ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำให้ทุกพื้นที่ ฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ลดปัญหาฝุ่นละอองตามแผนที่กำหนด แต่พื้นที่ใกล้เครื่องวัดคุณภาพอากาศ ให้ฉีดพ่นได้ในระยะที่ คพ. ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบ ระบุเชียงใหม่ให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก ชูเวียงแหงโมเดล จับมือเผาเข้าค่ายปรับทัศนคติ นำตัวไปช่วยดับไฟป่าอย่างน้อย 7 วัน
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ที่ห้องศูนย์ประชุมวอร์รูมไฟป่า ชั้น 1 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และได้มีการเชื่อมสัญญาณระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ กับนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ เพื่อติดตามสถานการณ์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากได้สั่งการให้ทุกอำเภอสำรวจจุดเสี่ยงที่คาดว่าจะมีการเผา โดยในเขตป่าสงวน และพื้นที่ชุมชน ริมทางหลวง ซึ่งพบสถิติการเผาไหม้เพิ่มขึ้น
นายปวิณ กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้นมาก มีเพียงวันเดียวที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน ในวันที่ 24 มีนาคม 2560 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 153 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และลดลงเหลือ 119 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ในวันถัดมา มีสถิติจุดความร้อนที่เกิดขึ้น 524 จุด นับตั้งแต่ประกาศห้ามเผา วันที่ 20 กุมภาพันธ์- 26 มีนาคม 60 ใกล้เคียงกับปี 2559 ในช่วงเวลาเดียวกัน อยู่ที่ 510 จุด มากกว่าปีที่แล้วเพียง 14 จุด โดยเชียงใหม่ตั้งเป้าที่จะลดจุด Hotspot ลงร้อยละ 20 ของปีที่แล้ว คือ ไม่เกิน 797 จุด
“ทุกมาตรการที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการ ก็เพื่อดูแลรักษาสุขภาพของคนเชียงใหม่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ การฉีดพ่นละอองน้ำ ลดหมอกควันได้กำชับให้ทุกท้องถิ่น ทุกอำเภอดำเนินการตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง แต่ในพื้นที่ที่มีเครื่องวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษให้พิจารณาไม่ฉีดพ่นในระยะที่ใกล้เกิน 20 เมตร ตามระยะที่กรมควบคุมมลพิษ ยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อเครื่องวัด”
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า พื้นที่ที่ยังเป็นห่วง และเน้นย้ำให้ชัดชุดลาดตระเวนต่อเนื่อง คือ พื้นที่ริมถนนหลวง พื้นที่ป่าที่ยังไม่มีการเผาไหม้ที่เกิดการสะสมของเชื้อเพลิง ที่อำเภอเชียงดาว, ไชยปราการ, พร้าว, แม่แตง, แม่วาง, วันป่าตอง, หางดง, สันทราย, สันกำแพง และแม่ออน แม้จะไม่พบการเผาไหม้ในปริมาณมาก แต่หากเกิดขึ้นควันไฟจะถูกพัดเข้าในเขตเมือง จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ศูนย์วอร์รูมไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ เป็นห่วงว่า ที่ผ่านมา 35 วันของการเฝ้าระวัง ชุดปฏิบัติการในพื้นที่ทำงานอย่างหนัก ในการลาดตระเวนและเฝ้าระวัง และเข้าดับไฟป่าเมื่อได้รับแจ้ง อะไรที่จังหวัดจะให้การสนับสนุนได้ก็จะดำเนินการเต็มที่ เพราะเวลาที่เหลืออีก 25 วัน ถือเป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเข้มข้น
“ในการซุ่มจับกุม ผู้ลักลอบเผา ให้ทุกอำเภอ ยึดอำเภอเวียงแหงตัวอย่าง เมื่อจับกุมคนเผา ดำเนินคดีแล้ว ให้ประสานหน่วยทหารในพื้นที่ หรือชุดบรรเทาสาธารณภัย 12 ชุด ที่ประจำใน 11 อำเภอ นำตัวคนเผาป่าไปปรับทัศนคติ และพาเข้าไปดับไฟป่าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้รู้ถึงความลำบากในการเข้าดับไฟ”
กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น