<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 01 เมษายน 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

25 ก.ค. 2554

รัว เอชเค ฆ่านศ.สาว พลทหารคลังรัก


พลทหารคลั่งรักลากปืนเอช เคบุกกราดยิงน.ศ.สาวคาห้องพักย่านบางซื่อต่อหน้าแม่-น้องสาว ก่อนลั่นไกยิงตัวตามแต่ไม่สำเร็จ แค้นที่ถูกญาติฝ่ายหญิงกีดกันไม่ให้คบหาเห็นว่ายังเด็กอยู่ ประกอบกับหญิงคนรักมีท่าทีเหินห่าง จนแค้นจัดบุกลงมือกลางดึกสงัด ขณะที่เหยื่อสาวแพทย์พยายามยื้อชีวิตแต่บาดแผลฉกรรจ์สิ้นใจตายในที่สุด ตร.เผยเจ้าตัววาง แผนขโมยปืนออกจากกรมทหารมาก่อเหตุ

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ร.ต.อ. ณัฐกฤต์ ยุทยา ร้อยเวรสน.เตาปูน รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านเลขที่ 376/1-2 ถนนประชาราษฎร์ 1 ซอย 22 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงพร้อม พ.ต.ท.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รองผกก. สส.สน.เตาปูน รุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น แบ่งซอยเป็นห้องเช่า บริเวณบันไดทางขึ้นชั้นบนพบรอยเลือดหยดเป็นทาง ที่ประตูห้องพักเลขที่ 214 ชั้นที่ 2 มีรอยกระแทกจนพังได้รับความเสียหาย ภายในพบปลอกกระสุนปืนเอชเคตกกระจาย 4 ปลอก ส่วนภายในห้องมีร่องรอยการต่อสู้ บนที่นอนพบรอยเลือดและปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอีกนับ 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนที่พื้นห้องพบร่างพลทหารอานนท์ ภูมิชัย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 251/19 ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เป็นทหารสังกัดกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ อยู่ในชุดเครื่องแบบทหาร สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอชเค เข้าหน้าอก 2 นัดอาการสาหัสนอนหายใจรวยรินอยู่ จึงรีบนำส่งรักษาร.พ.วชิรพยาบาล

นอกจากนั้นยังทราบว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บคือน.ส.จริยา หรือแอน วิไลชัยกุล อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/40 หมู่ 19 ตรอก หมู่บ้านเขตเดิม แขวงและเขตบางซื่อ กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียว กันที่เหนือและใต้ราวนมข้างขวา และต้นขาซ้าย ถูกพลเมืองดีช่วยกันนำส่ง ร.พ.บางโพ ไปก่อนหน้านี้ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สอบสวนนางไค สาธุ อายุ 40 ปี มารดาผู้เสียชีวิตให้การว่า ก่อนเกิดเหตุภายในห้องมีผู้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือตน น.ส. จริยาผู้เสียชีวิต น.ส.เอ ลูกสาวคนเล็ก และนางลัดดา คำปา อายุ 46 ปี ขณะที่ทั้งหมดกำลังนอนพักผ่อนอยู่จู่ๆ ได้มีคนมาเคาะประตู เสียงดัง จึงลุกไปมองผ่านช่องตาแมวพบพลทหารอานนท์แฟนของน.ส.จริยาลูกสาวแต่งเครื่องแบบทหารถือปืนอยู่ ด้วยความกลัวจึง ไม่กล้าเปิดประตูให้ เนื่องจากเมื่อหลายเดือน ก่อนได้สั่งให้พลทหารอานนท์เลิกคบกันเพราะลูกสาวยังเด็กอยู่ ทำให้เจ้าตัวโกรธแค้นมากพร้อมประกาศว่าหากลูกสาวไปมีคนอื่นจะเอาให้ตาย

นางไค กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นเขาถือปืนมาด้วยจึงกลัวมากไม่กล้าเปิดประตูให้ ต่อมาพลทหารอานนท์ใช้อาวุธปืนยิงใส่บริเวณลูก บิดประตูแล้วใช้เท้าถีบประตูจนพัง ก่อนพุ่งตรงเข้าไปในห้องแล้วตะโกนหาลูกสาว จนเจอจึงเล็งปืนทำท่าจะยิง ระหว่างนั้นคนในห้องพยายามเข้าไปแย่งปืน แต่สู้แรงไม่ได้ทำให้เจ้าตัวกระหน่ำยิงใส่ลูกสาวแบบไม่ยั้งจนฟุบคาที่นอน จากนั้นหันปากกระบอกปืนเข้าหาอกตัวเองก่อนเหนี่ยวไกยิงจนร่างล้มฟุบลงไปกองอยู่กับพื้น ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์

"ไม่น่ามาทำกันขนาดนี้ ในเมื่อรักกันไม่ได้ไม่เห็นต้องมาฆ่าแกงกัน กว่าจะเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่มาได้ต้องยากลำบากเป็นอย่างมาก แต่กลับสูญเสียไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ จากเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น" นางไค กล่าว

จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 03.00 น. พลทหารอานนท์ซึ่งแต่งเครื่องแบบทหารขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นคลิก มาจอดที่หน้าอาคาร โดยสะพายกระเป๋าลายพราง จากนั้นเดินหายขึ้นไปบนชั้นสอง จากนั้นประมาณ 10 นาทีได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด แล้วเงียบหายไปประมาณ 5 นาทีจึงมีเสียงปืนรัวดังขึ้นมาอีกชุด จากนั้นไม่นานนางไควิ่งหน้าตาตื่นมาร้องขอความช่วยเหลือบอกว่าลูกสาวถูกยิง เพื่อนบ้านจึงช่วยกันนำร่างโชกเลือดของน.ส.จริยาส่งโรงพยาบาลทันที

ด้านพ.ต.ท.จิรวัฒน์ กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากการหึงหวงที่ถูกญาติฝ่ายหญิงกีดกันไม่ให้คบหากัน ประกอบกับหญิงคนรักมีท่าทีเหินห่างทำให้โกรธแค้นจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนการดำเนินคดีขณะนี้ได้ประสานไปยังนายทหารเวรกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ เพื่อสอบหาที่มาของอาวุธปืนว่าเอาออกมาจากกรมทหารได้อย่างไร แต่เท่าที่สอบถามทหารเวร พบว่าพลทหารอานนท์เข้าเวรรักษาการณ์อยู่ที่กรมทหารม้าที่ 1 แยกเกียกกาย พร้อมเพื่อนทหารรุ่นน้องอีก 1 นาย มีหน้าที่ถืออาวุธปืน โดยเจ้าตัวได้บอกกับเพื่อนที่เข้าเวรด้วยกันว่าจะดูแลปืนให้ จากนั้นจึงลักลอบนำใส่กระเป๋าสะพายขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากกรม เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีการเตรียมตัวไว้แล้ว ซึ่งทางฝ่ายทหารจะสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเข้าให้การกับพนักงานสอบสวนหากพลทหารอานนท์มีอาการดีขึ้น
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น