<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

เปิดตัวหนังสือ “นครเชียงตุง” หนังสือล้ำค่าทางประวัติศาสตร์โดยอ.ไพศาล จั่วทอง


หนังสือ “นครเชียงตุง” ของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประพันธ์โดยอาจารย์ไพศาล จั่วทอง อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นการบันทึกเรื่องราวที่มีคุณค่ายิ่ง ผ่านถ้อยคำที่เรียงร้อยจากการเข้าพบเจ้านางสุคันธา ราชธิดาเจ้าฟ้าหลวงนครเชียงตุง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ ซึ่งขณะนั้นเจ้านางสุคันธา มีอายุ ๘๕ ปี ทุกเรื่องราวและภาพประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของนครเชียงตุงได้เก็บรักษาไว้ในหนังสือเล่มนี้

เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และนายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานในงานเปิดตัวหนังสือ “นครเชียงตุง” ของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ งานประพันธ์ของอาจารย์ไพศาล จั่วทอง โดยได้รับเกิยรติจากท่านผู้หญิงอิศรา บุรณศิริ ท่านผู้หญิงพึงใจ สินธวานนท์ ท่านพิษณุ สุวรรณชต เอกอัคราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง และภริยา ตลอดถึงข้าราชการ คณาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาร่วมในการเปิดตัวหนังสือเล่มนี้
งานเขียน นครเชียงตุง ของอาจารย์ไพศาล เป็นการเรียบเรียงเรื่องราวพร้อมภาพถ่ายในสมัยที่เชียงตุงยังมีผู้ปกครองเป็นเจ้าพ่อหลวง และอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ ประมาณร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยถ่ายทอดจากคำบอกเล่าอันเป็นประสบการณ์จริงของผู้ ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ลักษณะการปกครอง ขนบธรรมเนียม วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างเผ่าไทต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง และมีส่วนเชื่อมโยงกับดินแดนไทยเราในสมัยนั้นด้วย
อนึ่ง รายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายการจัดทำหนังสือเล่มนี้ จะนำสมทบทุนมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ 

ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน








“ศึกทุ่งยั้งทัพ ศึกนี้เพื่อแม่” จัดยิ่งใหญ่พบน้องปุยฝ้าย ช.เหล็กสยาม ดาวคณะฯสาวสวยขึ้นชกแน่นอน


“ศึกนี้เพื่อแม่” จัดยิ่งใหญ่พบน้องปุยฝ้าย ช.เหล็กสยาม ดาวคณะฯสาวสวยขึ้นชกแน่นอน

นายวิสวัส วุฒิพิริยะอังกูร ผู้จัดการ บริษัท เอ็ม-เฮาส์ เมทัลชีท แอนด์ รูฟฟิ่ง จำกัด เจ้าของแบรนด์หลังคาเหล็ก “เหล็กสยาม” ผู้ร่วมสนับสนุนหลักเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในการจัดการแข่งขันชกมวยรายการ “ศึกทุ่งยั้งทัพ ศึกนี้เพื่อแม่” เพื่อเป็นการหารายได้สมทบทุนในการปรับปรุงสนามมวยเดชานุเคราะห์ ค่ายกาวิละ และเป็นการสนับสนุนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่หันมาอนุรักษ์การชกมวยไทย อันเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง และส่งเสริมให้เยาวชนหันมาเล่นกีฬาเพื่อออกกำลังกายและห่างไกลยาเสพติด
สำหรับไฮไลท์ที่เป็นที่ฮือฮาอยู่ในขณะนี้ ได้แก่การชกคู่ประกอบรายการระหว่าง ปุยฝ้าย ช.เหล็กสยาม พบกับ เพชรงามตา เพชรน้ำผึ้ง โดยความสนใจพุ่งไปที่ น้องปุยฝ้าย ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงดาวคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และเป็นรองอันดับ 2 การประกวดดาวมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ รวมถึงเป็นนางแบบ พริตตี้แนวหน้าของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์เหล็กสยามอีกด้วย โดยมีชื่อจริงว่า นางสาวฐิติรัตน์ บุตรพรม ชื่อเล่น น้องปุยฝ้าย อายุ 19 ปี สัดส่วน 39-25-35 สูง 168 เซนติเมตร ปัจจุบันศึกษาอยู่ระดับชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ทั้งนี้ขอเชิญชวนแฟนมวยและผู้ที่ชื่อชอบกีฬามวย เข้าไปให้กำลังใจในการชกมวยของ ปุยฝ้าย ช.เหล็กสยาม ในการชก “ศึกทุ่งยั้งทัพ ศึกนี้เพื่อแม่” ในวันที่ 9 สิงหาคม 2558 ณ สนามมวยเดชานุเคราะห์ ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่

สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน








โจรแสบบุกงัดตู้บริจาควัดพระธาตุดอยคำวัดดังเชียงใหม่


เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ก.ค. 58 พ.ต.ท.สุวิทย์ ปัญโญ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่าที่บริเวณวัดพระธาตุดอยคำ ต. แม่เหียะ อ. เมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีคนร้ายก่อเหตุงัดตู้บริจาค บริเวณศาลเจ้าแม่จามเทวี ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าวัด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่าได้มีร่องรอยการถูกงัดบริเวณช่องหยอดเงินบริจาค จึงได้ทำการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถามนายนพพร คำฟู อายุ 33 ปี ที่อยู่ 55/1 ม.13 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ดูแลวัด เปิดเผยว่า ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตนได้ทำการปิดวัดอย่างดีเรียบร้อย ซึ่งก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ผิดปกติแต่อย่างใด จนกระทั่งในช่วงเช้า เวลาประมาณ 06.00 น. ตนได้ขึ้นมายังวัดเพื่อจะทำความสะอาดตามปกติ แต่ก็สังเกตเห็นว่าที่บริเวณตู้บริจาค ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณศาลเจ้าแม่จามเทวี ได้ถูกงัดเอาเงินไป ตนจึงได้ไปตรวจสอบยังกล้องวงจรปิดก็พบว่าเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้มีคนร้าย เป็นชาย 3 คน ได้ลักลอบขึ้นมายังวัด ซึ่งคนร้ายทั้งหมดได้ใช้เสื้อคลุมหน้า เพื่อปกปิดไม่ให้กล้องจับหน้าได้ และได้เดินสำรวจโดยรอบวัด ก่อนที่จะก่อเหตุงัดตู้บริจาคที่ตั้งอยู่บริเวณศาลเจ้าแม่จามเทวี ก่อนจะนำเงินซึ่งมีประมาณ 1 หมื่นกว่าบาทใส่ถุงหลบหนีไปในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายน่าจะเดินทางเข้ามาตอนกลางคืนขณะฝนตกหนัก ก่อนที่จะสำรวจหาตู้บริจาคซึ่งอยู่ภายนอกวัดแล้วใช้วัสดุแข็งงัดช่องหยอดเงินของตู้บริจาค ก่อนจะใช้มือล้วงเพื่อเอาเงินที่อยู่ด้านใน ก่อนจะหลบหนีไป อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้นำหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ไปตรวจสอบเพื่อทำการสืบหาตัวคนร้ายรายนี้ต่อไป
ทีมข่าว ที่นี่....เชียงใหม่ สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน






ประชุม ครม.สัญจร 30 มิย.58


บรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ คึกคักแต่เช้า ขณะที่ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มเต็มพิกัด

บรรยากาศที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งที่ 2 พบว่าบรรดาข้าราชการและบุคลากรที่มีหน้าที่ได้เดินทางมาตั้งแต่เช้า เช่นเดียวกับสื่อมวลชนจากสำนักต่าง ๆ ต่างทยอยเดินทางมาตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมถ่ายทอดสด การรายงานข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรตำรวจและทหารได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณศูนย์ประชุมและได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมไว้ที่ประตู 6 เพื่อให้ประชาชนหรือกลุ่มมวลชนที่ต้องการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ มีการตรวจอาวุธทุกคนที่เข้าบริเวณศูนย์ประชุมฯ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ในครั้งนี้กว่าสองพันคน
พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า การประชุมดังกล่าวเพื่อเข้าถึงประชาชนทุกภาค และจะเดินทางไปรับทราบปัญหาที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนประชาชน สิ่งที่เป็นห่วงคือปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ทั้งระบบ การดูแลปัญหาแหล่งน้ำใต้ดิน เมื่อฝนไม่ตก ก็ต้องดูแหล่งต้นน้ำ ขณะที่ลุ่มเจ้าพระยาปลูกพืชสองรอบ ต้องรณรงค์ให้ปลูกพืชทนแล้งหรือพืชใช้น้ำน้อย ต้องจัดสรรให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ขณะที่พื้นที่เขตชลประทาน 137 ล้านไร่ มีพื้นที่เขตชลประทาน 30 ล้านไร่ หรือใช้น้ำได้ร้อยละ 40 นอกจากนั้นให้ทำระบบโซนนิ่ง พื้นที่ปลูกพืชใช้น้ำน้อย สรุปเป็นโครงการเชื่อมโยงกับชุมชน เชื่อมโยงกับการวิจัยทางวิชาการ ขณะเดียวกันฝากไปยังประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัด หาก พืช ผัก ผลไม้ไม่ได้น้ำจะแย่ เนื่องจากรายได้ร้อยละ 70 มาจากผลิตผลทางการเกษตร
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ สิ่งที่สนับสนุนได้ทันทีคือการท่องเที่ยว ซึ่งหากไม่มีความขัดแย้งในพื้นที่ นักท่องเที่ยวก็นิยมเดินทางเข้ามา สร้างเศรษฐกิจสู่พื้นที่ ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุน ให้ประชาชนทราบว่าจะได้ประโยชน์อะไร และต้องปรับตัวอย่างไร โดยเฉพาะกว่า 40 โครงการที่นำเสนอนั้น จะต้องเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณา ก่อนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตามลำดับ

 ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน