ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังจากโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศเกี่ยวกับพื้นที่การก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 รวมทั้งหมูบ้านบริเวณเชิงเขาใกล้กับห่วยตึงเฒ่า และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวางว่ามีการสร้างรุกล้ำเขตอุทยาน เนื่องจากภาพถ่ายมีการแสดงให้เห็นว่าโดยรอบมีพื้นที่ป่าโอบล้อมอย่างเห็นได้ชัดเจน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 มิ.ย.59 นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ออกมาทำการชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างดังกล่าวกับทางผู้สื่อข่าวว่า จากการที่ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบริเวณเชิงเขาตามที่ได้มีการเผยแพร่กันไปเป็นวงกว้างในโลกโซเชียลขณะนี้นั้น ขอชี้แจงว่า ภาพถ่ายที่ได้มีการเผยแพร่ไปนั้นเป็นพื้นที่บริเวณงานก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่พักของข้าราชการตุลาการ ข้าราชการศาลยุติธรรมในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ศาลแรงงานภาค 5 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลแขวงเชียงใหม่ และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท พี.เอ็น.เอส.ไซน์ (P.N.S.sing Co.Ltd) โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างพื้นที่ทั้งหมด 900 ล้านบาท
สืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ย้ายที่ทำการจากกรุงเทพมหานครมาที่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2548 นั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ขอใช้พื้นที่อาคารเพื่อเป็นที่ทำการร่วมกับศาลแขวงเชียงใหม่และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่สี่แยกศาลเด็กถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง แต่ศาลทั้งสองศาลมีปริมาณคดีและมีประชาชนผู้มาติดต่อราชการเป็นจำนวนมาก ทำให้สถานที่คับแคบประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร ประกอบกับศาลยุติธรรมในจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีบ้านพักข้าราชการตุลาการและข้าราชการศาลยุติธรรมที่เพียงพอ
ดังนั้น ทางสำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้ขอใช้ที่ราชพัสดุ ที่อยู่ในความปกครองดูแลของมณฑลทหารบกที่ 33 แปลงหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเลขที่ 394 / 2500 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ทะเบียนราชพัสดุเลขที่ ชม.1723 (บางส่วน) เนื้อที่ 147 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา ตั้งแต่ปี 2549 เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บ้านพัก 47 หลัง และอาคารชุด 13 อาคาร แต่เพิ่งได้รับงบประมานในการดำเนินการก่อสร้างปี 2556 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2557 โดยพยายามดำเนินการก่อสร้างให้มีผลกระทบต่อสภาพ พื้นที่เดิมให้น้อยที่สุดซึ่งพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต มีลักษณะเป็นแนวยาวจากถนนเลียบคลองชลประทาน เข้าไปในพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ กับโครงการหมู่บ้านสวัสดิการทหารบก โดยได้เว้นพื้นที่ 58 ไร่ จากจุดสูงสุดของพื้นที่ที่ ได้รับอนุญาตโดยไม่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ เพื่อคงสภาพพื้นที่ที่มีต้นไม้อยู่เดิมให้มากที่สุด ทั้งนี้เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 5 ย้ายไปทำการที่อาคารดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการที่ศาลแขวงเชียงใหม่และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความสะดวกเพิ่มมากขึ้นอีกทั้งเป็นการลดงบประมาณในการเบิกค่าเช่าบ้านของทางราชการ อีกด้วย ทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนรับทราบ
ต่อข้อซักถามของสื่อมวลชนถึงกรณีที่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่หากยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุดหรือก่อให้เกิดความเสียหายอีก ว่า เมื่อมีการชี้แจงมาถึงขนาดนี้แล้วหากยังไม่เข้าใจและยังวิพากษ์วิจารณ์อีกก็ต้องดูข้อความวิจารณ์อีกที แต่ไม่ได้ประสงค์ว่าจะเอาผิดตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารหรือละเมิดศาล แต่หากมีการพาดพิงหรือบิดเบือนก็ต้องพิจารณาตามเหตุการณ์ แต่ทางศาลไม่ได้ต้องการทำแบบนั้น
ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น