ผู้การภาค1เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคดีเผาชุมชน 4 ภาคเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาอย่างเร่งด่วนด้านรองประธานกรรมการบริษัทเจ้าของพื้นที่ ยันยินดีเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 3 ก.ค. ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ. พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภจว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช พ.ต.อ..สืบพงษ์ ภาษยะวรรณ์ รอง ผบก.ภจว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง เข้าร่วมประชุมคลี่คลายคดี ชายชุดดำบุกเผาบ้านเรือน ในที่ดินกรณี ประมาณกว่า 200 คน กับกลุ่มชาวบ้านไทย 4 ภาค หรือกลุ่มสมัชชาคนจน ที่ปลูกบ้าน ปลูกเพิงอาศัยอยู่ภายในโรงงานไทยอเมริกัน เท็กซ์ไทล์ จำกัด และโรงงานไทยเมล่อน เท็กซ์ไทล์ จำกัด บนเนื้อที่ 616 ไร่ ริมถนนพหลโยธินฝั่งขาออก หมู่ 3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ซึ่งปัจจุบัน เป็นพื้นที่ดินในกรรมสิทธิ์และอยู่ระหว่างรอการขาย ของ บสท. บริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อรอการประมูลขาย
ขณะเดียวกัน บริเวณพื้นที่ ที่ดินภายในชุมชน ชาวบ้านไทย 4 ภาค หรือกลุ่มสมัชชาคนจน ที่ปลูกบ้าน ปลูกเพิงอาศัยอยู่ภายในโรงงานไทยอเมริกัน เท็กซ์ไทล์ จำกัด และโรงงานไทยเมล่อน เท็กซ์ไทล์ จำกัด ก็ได้มีกาล้อมรั้วสังกะสีตลอดแนวพื้นที่ พร้อมขึ้นป้ายข้อความว่า ห้ามเข้าใช้พื้นที่เด็ดขาด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองพิสูจน์หลักฐานภูธร จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจหาวัตถุพยานซึ่งจากการตรวจสอบพบขวดบรรจุน้ำมัน เศษปิงปองที่ใช้ทำระเบิดปิงปอง จำนวนหนึ่ง โดย นายสุธี พงษ์เพียรชอบ รองประธานกรรมการ บริษัทธรรมนัสการ์ด จำกัด กล่าวว่า วันเดียวกัน ได้พาผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีที่ถูกหลอกให้บุกรุกเข้าไปปลูกบ้านพักในที่ดินส่วนบุคคล เข้าแจ้งความร้องทุกกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ส่วนคนเจ็บที่ถูก ยิงในวันเกิดเหตุ ได้สอบถามแล้วเป็นจยย.รับจ้างที่โดนลูกหลง ซึ่งทางบริษัทฯยินดีให้ความช่วยเหลือ
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการนำข้อมูลที่ได้จาการสอบสวนและที่เกิดเหตุมาพิจารณาซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุแล้วไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายที่เผยแพร่ทางสื่อต่างๆและข้อมูลจากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่อยู่ในเหตุการณ์ตนได้สั่งการให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลอนุมัติออกหมายจับโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน บริเวณพื้นที่ ที่ดินภายในชุมชน ชาวบ้านไทย 4 ภาค หรือกลุ่มสมัชชาคนจน ที่ปลูกบ้าน ปลูกเพิงอาศัยอยู่ภายในโรงงานไทยอเมริกัน เท็กซ์ไทล์ จำกัด และโรงงานไทยเมล่อน เท็กซ์ไทล์ จำกัด ก็ได้มีกาล้อมรั้วสังกะสีตลอดแนวพื้นที่ พร้อมขึ้นป้ายข้อความว่า ห้ามเข้าใช้พื้นที่เด็ดขาด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองพิสูจน์หลักฐานภูธร จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจหาวัตถุพยานซึ่งจากการตรวจสอบพบขวดบรรจุน้ำมัน เศษปิงปองที่ใช้ทำระเบิดปิงปอง จำนวนหนึ่ง โดย นายสุธี พงษ์เพียรชอบ รองประธานกรรมการ บริษัทธรรมนัสการ์ด จำกัด กล่าวว่า วันเดียวกัน ได้พาผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีที่ถูกหลอกให้บุกรุกเข้าไปปลูกบ้านพักในที่ดินส่วนบุคคล เข้าแจ้งความร้องทุกกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ส่วนคนเจ็บที่ถูก ยิงในวันเกิดเหตุ ได้สอบถามแล้วเป็นจยย.รับจ้างที่โดนลูกหลง ซึ่งทางบริษัทฯยินดีให้ความช่วยเหลือ
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการนำข้อมูลที่ได้จาการสอบสวนและที่เกิดเหตุมาพิจารณาซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุแล้วไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายที่เผยแพร่ทางสื่อต่างๆและข้อมูลจากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่อยู่ในเหตุการณ์ตนได้สั่งการให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลอนุมัติออกหมายจับโดยเร็ว
ล่าสุด พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และให้รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ทำหน้าที่รักษาราชการแทน จากกรณีปล่อยปละละเลยให้กลุ่มชายชุดดำกว่า 200 คน เผาทำลายบ้านพักกลุ่มชาวไทย 4 ภาค หรือกลุ่มสมัชชาคนจน ย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา จนเหตุการณ์บานปลาย ส่วนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พิจารณาข้อบกพร่องต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรคลองหลวง ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อายุ 46 ปี เจ้าของบริษัทธรรมนัส การ์ด ในความผิดฐาน ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดด้วยการจ้างวานให้วางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือนที่อยู่อาศัยผู้อื่น และชายไทยไม่ทราบชื่อนามสกุล อายุประมาณ 48 ปีปรากฏตามภาพประกอบหมายเลข 1 ต้องข้อหากระทำความผิด ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังสั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่ ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินในลักษณะเดียวกัน หากพบให้ติดต่อประสานเจ้าของที่ดิน ให้ดำเนินการกับผู้บุกรุก หรือกลุ่มบุคคลที่หลอกให้ชาวบ้านเข้าไปถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้อื่น เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ป้องกันปัญหาลุกลาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น