พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี
โฆษก ตร.เผย ผบ.ตร.สั่งสอบข้อเท็จจริง ดีเอสไอ บุกจับคาราโอเกะค้ามนุษย์ ช่วยเหลือหญิงลาว พม่า และไทยใหญ่ จำนวนมาก ที่ถูกล่อลวงมาขายบริการใน จ.สงขลา
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.เปิดเผยว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ทุกพื้นที่ในสังกัดกองบัญชาตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9, ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อมิให้มีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เพิ่มมาตรการกวดขันสถานบันเทิง และสถานประกอบการ ที่เปิดให้บริการโดยเปิดเผย แต่มีการกระทำความผิดแอบแฝงอยู่ นอกจากนี้ ยังได้กำชับและสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นประชุมชี้แจงผู้รับผิดชอบ และกำกับดูแลควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้นำกำลังเข้าตรวจค้นร้าน 259 ชาลีคาราโอเกะ และร้านชาลีสปา 259 ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ รวมทั้งสามารถช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ได้จำนวน 32 คน เป็นชาวลาว, ชาวไทยใหญ่ และชาวพม่า ในจำนวนนี้เป็นผู้ใหญ่ 14 คน และเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 18 คนนั้น ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ผบช.ภ.9 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และล่าสุด กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว โดยแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รองผบช.ภ.9 เป็นประธานคณะกรรมการ และคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมาย
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำโดย พตท.ไพศิษฏ์ สังคหะพงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพดล เพชรสุทธิ์ รองผกก.สภ.สะเดา พ.ต.ท.เดชาพงษ์ ปรีชัย สว.สส.สะเดา นายมานิตย์ บริพันธุ์ ปลัดอำเภอสะเดาและนายสามารถ สุวรรณมณี ปลัดป้องกัน อ.สะเดา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจและอส.เข้าบุกทลายจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ จากการถูกพ่อแม่ของผู้หญิงชาวลาวได้ร้องเรียนมูลนิธิพิทักษ์สตรี ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน และเอ็นจีโอของประเทศลาว ว่าลูกสาวได้ถูกขบวนค้ามนุษย์ล่อลวงมาทำงานอยู่ที่เมืองไทย
กระทั่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสืบทราบว่าผู้ที่โดนล่อลวงได้เดินทางมาทำงานขายบริการอยู่ที่ภาคใต้ บ้านไทยจังโหลน ในท้องที่อำเภอสะเดา ย่านแหล่งท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซีย เจ้าหน้าดีเอสไอได้ทำการวางแผนร่วมกับตำรวจท้องที่และตัวแทนกรมการปกครองบุกจู่โจมตรวจค้นที่ร้าน 259 คาราโอเกะ ชั้นล่าง บริเวณโรงแรมโอริเวอร์ ด่านนอก พบหญิงสาวชาวลาว จำนวน 59 คนอายุระหว่าง 20- 30 ปี หลายคนในจำนวนนี้อายุไม่ถึง 18 ปีหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดิม ยังได้เดินทางไปยังร้านชาลีบ้านสปา ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างโรงแรมเคพีเค ด่านนอก พบหญิงสาวพากันวิ่งหนี อย่างอลเวง โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ จำนวน 12 คน รวมทั้งหมด 71 คน ซึ่งบางคนอายุไม่ถึง 18 ปีเช่นกัน จากการสอบถามหญิงสาวหลายคนให้การว่าทั้งถูกล่อลวงมา ซึ่งจะมีนายหน้าเป็นผู้ติดต่อและล่อลวงมายังสถานที่ดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น