กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม 8 อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ เข้ายื่นหนังสือแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้รัฐบาลรับจำนำกระเทียม ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท
นาย สมาน ทัดเที่ยง ประธานเครือข่ายสมาพันธ์เกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ และ นาย ณัฐนิติ วุฒิธรรมปัญา ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม 8 อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย อำเภอเวียงแหง สะเมิง แม่แตง เชียงดาว ฝาง แม่อาย ไชยปราการ และอำเภอดอยสะเก็ด ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อให้พิจารณาส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาดำเนินการตามที่กลุ่มเกษตรกรได้ร้องขอ ซึ่งข้อสรุปของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ได้ออกมานั้น ยังไม่มีความเป็นธรรมต่อกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม และจะมีผลต่อกลุ่มเกษตรกรในด้านภาระหนี้สิน อีกทั้งอาจไม่ทันต่อสถานการณ์ราคากระเทียมซึ่งตกต่ำลงทุกวัน กลุ่มผู้ปลูกกระเทียมทั้ง 8 อำเภอ จึงได้หารือกันและได้ข้อสรุป 3 ข้อ ได้แก่ ขอให้รัฐบาลพิจารณาโครงการรับจำนำกระเทียมจากเกษตรกรทั้งหมด ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท โดยกำหนดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2555 ข้อที่สอง ให้ชะลอการนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 สิงหาคม 2555 และข้อสุดท้าย คือ ขอวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 3 ต่อปี ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมเพื่อนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเก็บเกี่ยวผลผลิต จึงได้นำเกษตรกรกว่า 500 คน มาที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อกดดันเรียกร้อง
สถานการณ์เมื่อเวลา 16.00 น. ล่าสุดหลังจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มล. ปนัดดา ดิศกุล ได้มาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมและได้เจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมถึงสองครั้งแต่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งที่ท่านผู้ว่าฯยินยอมทำหนังสือเป็นลายลักอักษรว่าหลังจากรมต. พานิชย์ กลับมาจากประเทศญี่ปุ่นพร้อมท่านนายกในการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแล้วเรื่องนี้คือเรื่องแรกที่จะต้องทำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแต่กลุ่มผู้ชุมนุมยืนกรานที่จะได้รับคำตอบและหนังสือยืนยันจากรัฐมนตรีพานิชย์ ภายในวันนี้ สุดท้ายไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ ทางแกนนำได้นำมวลชนปิดล้อมศาลากลางจังหวัด และกางเต็นเพื่อใช้เป็นที่หลับนอนและเตรียมการหุงหาอาหารพร้อมทั้งยืนยันจะปิดล้อมศาลากลางจนกว่าจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจ....อนึ่งการปิดล้อมศาลากลางในวันนี้ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนผู้ที่ต้องการมาติดต่อราชการกับจังหวัดไม่ว่าจะเป็นการมาทำหนังสือเดินทางหรือการติดต่อเรื่องประกันสังคมเป็นต้นและมีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยระหว่างผู้ชุมนุมกับผู้ที่มาติดต่อราชการแต่ไม่มีอะไรรุนแรงต่อว่ากันเล็กน้อย แกนนำผู้ชุมนุมยังกล่าวอีกว่าจะปิดล้อมอย่างต่อเนื่องในเช้าวันพรุ่งนี้ 6 มีนาคมจะนำกุญแจมาล็อคประตูศาลากลางอีกด้วย
บรรยากาศ ยามค่ำคืน ของกลุ่มผู้ชุมนุม |
ภาพโดย กมล เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ : ข่าวโดย กนกรัตน์ - เนตรชนก สวท. เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น