<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 01 เมษายน 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

15 ม.ค. 2562

ภาคีปฎิรูปการศึกษาระดมเงินสมทบกองทุน 10 บาทช่วยเหลือนักเรียนด้วยโอกาส



เชียงใหม่ ภาคีปฏิรูปการศึกษาระดมเงินสมทบกองทุน 10 บาทช่วยเหลือนักเรียนด้อยโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งสู่เชียงใหม่ 4.0

ภาคีเชียงใหม่เพื่อการปฏิรูปการศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ระดมเงินคนล่ะ 10 บาทนำไป สมทบกองทุน 10 บาทปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สู่เชียงใหม่ 4.0 เพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนนักเรียนนักศึกษาทั้งสายสามัญและสายอาชีพ ที่เรียนดีแต่ยากจน นอกจากนี้ยังเป็นทุนกาศึกษาระหว่างเรียนให้นักเรียนที่ต้องการทำงานระหว่างเรียน และสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีการระดมทุนกับผู้มีจิตศรัทธราขั้นต่ำคนล่ะ 10 บาท ตั้งแต่วันที่ 1-30 มกคราคม นี้

ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา จังหวัดเชียงใหม่ นายไพรัช ใหม่ชมพู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียใหม่ และนายศิรภพ เจริญกุศล ผู้บริหารวิทยาลัยฯ คณะครูอาจารย์ วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา ได้เป็นตัวแทนภาคีฯ ในการจัดกิจกรรมระดมเงินคนล่ะ 10 บาท ทั่วจังหวัดเชียใหม่ นำไป สมทบกองทุน 10 บาทปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อเป็นทุนทรัพย์ให้กับนักเรียนทั้งสายสามัญและสายอาชีพที่เรียนดีแต่ยากจน ใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพระหว่างเรียน ให้กับเด็กนักเรียนที่ต้องการหารายได้ระหว่างเรียน และให้การสนับสนุนด้านบุคลากร สื่อการเรียน อาคารเรียน อาคารประกอบการศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็ก ที่ขาดแคลนอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร ไม่สามารถจัดหางบประมาณจากหน่วงงานในสังกัดได้ นอกจากนี้การระดมทุนดังกล่าว จะใช้ในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อน การปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ให้มีประสิทธิภาพ โดยวันนี้ได้เริ่ม การระดมทุนอย่างเป็นทางการซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 2 โดยคณะผู้บริหาร อาจารย์ และนักศึกษาวิทยาลัยฯรวมกว่า 4 พันคนร่วมบริจาคเงินสมทบทุน 

ด้านนายไพรัช ใหม่ชมพู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียใหม่เปิดเผยว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมปรึกษาหารือถึงวิกฤตคุณภาพการศึกษาของเด็กและเยาวชน ในภาพรวมของประเทศและในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีมติการจัดตั้งภาคีเชียงใหม่เพื่อการปฏิรูปการศึกษา ประกอบด้วย 99 องค์กร 26 ผู้ทรงคุณวุฒิ และได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายของภาคี และจัดโครงการระดมเงินคนล่ะ 10 บาท ทั่วจังหวัดเชียใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1-30 มกคราคม นี้นำไป สมทบกองทุน 10 บาทปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยผู้ที่สนใจจะร่วมสมทบทุน สามารถบริจาคเพื่อระดมกองทุน ผ่านทางศูนย์บริจาคหน่วยงานสถานศึกษาของจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่งของจังหวัดเชียงใหม่ บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาท่าแพ ชื่อบัญชีกองทุนปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ เลขที่บัญชี 501-099988-9 ซึ่งหลังจากนี้ภาคีเพื่อการปฏิรูปการศึกษา จะได้ขอสนับสนุนจากคนเชียงใหม่ทุกคนๆ ล่ะ 10 บาทต่อปี เพื่อนำเงินที่ได้รับไปดำเนินการ การปฏิรูปการศึกษาให้บรรลุตามเป้าหมาย โดยปีที่ผ่านมามีผู้ที่ร่วมสมทบกองทุน 10 บาทปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ รวมทั้งหมด 126,360 ราย ได้เงินทั้งหมด 2,717,156.81 บาท สามารถนำไปช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เรียนดีแต่ยากจนรวมทั้งหมด 230 ราย ประกอบด้วยทุนประกอบอาชีพหลังจบการศึกษา ทุนการศึกษาระหว่างเรียน ทุนประกอบอาชีพระหว่างเรียน ทุนสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนและอาคารเรียน และทุนสนับสนุนวิจัยและพัฒนายกระดับการศึกษาของนักเรียนบนพื้นที่สูง

กมล เครือนิล ทีมข่าว ที่นี่....เชียงใหม่ Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน








14 ม.ค. 2562

รมว.แรงงาน เปิดศูนย์บริการวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน One Stop Service ที่เชียงใหม่



พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เป็นประธานเปิด ศูนย์บริการวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน ที่จังหวัดเชียงใหม่ แบบ One Stop Service อำนวยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล  Thailand 4.0

วันที่ 14 มกราคม 2562 เวลา 08.30 น.  ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เป็นประธานเปิดศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานจังหวัดเชียงใหม่ (One Stop Service : DIGITAL WORK PERMIT) สำหรับคนต่างด้าวที่ทำงานในสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อำนวยความสะดวกในการยื่นขออนุญาตทำงาน ลดขั้นตอน ลดเวลาการยื่นเอกสาร ลดเจ้าหน้าที่และโปร่งใส ตอบโจทย์ Thailand 4.0  โดยมี นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมเปิดศูนย์ฯ

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเปิดศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานจังหวัดเชียงใหม่ ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) โดยวางแผนประเทศระยะยาวภายใต้นโยบาย Thailand 4.0  ที่มุ่งเน้นปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ และยกระดับการให้บริการภาครัฐให้เกิดความเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ลดการใช้เอกสารซ้ำซ้อน นำไปสู่การเป็น Smart Thailand ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อให้บริการแบบที่เดียว ทันใด ทั่วไทย ทั่วโลก ทุกเวลา ซึ่งการที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กำหนดกระบวนการยื่นคำขออนุญาตทำงานและออกใบอนุญาตทำงานผ่านระบบ Single Window for Visa and Work Permit สำหรับคนต่างด้าวที่ทำงานในสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน นับเป็นการตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ได้เป็นอย่างดี กล่าวคือเป็นการอำนวยความสะดวกในการยื่นขออนุญาตทำงาน ลดขั้นตอน ลดเวลาการยื่นเอกสาร ลดเจ้าหน้าที่ ลดเอกสาร มีการพิจารณาที่เป็นมาตรฐานและโปร่งใส สำหรับใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวนั้น ก็จะไม่เป็นเล่มเอกสารหรือบัตรแข็งอีกต่อไป แต่จะเป็นใบอนุญาตทำงานแบบดิจิทัล (Digital Work Permit) บนโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน  ซึ่งสะดวกต่อการพกพา สามารถตรวจสอบได้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ยากต่อการปลอมแปลง และไม่มีการสูญหาย โดยมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ รองรับ BOI ปัจจุบันศูนย์บริการฯ เปิดให้บริการใน 3 แห่ง คือ 1. ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี กรุงเทพมหานคร  2. จังหวัดภูเก็ต  3. จังหวัดเชียงใหม่  โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ได้มีการเปิดใช้งานระบบ Single Window for Visa and Work Permit ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา

สำหรับศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานจังหวัดเชียงใหม่แห่งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันนี้เป็นวันแรก โดยได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้นในรูปแบบของ One Stop Service ให้บริการ ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ ถนนสนามบิน ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์ที่ให้บริการแก่คนต่างด้าวที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อย่างครบวงจร โดยมีหน่วยงานหลักให้บริการภายในศูนย์ฯ จำนวน 2 หน่วยงาน  ได้แก่ 1. สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ในการให้บริการเกี่ยวกับวีซ่า และ 2. สำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ ในการให้บริการออกใบอนุญาตทำงาน  การดำเนินงานภายในศูนย์ฯ คือ เมื่อคนต่างด้าวยื่นคำขออนุญาตทำงานผ่านระบบ Single Window แล้ว หน่วยงานที่ให้บริการจะพิจารณาอนุญาตในระบบ และแจ้งผลการพิจารณาทาง E-mail เมื่อคนต่างด้าวได้รับการอนุญาต จะต้องนัดหมายในระบบเพื่อมาแสดงตน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่เพื่อชำระค่าธรรมเนียม และถ่ายรูปลงลายมือชื่อดิจิตอล เพื่อจะได้ User Name และ Password มาลงทะเบียนใน Application ชื่อ “Thailand Digital Work Permit” ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งในระบบ IOS และ Android เมื่อคนต่างด้าวลงทะเบียนแล้ว จะปรากฏ Digital work permit บนโทรศัพท์มือถือของคนต่างด้าว จากนั้น คนต่างด้าวต้องมาแสดงตนเพื่อขอ VISA ต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่

รมว.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ จังหวัดเชียงใหม่มีคนต่างด้าวที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จำนวนทั้งสิ้น 555 คน เข้าสู่ระบบ Single Window แล้วจำนวน 419 คน เหลืออีก 136 คน เนื่องจากใบอนุญาตทำงานเดิมยังไม่หมดอายุ การจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ นับเป็นการปรับโครงสร้างการให้บริการภาครัฐ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ประหยัด และทันสมัย









13 ม.ค. 2562

รวมภาพบรรยากาศวันเด็กแห่งชาติ 2562 เชียงใหม่



รวมภาพบรรยากาศวันเด็กแห่งชาติ  เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2562  หลายภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรม วันเด็กแห่งชาติ 2562  ซึ่งเป็นไปด้วยความสุขความสนุกสนานทั้งบรรดาผู้ปกครองและเด็กๆที่เข้ามาร่วมงาน ส่วนสถานที่จัดงานของทางภาครัฐฯ มีหลายสถานที่เช่น สปข.3 - สวท.เชียงใหม่ - เทศบาลนครเชียงใหม่ - กองบิน 41 - ตำรวจภูธรภาค 5 - เทศบาลตำบลเชิงดอย - สวนสัตว์เชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี - พืชสวนโลก และอีกหลายหน่วยงาน ในด้านภาคเอกชนก็ได้มีการจัดกิจกรรมในหลายที่เช่น กาดสวนแก้ว - เซ็ลทรัลเฟสฯ - เมย่า - พรอมเมนาดา - รพ.ลานนา เป็นต้น



















ขอบคุณแหล่งที่มาของภาพ
กมล เครือนิล ทีมข่าวที่นี่เชียงใหม่ Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน

3 ม.ค. 2562

‭เผยคลิปวงจรปิดรถเซนติเมตร พิธีกรรายการ ล้นตู้ ตกคลองชลประทาน


เผยคลิปวงจรปิดรถเซนติเมตร พิธีกรรายการ ล้นตู้ ตกคลองชลประทาน
เหตุเกิดที่สะพานกลับรถสิบสองปันนา ถ.คันคลอง ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันที่ 2 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 21.28 น. รถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส และรถยนต์นั่งฮอนด้า ซีอาวี สีบรอนซ์ (ตกคันคลองชลประทาน) รถยนต์โตโยต้า สีดำ เลขทะเบียน สศ-9790 กทม. (ติดอยู่แท่นบาริเออร์) ผู้ขับขี่ น.ส.วิจิตรา ปุกบุญเรือง อายุ 25 ปี (ไม่ได้รับบาดเจ็บ) ส่วนรถยนต์นั่งฮอนด้า สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน (ตกคันคลอง) บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อผู้ขับขี่ นายจตุรภัทร เข็มนาค อายุ 28 ปี ที่อยู่ 119 หมู่ 5 ต.บ้านใหญ่ อ.เมือง จ.นครนายก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน ผู้โดยสารนายศุภกิจ เกิดช้ำ อายุ 30 ปี ไม่ทราบที่อยู่เสียชีวิต 1 รายที่ รพ.มหาราช หรือ โจ้ หรือเซนติเมตร พิธีกรรายการ ล้นตู้
เบื้องต้นพบสาเหตุของรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ เพื่อไปรับประทานอาหารกับเพื่อนที่ร้านสิบสองปันนาขันโตก ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งโตโยต้าสีดำ ให้การเบื้องต้นว่าตนเองติดสัญญานไฟแดงอยู่บริเวณที่เกิดเหตุช่องทางเลนกลางมุ่งหน้าไปทางเทศบาลสุเทพฯ เมื่อมีสัญญานไฟสีเขียวตนเองได้ขับรถออกจากไฟแดงดังกล่าว ทันใดนั้นได้มีรถยนต์นั่งสีบรอนซ์ไม่ทราบชนิดขับแซงมาทางด้านซ้าย และพยายามเลี้ยวขวาเพื่อกลับร ถผ่านหน้ารถของตนเองไปอย่างกระชั้นชิด เนื่องจากจะเดินทางไปพบปะรับประทานอาหารกับเพื่อนๆ ที่ร้านสิบสองปันนาขันโตก เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว 1 ราย และเสียชีวิตทึ่ รพ.มหาราช 1 ราย