<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 01 เมษายน 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

ในหลวงของเรา


ในหลวง แนะทุกฝ่ายช่วยปัดเป่าแก้น้ำท่วมปชช. บริหารน้ำอย่างยั่งยืน อย่าแตกแยกทำงานให้กำลังใจกัน



ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรถไฟฟ้า ลงจากอาคารที่ชั้น 8 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อทรงออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ตลอดเส้นทางเสด็จฯ เต็มไปด้วย พสกนิกร ซึ่งสวมเสื้อสีชมพู มารอเฝ้าฯ รับ พร้อมโบกธงสะบัดไปมา บางรายชูพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ ไว้เหนือหัว เมื่อรถยนต์พระที่นั่งผ่าน ต่างก็เปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" เพื่อถวายพระพรอย่างกึกก้อง  หลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ด้วยความตื้นตันดีใจที่ได้ชื่นชมพระบารมี
ต่อมา เมื่อเวลา 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินถึงประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ พระบรมมหาราชวัง ผู้บังคับกองทหารเกียรติยศ บอกถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจยิงปืนใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็ด พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียน แล้ว กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาล ฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้ว กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล
จนเมื่อเวลา 11.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบ โดยมีใจความดังนี้ “ขอขอบพระทัย และขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิตพร้อมกันมาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาต่างๆ ข้าพเจ้าขอสนองพรและไมตรีจิตด้วยใจจริง ท่านทั้งหลายในที่นี้ ผู้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญ รวมทั้งพลเรือนและทหารย่อมทราบแก่ใจอยู่ว่า
 ความมั่นคงของประเทศชาติ จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยประชาชนในชาติอยู่ดีมีสุข ไม่มีทุกข์ยากเข็ญเพราะฉะนั้นการใดที่เป็นทุกข์ของประชาชน ทุกฝ่ายต้องรวมกันแก้ไข  จึงถือเป็นหน้าที่ที่ต้องร่วมมือกันปฏิบัติแก้ไขให้เต็มกำลัง  โดยขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม จึงชอบที่จะร่วมมือกัน ปัดเป่าแก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว ร่วมกันบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่นโครงการที่เคยพูดไปนั้น เป็นการแนะนำไม่ใช่สั่งการแต่ถ้าเป็นการปรึกษาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ของชาติแล้วทำได้ก็ทำ 
ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้งกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่เป็นประโยชน์เพื่อความผาสุขของประชาชน และความมั่นคงของประเทศชาติ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองและรักษาให้ปราศจากจากทุกข์และอำนวยความเจริญให้พสกนิกรโดยทั่วกัน”
ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราช ดำเนินกลับ
....................................................................................................................................................................

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงปลูกต้นศรีตรัง ที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก














พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงปลูกต้นศรีตรัง ที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก

วันที่ 6 ส.ค.54 เวลา 17.58 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปยังบริเวณสนามหญ้าด้านซ้ายและด้านขวาของลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อทรงปลูกต้น “ศรีตรัง” พร้อมพรวนดินรดน้ำต้นศรีตรัง ให้เป็นสิริมงคลแก่โรงพยาบาลศิริราช จำนวน 2 ต้น

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีสีพระพักตร์สดใส ทรงฉลองพระองค์ด้วยแจ๊กเก็ตสีขาว มีตราสัญลักษณ์ 84 พรรษาด้านซ้ายของเสื้อทับฉลองพระองค์ด้วยเสื้อเชิ้ตลายสีขาวดำ ทรงสวมพระสนับเพลาสีดำฉลองพระบาทสีดำพระหัตถ์ทรงจูงคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงเสด็จฯ ประทับรถเข็นพระที่นั่ง

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีนีน หัวหน้าสำนักงานศูนย์โรคหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นผู้ถวายการเข็นรถพระที่นั่งเสด็จฯ พร้อมด้วย ศ.คลีนิ นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ตลอดเส้นทางเสด็จฯ ได้มีประชาชนมาเฝ้าทูลละอองธุรีพระบาทอย่างเนืองแน่น พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ดังกึกก้องพร้อมโบกสะบับธงตรา ภปร.และธงชาติด้วยความจงรักภักดี โดยพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์พร้อมแย้มพระสรวลให้กับประชาชนที่เฝ้ารอรับเสด็จฯ สร้างความปลื้มปิติที่ได้ชื่นชมพระบารมี

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ณ ลานพระราชานุสาวรีย์ หน้าศาลาศิริราช 100 ปี และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะ พระรูปหล่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ประดิษฐาน ณ ศาลาศิริราช 100 ปี แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ตึกสยามินทร์ จากนั้น เสด็จฯกลับยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ ในเวลา 18.18 น.

อนึ่ง ต้น "ศรีตรัง" เป็นต้นไม้ในวงศ์เดียวกับต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ จุดเด่นของพืชวงศ์นี้ คือ ดอกเป็นหลอดเหมือนปากแตร ศรีตรังอยู่ในสกุล จาคาแรนด้า (Jacaranda) มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า จาคาแรนด้า ฟิลิซิโฟเลีย (Jacaranda filicifolia) มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศบราซิล แถบอเมริกาใต้เป็นไม้ต้นผลัดใบ เรือนยอดโปร่ง สูง 4- 10 เมตร

ใบคล้ายๆ ต้นนนทรี เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยเล็ก ออกตรงกันข้าม ออกดอกปีละครั้ง เป็นช่อแบบกระจุก แยกแขนงตามกิ่งและซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 5-9 เซนติเมตร กลีบดอก 5 กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดสีม่วงอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ

ช่วงที่ออกดอกในเดือนมกราคม-มีนาคม มักจะทิ้งใบหมดต้น เป็นผลประมาณเดือน เมษายน-พฤษภาคม ผลเป็นฝักแบน เมื่อแก่จะแตกเป็น 2 ซีก เมล็ดมีปีก ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

พระยารัษฎานุประดิษฐ์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต นำเข้ามาปลูกที่จังหวัดตรังเป็นที่แรกเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน จึงได้ชื่อว่าศรีตรัง ในอดีต ศรีตรัง เคยเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยมหิดล และมีปลูกไว้ที่โรงพยาบาลศิริราชก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นต้นกันภัยในปัจจุบัน