รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ แม่แตง - แม่งัด พร้อมเร่งรัดให้ทุกฝ่าย ดำเนินงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาภายในปี 2564 ซึ่งการก่อสร้างถึงปัจจุบันล่าช้ากว่าแผนมาก
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00 น. นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะประกอบด้วย นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลางรวมทั้งสื่อมวลชนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาที่สำนักงานควบคุมการก่อสร้างโครงการอุโมงค์ส่งน้ำ แม่แตง - แม่งัด อ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปความเป็นมาและรายละเอียดของโครงการดังกล่าว โดยใช้เวลาในการรับฟังข้อมูลพร้อมให้คำแนะนำกับผู้บริหารโครงการเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง
ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังหัวงานก่อสร้าง บริเวณอุโมงค์ส่งน้ำ เข้า -ออก หมายเลข 2 ซึ่งตั้งอยู่ บ้านทับเดื่อ ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดูภาพโดยรวมของการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งในขณะนี้มีความคืบหน้าของการก่อสร้างทั้งหมดคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 24 ซึ่งผลงานโดยรวมควรได้ร้อยละ 53 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเป็นอย่างมากถึงร้อยละ 30
สำหรับอุโมงค์ส่งน้ำ เข้า-ออก หมายเลข 2 นี้ เป็นการขุดเจาะอุโมงค์ส่งน้ำช่วง ลำน้ำแม่แตง (ประตูระบายน้ำแม่ตะมาน) - เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เมตร ระยะทาง 25.624 กิโลเมตร พร้อมอาคารประกอบ ซึ่งในขณะนี้สามารถขุดเจาะไปได้ระยะทาง 1,264 เมตร คิดเป็นความก้าวหน้า ร้อยละ 14 หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถผันน้ำส่วนเกินจากลำน้ำแม่แตง ประมาณ 113 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน ไปยังเขียนแม่งัดสมบูรณ์ชล ก่อนจะส่งต่อไปยังอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธาราต่อไป
หลังจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะรวมทั้งผู้สื่อข่าวได้เดินเข้าไปตรวจความคืบหน้าการทำงานภายในบริเวณอุโมงค์ส่งน้ำได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวบางช่วงบางตอน ว่า " วันนี้ผมพร้อมด้วยปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์ อธิบดีกรมชลประทานและทีมงาน มาตรวจดูโครงการผันน้ำจากแม่น้ำแตง เอาไปลงที่เขียนแม่งัดสมบูรณ์ชลกับเขื่อนแม่กวงอุดมธารา งวดงานในขณะนี้ยังช้าอยู่ ทั้งนี้ได้เรียนกับอธิบดีกรมชลประทานกับผู้บริหารว่า นอกจากจะมีช่างผู้ควบคุมงานแล้วให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีกหนึ่งชุดเพื่อที่จะมาติดตามและคอยประเมินว่าถึงวันนี้แล้วคือเดือนกรกฎาคม 2561 แล้ว จากนี้ไปจนถึงปี 2564 มีอะไรบ้างที่จะไม่ทันตามระยะเวลาการจ้างงาน ในกรณีที่เป็นเรื่องของการบริหาร ที่ต้องอาศัยการประสานงานกับหน่วยข้างเคียงในพื้นที่ก็จะได้ดำเนินการเลย หรือถ้าเป็นปัญหาทางการบริหารที่ต้องอาศัยการประสานงานข้ามกระทรวงในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็จะได้ช่วยเหลือดูแลเค้า ขณะเดียวกันก็จะเป็นการกระตุ้นเตือนผู้รับจ้างทั้งสองบริษัทให้ใช้ความพยายามอย่างมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในการผลักดันโครงการนี้สำเร็จตามเป้าหมายในปี 2564 "
"ซึ่งถ้าหากโครงการอุโมงค์ผันน้ำแห่งนี้สำเร็จ จะถือเป็นอุโมงค์ผันน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่รัฐก่อสร้างลอดทั้งใต้ดิน ใต้น้ำ ใต้ภูเขาและผืนป่า โดยมีการศึกษาออกมาแล้วว่าไม่มีผลกระทบ และจะได้เป็นตัวอย่างของโครงการของภาครัฐที่เป็นโครงการขนาดใหญ่แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้หากโครงการฯสามารถดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถ
แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำของจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนได้ เพราะในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งในการแย่งชิงน้ำของชาวบ้านใน 2 จังหวัด" ท่าน รมว. กล่าวกับผู้สื่อข่าวในตอนท้าย
กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น