<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

"ที่นี่....เชียงใหม่"




"ที่นี่....เชียงใหม่" 09.30น. 22 พค. 57 
แรม 9 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเมีย

ครับ ! สามวันเข้าไปแล้วสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ เมื่อวานนี้(21 พค.)ช่วงบ่ายสอง พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.ในฐานะ ผอ.กอ.รส.ได้เชิญกลุ่มบุคคลสำคัญๆของประเทศหลายกลุ่มรวม 7กลุ่ม ซึ่งมีทั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรค ปชป. กกต. กปปส. กลุ่มนปช. และ สว. เข้าร่วมประชุมหาทางออกให้ประเทศ ที่สโมสรทบ.วิภาวดี ท่ามกลางมาตราการรักษาความปลอดภัยเต็มพิกัด แม้กลุ่มผู้สื่อข่าวทั้งไทยและเทศกว่า 200 คนก็ไม่ให้เข้าไปทำข่าว ต้องออกมาตากแดดกันอยู่อีกฝังของสโมสร หลังประชุมนานกว่าสองชั่วโมงกว่าก็ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้การบ้านแต่ละฝ่ายกลับไปคิด 5ประเดนแล้วมาคุยกันต่อ วันนี้ 14.00น.(22 พค.) 
           
 สำหรับนพบุรีศรีนครพงค์ "เชียงใหม่" ของเราก็มีความเคลื่อนไหวสำคัญๆดังนี้ เมื่อวันก่อน(20 พค.)ซึ่งเป็นวันแรกของการประกาศกฎอัยการศึก ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการทั่วจังหวัด ก็ได้ถูกเชิญให้ไปรับทราบ กฎอัยการศึกในช่วงเช้า ที่สโมสารค่ายกาวิละ และบ่ายท่านผู้ว่าฯก็ขึ้นฮ.ของ ทบ..ไปรายงานตัวที่กองทัพภาคที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก ตามคำสั่งของกอ.รส. ทหารก็เข้าดูแลพื้นที่สำคัญๆของจังหวัดหลายแห่งเช่น สถานี NBT เป็นต้น (ขอยืมรถโมบายไปใช้ด้วย)และเมื่อวานนี้ (21 พค.) กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ถูกเชิญไปพบที่ค่ายฯด้วยเช่นกัน แต่ไร้เงา ท่านนายกฯ อบจ. สำหรับวันนี้ 22 พค. เวลา 11.00 น. สองกลุ่มสำคัญก็ได้ถุกเชิญไปพบอีกเช่นกันนั่นคือ กปปส.ชม. และกลุ่มเสื้อแดง ชม. สถานที่ที่เดิม สโมสรค่ายกาวิละ ช่วงบ่ายที่ คณะสังคม มช. กลุ่มนักวิชาการที่ต่อต้านกฏอัยการศึกก็จัดเวทีเสวนาขึ้น นำโดยนักวิชาการชื่อดัง ครับสำหรับบรรยากาศทั่วไปก็ปกติ ประชาชนก็ทำมาหากินกันปกติ มีวิพากษ์วิจารณ์กันบ้าง ตามสมควร สถานีวิทยุชุมชนส่วนใหญ่ เปิดเพลงยาวทั้งวันไม่มี ดีเจ รอการลิงค์สัญญานจาก กอ.รส. ในท้องถนนมีการตั้งด่าน ทหารและตำรวจในหลายจุด เพื่อป้องกันเหตุร้ายจากผู้ไม่หวังดีและการรวมตัวของกลุ่มมวลชนกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข่วงท่าแพ ช้างเผือกเป็นต้น สำหรับสื่อมวลชนเชียงใหม่ก็ทำงานกันต่อไปอย่างเต็มที่ แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องการนำเสนอในบางเรื่องบ้างพอสมควร เพราะประกาศ ฉบับที่ 3/2557 ของ กอ.รส.ประกาศไว้ค่อนข้างกว้างมาก คิดจะโพส แชร์อะไรก็พิจารณาให้ดีกันก่อนนะครับ แต่อย่างไรชีวิตก็ต้องดำเนินกันไป ชาติไทยต้องไปต่อครับ.
กมล เครือนิล สำนักข่าวเชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน 22 พค. 57
ขอบพระคุณภาพจากหลายแหล่งข่าวด้วยครับ. 








ประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร


กองทัพบกประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ย้ำไม่ใช่การปฎิวัติ




เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกประกาศกองทัพบก ฉบับที่ 1/2557 เรื่องการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก และมีคำสั่งให้ศูนย์อำนวยการรักษาความเรียบร้อย (ศอ.รส.) ยุติหน้าที่ในทันที
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) โดยมีผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้อำนวยการ มีหน้าที่ป้องกันระงับ ยับยั้ง และแก้ไขสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความสงบและความมั่นคงของประเทศ มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราใน พรบ.กฎอัยการศึกและมีอำนาจเชิญบุคคลมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก ประกาศกฎอัยการศึก เวลา 6.30 น. ผ่านสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง โดยให้เชื่อมสัญญาณจากช่อง 5 ย้ำ ไม่ใช่การปฎิวัติ โดยประชาชนอย่าตื่นตระหนก ยังสามารถทำงานได้ตามปกติเหมือนเดิม

 กมล เครือนิล สำนักข่าวเชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน





หนุ่มปลาดิบโดนกระสุนดับคารร.หรูกลางเมืองเชียงใหม่



หนุ่มแดนปลาดิบถูกกระสุนเจาะปริศนาดับคาห้องพักโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่ ระดับสูงสั่งไม่ให้ข้อมูลสาเหตุการตาย 


เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 18 พ.ค.57 พ.ต.ท.สุวิทย์ ปัญโญ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.เชียงใหม่รับแจ้งเหตุ  ชายชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต ในห้องพักชั้นที่ 8 โรงแรมแชงกรีลา เลขที่ 89/8 ถนนช้างคลาน  ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับพวก เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมใจ 
ที่เกิดเหตุพบชายชาวญี่ปุ่น อายุระหว่าง 30 - 35 ปี นอนตายลักษณะคว่ำหน้าอยู่ระหว่างปลายเตียงกับโต๊ะ สภาพศพถูกยิงที่บริเวณหน้าผาก เลือดไหลนองพื้น ไม่พบร่องรอยการขัดขืนหรือต่อสู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ โดยพบสิ่งของบางอย่างที่ส่งให้หญิงสาวคนหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ โดยระบุชื่อชาวชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ส่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสืบสวนการตายที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง พร้อมประสานทางกงสุลญี่ปุ่นเพื่อแจ้งให้ญาติพี่น้องผู้ตายทราบ 
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับคดีดังกล่าว ทางโรงแรมไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งผู้บังคับบัญชาได้สั่งกำชับฝ่ายปฏิบัติงานลงพื้นที่ทุกคนไม่ให้ข้อมูลเพื่อสื่อข่าวถึงเรื่องการตายปริศนาดังกล่าว
ขอบคุณภาพจากไลน์ แหล่งข่าว
กมล เครือนิล สำนักข่าวเชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน.





โดมใหญ่ไม่ค้ำพระธาตุดอยสุเทพ กก.วัดพร้อมปรับแบบหลังกระแสต้านกระหึ่ม(มีคลิปสัมภาษณ์)



กรรมการวัดดอยสุเทพแจง ปรับลดปลายยอดโดมลงเพื่อลดปัญหา

นายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ นำสื่อมวลชนเข้าชมโดมที่มีการกล่าวถึงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ที่ก่อสร้างขึ้นมาใหม่บนดอยสุเทพ ซึ่งมีการกล่าวถึงความเหมาะสมในการสร้างขึ้นมาและอาจจะบดบังทัศนียภาพของวัดพระธาตุดอยสุเทพ
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ณ บริเวณลานชมวิววัดพระธาตุดอยสุเทพ คณะสื่อมวลชนจำนวนมากได้เดินทางขึ้นมาสำรวจและตรวจสอบอาคารลักษณะคล้ายโดมที่ปรากฎอยู่และเป็นที่โจษจานถึงความเหมาะสมอยู่บนโลกออนไลน์ โดยนายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้นำภาพถ่ายแบบแปลนการก่อสร้างโดมดังกล่าว ซึ่งจะมีการสร้างเป็นหอชมวิวและห้องรับรองแขกชั้นผู้ใหญ่ อาคันตุกะ ทูตานุฑูต รวมถึงจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของต่างๆที่อยู่คู่วัดพระธาตุดอยสุเทพที่ถูกเก็บรักษาไว้เมื่อแต่แรกสร้าง โดยเฉพาะที่เห็นเป็นปลายยอดสูงๆของโดมดังกล่าวนั้นทำขึ้นเพื่อจัดวางธรรมมาสน์โบราณอายุหลายร้อยปีที่อยู่คู่วัดมานานซึ่งเป็นธรรมมาสน์ปลายยอดสูงรูปทรงล้านนาซึ่งจะนำมาจัดเก็บไว้ในพื้นที่ดังกล่าว





ทั้งนายวัลลภได้กล่าวว่าโดมดังกล่าวมีลักษณะคล้ายยอดมงกุฎสีทอง ซึ่งเป็นไปตามความเชื่อที่ว่าวัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์เป็นผู้สร้าง ซึ่งปลายยอดโดมจะกระทำคล้ายดังพระราชลัญจกร ของพญากือนาธรรมิกราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายลำดับที่ 6 ผู้ที่ทรงสร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพแห่งนี้เมื่อกว่า 600 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการจัดเพื่อถวายพระเกียรติ์แด่พญากือนาผู้สร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพ ทั้งนี้ชั้นล่างของโดมจะจัดไว้เป็นห้องรับรอง และชั้นสองเป็นจุดชมวิวห้องกระจกติดตั้งกล้องส่องทางไกลไว้สำหรัษนักท่องเที่ยวจะได้เข้ามาสัมผัสมุมมองของเมืองเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด รวมถึงเป็นพื้นที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของวัดและเมืองเชียงใหม่ในรูปแบบภาษาต่างประเทศเพื่อรองรับ AEC ทั้งนี้ชั้นบนที่สูงขึ้นไปจะเป็นพื้นที่ปิดไม่ให้ผู้ใดเข้า ซึ่งจะเป็นพื้นที่เก็บของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่จะรักษาไว้
โดยนายวัลลภได้กล่าวอีกว่า สำหรับที่โลกออนไลน์เกรงกันว่าโดมอาคารดังกล่าวจะอยู่สูงเกินองค์พระบรมธาตุนั้นหากมองดูจากบางมุมอาจเห็นว่าโดมที่สร้างขึ้นนี้มีความสูงกว่าองค์พระบรมธาตุ แต่เราไม่ได่สร้างสูงบดบังพระธาตุเลย เป็นเพียงการมองจากมุมมองที่แตกต่างเท่านั้น  โดยองค์พระบรมธาตุนั้นสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเป็นยอดดอยที่สูงกว่า โดยยอดเจดีย์สูง15 เมตรแต่ก็สร้างในจุดที่สูงกว่า ขณะที่โดมใหม่นี้แม้จะสร้างมีความสูง 20.19 เมตร  แต่เราสร้างในจุดที่อยู่ต่ำกว่าองค์พระธาตุลงมา และในส่วนของฐานรากยังมีความสูงน้อยกว่าฐานของตัวพระธาตุองค์เดิมจึงไม่เป็นการบดบังทัศนียภาพของเดิมที่มีอยู่แน่นอน อีกทั้งพื้นที่เดิมของโดมดังกล่าว เดิมเคยเป็นพื้นที่อาคารหอสมุดและศูนย์พุทธศาสนานานาชาติที่ถูกทุบทิ้งและย้ายไปอยู่พื้นที่แห่งใหม่ ซึ่งอาคารหลังเดิมก็มีขนาดใกล้เคียงกับโดมที่สร้างใหม่ในขณะนี้
ซึ่งนายวัลลภ ก็ได้เป็นกังวลกับความไม่สบายใจของพุทธศาสนิกชนคเชียงใหม่ที่เป็นห่วงและรักวัดพระธาตุดอยสุเทพ ทางคณะกรรมการวัดก็จะปรับลดขนาดความสูงของยอดโดมลงมาเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

กมล เครือนิล สำนักข่าวเชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน