อายุหลายร้อยปีจมใต้ลำห้วยสำราญ ชาวบ้านรวมพลังลากขึ้นมา สร้างอาคารถาวรมุงกระเบื้อง วัดยันเป็นความเชื่อห้ามยาก
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (30 ก.ค.)ผู้สื่อข่าว“เดลินิวส์” จ.ศรีสะเกษ รับแจ้งจากนายวันชัย ประจวบ ผญบ.หมู่ 7 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน ว่ามีชาวบ้านพบซากต้นตะเคียนยักษ์โบราณ อายุหลายร้อยปี จมอยู่ใต้ลำน้ำห้วยสำราญ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านพากันชักลากซากต้นตะเคียนขึ้นจากน้ำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านโนนสำราญ พร้อมกับสร้างอาคารถาวรมุงกระเบื้องให้ และนำธูปเทียนแพร กรวยดอกไม้สักการะ ผ้าแพร 7 สีมาผูกบูชา โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมากราบไหว้อย่างเนืองแน่น จนพื้นที่ในวัดแทบไม่มีที่จอดรถ ส่วนใหญ่จะนำแป้งมาโรยที่ลำต้นตะเคียน และลูบหาตัวเลขจนไม้คะเคียนขาวโพลน
นายถนอม สมาน อายุ 47 ปี ผู้พบซากต้นคะเคียนโบราณ กล่าวว่า ขณะที่ตนงมหอยอยู่ในลำห้วยสำราญ ห่างจากหมู่บ้าน 1 กม. เท้าก็ไปสะดุดกับกิ่งไม้ใต้น้ำ จึงดำลงไปคลำดูพบว่าเป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่ ที่โผล่ออกมาจากพื้นดิน ด้วยความสงสัยจึงชวนเพื่อนบ้านกว่า 10 คน ไปดำน้ำสำรวจดูอย่างละเอียด และเกณฑ์ชาวบ้านนำรอกมาชักดึงขึ้นมาบนฝั่ง จึงทราบว่าเป็นต้นตะเคียนยักษ์โบราณ ยาว 10 เมตร มีอายุหลายร้อยปี เลยลงมติว่าควรนำไปถวายวัด และช่วยกันลากไปเก็บรักษาไว้ที่ใต้ต้นไทร ภายในวัดบ้านโนนสำราญ พร้อมกับสร้างอาคารกันแดดกันฝนให้ เมื่อชาวบ้านใกล้เคียงทราบข่าว จึงแห่กันมากราบไหว้ขอหวยกันเป็นจำนวนมาก
ด้านพระอธิการทอง สุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนสำราญ กล่าวว่า ซากต้นตะเคียนยักษ์โบราณดังกล่าว ชาวบ้านได้นำมาถวายวัด พร้อมกับบริจาคเงินสร้างอาคารเก็บรักษาให้ อาตมาไม่อยากขัดศรัทธาญาติโยม ซึงก็ไม่ขัดข้องท้วงติงในการกราบไหว้ขอหวย แล้วแต่ความเชื่อของชาวบ้าน หากจะนำแป้งมาทาลูบหาเลขเด็ดก็เป็นไร แต่หากมากไปกว่านั้น ถึงขั้นเอามีดหรือของแข็งไปขูดเพื่อดูตัวเลข ก็ไม่สมควรกระทำ เพราะถือว่าเป็นการทำลายต้นตะเคียนโบราณ ส่วนการบริหารจัดการต่างๆ ก็เป็นเรื่องของฆราวาส ทางสงฆ์และกรรมการวัดไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงไม่มีการตั้งตู้รับบริจาคแต่อย่างใด.
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (30 ก.ค.)ผู้สื่อข่าว“เดลินิวส์” จ.ศรีสะเกษ รับแจ้งจากนายวันชัย ประจวบ ผญบ.หมู่ 7 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน ว่ามีชาวบ้านพบซากต้นตะเคียนยักษ์โบราณ อายุหลายร้อยปี จมอยู่ใต้ลำน้ำห้วยสำราญ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านพากันชักลากซากต้นตะเคียนขึ้นจากน้ำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านโนนสำราญ พร้อมกับสร้างอาคารถาวรมุงกระเบื้องให้ และนำธูปเทียนแพร กรวยดอกไม้สักการะ ผ้าแพร 7 สีมาผูกบูชา โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมากราบไหว้อย่างเนืองแน่น จนพื้นที่ในวัดแทบไม่มีที่จอดรถ ส่วนใหญ่จะนำแป้งมาโรยที่ลำต้นตะเคียน และลูบหาตัวเลขจนไม้คะเคียนขาวโพลน
นายถนอม สมาน อายุ 47 ปี ผู้พบซากต้นคะเคียนโบราณ กล่าวว่า ขณะที่ตนงมหอยอยู่ในลำห้วยสำราญ ห่างจากหมู่บ้าน 1 กม. เท้าก็ไปสะดุดกับกิ่งไม้ใต้น้ำ จึงดำลงไปคลำดูพบว่าเป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่ ที่โผล่ออกมาจากพื้นดิน ด้วยความสงสัยจึงชวนเพื่อนบ้านกว่า 10 คน ไปดำน้ำสำรวจดูอย่างละเอียด และเกณฑ์ชาวบ้านนำรอกมาชักดึงขึ้นมาบนฝั่ง จึงทราบว่าเป็นต้นตะเคียนยักษ์โบราณ ยาว 10 เมตร มีอายุหลายร้อยปี เลยลงมติว่าควรนำไปถวายวัด และช่วยกันลากไปเก็บรักษาไว้ที่ใต้ต้นไทร ภายในวัดบ้านโนนสำราญ พร้อมกับสร้างอาคารกันแดดกันฝนให้ เมื่อชาวบ้านใกล้เคียงทราบข่าว จึงแห่กันมากราบไหว้ขอหวยกันเป็นจำนวนมาก
ด้านพระอธิการทอง สุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนสำราญ กล่าวว่า ซากต้นตะเคียนยักษ์โบราณดังกล่าว ชาวบ้านได้นำมาถวายวัด พร้อมกับบริจาคเงินสร้างอาคารเก็บรักษาให้ อาตมาไม่อยากขัดศรัทธาญาติโยม ซึงก็ไม่ขัดข้องท้วงติงในการกราบไหว้ขอหวย แล้วแต่ความเชื่อของชาวบ้าน หากจะนำแป้งมาทาลูบหาเลขเด็ดก็เป็นไร แต่หากมากไปกว่านั้น ถึงขั้นเอามีดหรือของแข็งไปขูดเพื่อดูตัวเลข ก็ไม่สมควรกระทำ เพราะถือว่าเป็นการทำลายต้นตะเคียนโบราณ ส่วนการบริหารจัดการต่างๆ ก็เป็นเรื่องของฆราวาส ทางสงฆ์และกรรมการวัดไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงไม่มีการตั้งตู้รับบริจาคแต่อย่างใด.
แหล่งที่มาของข่าว
หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น