากพื้นที่ประสบภัยมาว่า ประสงค์จะรับบริจาค เต็นท์พักพิง สุขาสำเร็จรูป และยารักษาโรค เป็นต้น

กมล เครือนิล ทีมข่าว ที่นี่....เชียงใหม่ Fast News
สำนักข่าวเชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน





ชมรมนักวิทยุและโทรทัศน์เชียงใหม่ – ลำพูน จับมือ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 และ ม.เชียงใหม่ จัดวิ่ง PR.Run 2018



ชมรมนักวิทยุและโทรทัศน์เชียงใหม่–ลำพูน ร่วมกับ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อการกุศล-สุขภาพ “PR Run 2018” ขึ้น โดยกำหนดจัดในวันอาทิตย์ ที่ 2 กันยายน 2561 นี้ 

โดยงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการระดมทุนสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เช่น กิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว กิจกรรมถวายเทียนพรรษาให้วัดในถิ่นทุรกันดาร และการสนับสนุนหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เป็นต้น อีกทั้งยังได้เล็งเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในทุกเพศทุกวัยให้มีสุขภาพแข็งแรงและห่างไกลยาเสพติด ที่ถือเป็นวัตถุประสงค์สำคัญ จนเกิดขึ้นเป็นโครงการ
นอกจากการวิ่งแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในครอบครัว ชุมชน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมกิจกรรมด้วยการวิ่งออกกำลังกายและเป็นการพบปะกันในสังคมรอบข้างเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกด้วย
สำหรับการวิ่งในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ มินิมาราธอน ระยะทาง 10 กม. และ Fun Run 5 กม. โดยใช้เส้นทางวิ่งบนถนนภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความร่มรื่น ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ที่สำคัญคือมีความปลอดภัย ส่วนค่าลงทะเบียน PR RUN 2018 ทุกระยะราคา 350 บาท มีถ้วยรางวัล Over all โดยแยกประเภทชาย – หญิง ประเภทมินิมาราธอน แยกประเภทชาย-หญิง ที่ 1 – 5 แบ่งตามรุ่นอายุ อายุไม่เกิน 19 ปี อายุ 20 – 29 ปี อายุ 30 – 39 ปี อายุ 40 – 49 ปี อายุ 50 – 59 ปี และรุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป
ส่วนประเภทฟันรันจะไม่มีการแข่งขัน แต่จะมีถ้วยรางวัลแต่งกายแฟนซีสวยงาม ไม่เน้นเวลา จะมีถ้วยรางวัลให้ 5 รางวัล เป็นรางวัลสำหรับชมรมที่เข้าร่วมมากที่สุดลำดับ 1–5
เปิดรับสมัคร 1 กรกฏาคม 2561 เป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสอบถาม  https://www.facebook.com/PRRUN2018/   และ  https://goo.gl/7ZbpvY







รมว. เกษตรฯ ลุยอุโมงค์ส่งน้ำ แม่แตง-แม่งัด กำชับให้แล้วเสร็จ ปี 64 หลังล่าช้ากว่าแผนมาก



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ แม่แตง - แม่งัด พร้อมเร่งรัดให้ทุกฝ่าย ดำเนินงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาภายในปี 2564 ซึ่งการก่อสร้างถึงปัจจุบันล่าช้ากว่าแผนมาก

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00 น. นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะประกอบด้วย นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ 
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน 
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน  รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลางรวมทั้งสื่อมวลชนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาที่สำนักงานควบคุมการก่อสร้างโครงการอุโมงค์ส่งน้ำ แม่แตง - แม่งัด อ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปความเป็นมาและรายละเอียดของโครงการดังกล่าว โดยใช้เวลาในการรับฟังข้อมูลพร้อมให้คำแนะนำกับผู้บริหารโครงการเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง

ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังหัวงานก่อสร้าง บริเวณอุโมงค์ส่งน้ำ เข้า -ออก หมายเลข 2 ซึ่งตั้งอยู่ บ้านทับเดื่อ ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดูภาพโดยรวมของการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งในขณะนี้มีความคืบหน้าของการก่อสร้างทั้งหมดคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 24 ซึ่งผลงานโดยรวมควรได้ร้อยละ 53 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเป็นอย่างมากถึงร้อยละ 30

สำหรับอุโมงค์ส่งน้ำ เข้า-ออก หมายเลข 2 นี้ เป็นการขุดเจาะอุโมงค์ส่งน้ำช่วง ลำน้ำแม่แตง (ประตูระบายน้ำแม่ตะมาน) - เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เมตร ระยะทาง 25.624 กิโลเมตร พร้อมอาคารประกอบ ซึ่งในขณะนี้สามารถขุดเจาะไปได้ระยะทาง 1,264 เมตร คิดเป็นความก้าวหน้า ร้อยละ 14 หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถผันน้ำส่วนเกินจากลำน้ำแม่แตง ประมาณ 113 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน ไปยังเขียนแม่งัดสมบูรณ์ชล ก่อนจะส่งต่อไปยังอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธาราต่อไป

หลังจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะรวมทั้งผู้สื่อข่าวได้เดินเข้าไปตรวจความคืบหน้าการทำงานภายในบริเวณอุโมงค์ส่งน้ำได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวบางช่วงบางตอน ว่า " วันนี้ผมพร้อมด้วยปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์ อธิบดีกรมชลประทานและทีมงาน มาตรวจดูโครงการผันน้ำจากแม่น้ำแตง เอาไปลงที่เขียนแม่งัดสมบูรณ์ชลกับเขื่อนแม่กวงอุดมธารา งวดงานในขณะนี้ยังช้าอยู่ ทั้งนี้ได้เรียนกับอธิบดีกรมชลประทานกับผู้บริหารว่า นอกจากจะมีช่างผู้ควบคุมงานแล้วให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีกหนึ่งชุดเพื่อที่จะมาติดตามและคอยประเมินว่าถึงวันนี้แล้วคือเดือนกรกฎาคม 2561 แล้ว จากนี้ไปจนถึงปี 2564 มีอะไรบ้างที่จะไม่ทันตามระยะเวลาการจ้างงาน ในกรณีที่เป็นเรื่องของการบริหาร ที่ต้องอาศัยการประสานงานกับหน่วยข้างเคียงในพื้นที่ก็จะได้ดำเนินการเลย หรือถ้าเป็นปัญหาทางการบริหารที่ต้องอาศัยการประสานงานข้ามกระทรวงในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็จะได้ช่วยเหลือดูแลเค้า ขณะเดียวกันก็จะเป็นการกระตุ้นเตือนผู้รับจ้างทั้งสองบริษัทให้ใช้ความพยายามอย่างมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในการผลักดันโครงการนี้สำเร็จตามเป้าหมายในปี 2564 "

"ซึ่งถ้าหากโครงการอุโมงค์ผันน้ำแห่งนี้สำเร็จ จะถือเป็นอุโมงค์ผันน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่รัฐก่อสร้างลอดทั้งใต้ดิน ใต้น้ำ ใต้ภูเขาและผืนป่า  โดยมีการศึกษาออกมาแล้วว่าไม่มีผลกระทบ และจะได้เป็นตัวอย่างของโครงการของภาครัฐที่เป็นโครงการขนาดใหญ่แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้หากโครงการฯสามารถดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถ
แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำของจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนได้ เพราะในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งในการแย่งชิงน้ำของชาวบ้านใน 2 จังหวัด" ท่าน รมว. กล่าวกับผู้สื่อข่าวในตอนท้าย

กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน













จังหวัดเชียงใหม่จัดงาน "ตลาดนัดชุมชน ไทยช่วยไทย คนไทยยิ้มได้ "



จังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน “ตลาด นัดชุมชน ไทยช่วยไทย คนไทยยิ้มได้" ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาการเชื่อมโยงการผลิตและการประกอบธุรกิจสู่ระดับสากล หวังส่งเสริมการตลาดสินค้าชุมชน ให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 เวลา 16.00 น. นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ตลาดนัดชุมชน ไทยช่วยไทย คนไทยยิ้มได้” ที่ ลานโปรโมชั่น ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยมุ่งหวังส่งเสริมการตลาดสินค้าชุมชน สินค้าเกษตรปลอดภัย ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดเชียงใหม่
ตามที่ รัฐบาลได้กําหนดนโยบายการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ OTOP SMEs ให้เข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเพิ่มองค์ความรู้ในด้านการปรับปรุง ประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาการบริการ การจัดการภายในองค์กร และการยกระดับผลผลิตทางการเกษตร เพื่อสามารถแข่งขัน ในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และขับเคลื่อนประเทศชาติ ตามยุทธศาสตร์ “ประชารัฐ” มุ่งเน้นการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน เพิ่มกําลังซื้อขายในประเทศ สร้างความสมดุล และความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนตามแนวเศรษฐกิจพอ เพียง
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมตลาดนัดชุมชนไทยช่วยไทยคนไทยยิ้มได้ จึงเป็นช่องทางหนึ่ง ที่จะช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดสินค้าชุมชน สินค้าเกษตร ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนและการตลาดแก่ผู้ผลิต และผู้ประกอบการ OTOP และ SMEs ของจังหวัดเชียงใหม่ และเพื่อเพิ่มรายได้และช่องทางการตลาดให้แก่ ผลิตภัณฑ์ OTOP SMEs กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
โดยการจัดงานในครั้งนี้ มีกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และกลุ่มวิสาหกิจ ชุมชน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้าอุตสาหกรรมด้านหัตถกรรม เข้าร่วมจัดแสดงและ จําหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน จํานวนทั้งสิ้น 50 ราย โดยได้รับความร่วมมือจากภาคีการพัฒนาภาคประชารัฐในทุกภาคส่วน









จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมการจัดเตรียมโครงการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า



จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนสานต่อโครงการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า กิจกรรมทำความสะอาด กำจัดผักตบชวา เศษวัชพืชและขยะในคลองแม่ข่า โดยได้เปิดรับสมัครประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุดลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 3 ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ ด้วยอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ประชุมการจัดเตรียมโครงการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่ากิจกรรมทำความสะอาด กำจัดผักตบชวา เศษวัชพืชและขยะในคลองแม่ข่า” ในระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2561 อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมดังกล่าว และพิจารณาแนวทางตลอดจนมอบหมายภารกิจ
ทั้งนี้ เพื่อแสดงความสำนักในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ร่วมกันจัดโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุดลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน อำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้จัดทำโครงการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า โดยกิจกรรมทำความสะอาด กำจัดผักตบชวา เศษวัชพืชและขยะในคลองแม่ข่า ในระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2561 อำเภอเมืองเชียงใหม่
นอกจากนั้น จังหวัดเชียงใหม่ขอเชิญชวนประชาชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน องค์การของรัฐและเอกชน  ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา ร่วมลงทะเบียนสมัครเป็น ประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ในวันที่ 17 - 19 กรกฎาคม 2561 ตั้งแต่ตั้งแต่เวลา 8.00 น. - 16.00 น. ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และขอให้ผู้สมัครนำบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงติดตัวมาด้วย สำหรับเด็กอายุไม่ถึง 7 ขวบ ให้นำสูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้านมาเป็นหลักฐาน พร้อมทั้งแต่งกายชุดสุภาพ สวมใส่เสื้อเหลือง เพื่อเข้ารับพระราชทานหมวก ผ้าพันคอ และบัตรประจำตัวประชาชนจิตอาสา หลังจากนั้นจะร่วมปฏิบัติภารกิจ จิตอาสาพัฒนาคลองแม่ข่า ณ บริเวณชุมชนศรีดอนชัย ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
 



ภูธรภาค 5 จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์สะพานป่าแดดและพัฒนาทางเท้าถนนมหิดล สนองพระราชดำริ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”



เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00 น. พล.ต.ท. พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการภาค 5 เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาร่วมใจปรับภูมิทัศน์สะพานป่าแดดและพัฒนาทางเท้าถนนมหิดล โครงการจิตอาสาพระราชทาน ตามแนวพระราชดำริ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ที่ลานอินทนนท์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนจิตอาสา เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยงานราชการในพระองค์ ร่วมกับหน่วยงานราชการต่างๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีจิตอาสา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ และพระองค์มีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า เพื่อเป็นการพัฒนาร่วมใจ ปรับภูมิทัศน์ และพัฒนาทางเท้าถนนมหิดล ทั้งนี้ถนนมหิดล ถือเป็น ถนนสายสำคัญทางยุทธศาสตร์ ของจังหวัดเชียงใหม่ และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่9 ทรงมีพระเมตตาพระราชทานพระนามพระราชสกุลของพระองค์ท่านเป็นชื่อ “ถนนมหิดล” กิจกรรมโครงการจิตอาสาพัฒนาร่วมใจ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รวมระยะทาง 7.2 กิโลเมตร โดยการจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติที่เชิงสะพานป่าแดด รวมถึงการทำความสะอาดทางเท้า การตัดแต่งต้นไม้ข้างทาง ตัดหญ้า เก็บขยะ ทำความสะอาดทางลอดใต้สะพานฝั่งตำรวจภูธรภาค 5 ให้สวยงาม โดยตำรวจภูธร ภาค 5  ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่  มณฑลทหารบกที่ 33 กองพลทหารราบที่ 7 กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 แขวงการทางเชียงใหม่ที่  2 องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เทศบาลนครเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตการศึกษาพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคประชาคน และเอกชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนจิตอาสาฯ และชุมชนใกล้เคียง รวมพลังร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในครั้งนี้

ทั้งนี้กำลังพลและประชาชนจิตอาสารวมพลเพื่อรับฟังการชี้แจง จากนั้นจึงแบ่งหน้าที่กันไปทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เริ่มตั้งแต่บริเวณ แจ่งกู่เฮือน ถึงบริเวณสะพานต่างระดับดอนจั่น โดยมีกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การทาสีทางเท้า ทาสีขอบทาง ทาสีเกาะกลางถนน ขุดลอกท่อระบายน้ำ  ตัดแต่งกิ่งไม้ข้างทางถนนทั้งสองฝั่งถนน ขุดลอกตลิ่งลำน้ำปิง ข้างสะพานป่าแดด ทั้งสองฝั่งลำน้ำปิง เก็บขยะ ทำความสะอาดทางลอดใต้สะพานฝั่งป่าแดดและทางลอดใต้สะพานฝั่งตำรวจภูธร ภาค 5 ให้สวยงาม รวมระยะทาง 7.2 กิโลเมตร โดยจัดทำซุ้มเฉลิมพระเกียรติที่เชิงสะพานป่าแดด ซึ่งเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่ วันที่ 13 กรกฎาคม 2561 จนเสร็จสิ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 ตลอดบริเวณ ถนนมหิดล อ.เมือง จ.เชียงใหม่