"ปณิธาน" โวยสถานทูตเยอรมันประจำกรุงเทพฯ ออกแถลงการณ์ไล่บี้รัฐบาลไทยรีบๆ จ่ายเงินชดเชยให้บริษัทวาลเทอร์ บาว 36 ล้านยูโร หรือประมาณ1,500 ล้านบาท หลังแพ้คดีผิดสัญญาโครงการทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ระบุความสัมพันธ์ทั้งสองชาติดีและใกล้ชิดมาตลอด แต่ขณะนี้ต้องระวังถึงเหตุการณ์อายัด "โบอิ้ง 737" เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจกระทบต่อความรู้สึกของคนไทย ปัดไม่รู้ข่าว "ทักษิณ" เข้าแดนอินทรีเหล็ก แต่ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละชาติว่าจะอนุญาตให้เข้าหรือไม่ ด้าน "บัวแก้ว" เผยกำลังหารือกับอสส. เพื่อทำหนังสือชี้แจงตอบโต้ทางการเยอรมนี
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยจ่ายเงินชดเชยให้บริษัทวาลเทอร์ บาว เป็นเงิน 36 ล้านยูโร (ประมาณ 1,542 ล้านบาท) โดยอ้างคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตัดสินให้ไทยต้องชดใช้ให้บริษัทดังกล่าวถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ว่า กระ ทรวงการต่างประเทศของไทยกำลังตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และจะทำเรื่องชี้แจงกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี และไทยได้ยืนยันในเรื่องข้อมูลพื้นฐานทั้งหมด เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-เยอรมนี ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะจนถึงวันนี้มีปรากฏบ้างแล้วว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน
"ไทยยืนยันในหลักการและเข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมันเคยพูดว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมดำเนินการอยู่ในชั้นอุทธรณ์ และยังมีข้อสังเกตทางกฎหมายอยู่หลายเรื่อง เข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมันตระหนักดีว่ากระบวนการยุติธรรมในเยอรมันเองแยกแยะออกจากฝ่ายบริหาร ดังนั้นเราจึงแปลกใจนิดหน่อยที่กระทรวงการต่างประเทศเยอรมันให้ความเห็นเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าจะเป็นอิสระต่อกัน" นายปณิ ธาน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการหารือระหว่างนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศ กับทางการเยอรมันไม่มีผลใดๆ นายปณิธาน ชี้แจงว่า ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศดีและใกล้ชิดมาตลอด แต่ขณะนี้ต้องระวังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นละเอียดอ่อน กระทบต่อความรู้สึกของคนไทย ต้องไม่ให้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้น ขอเรียกร้องกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันให้ระมัดระวัง และต้อง การให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งกระ ทรวงการต่างประเทศของไทยเตรียมส่งข้อมูลไปชี้แจงไปกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันในวันเดียวกันนี้
ต่อข้อถามว่า แถลงการณ์ดังกล่าวของสถานทูตจะส่งผลกระทบต่อคดีศาลเยอรมันสั่งอายัดเครื่องบินพระราชพาหนะ โบอิ้ง 737 หรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังประเมินสถานการณ์ โดยจะชี้แจงและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อไป
เมื่อถามว่า ล่าสุดเยอรมันอนุญาตให้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางเข้าประ เทศแล้ว มองว่าเกี่ยวโยงกับกรณีนี้หรือไม่ นายปณิธานระบุว่า ยังเป็นเพียงข่าว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังตรวจสอบ แต่ละประเทศต่างมีแนวทางอนุญาตให้บุคคลเข้าประเทศ เป็นสิทธิ์ของแต่ละประเทศ แต่เราต้องการให้มีความร่วมมือที่ดี เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมายเนื่องจากอดีตนายกฯ มีเรื่องคดีที่ต้องดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรม จึงไม่อยากให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีรายงานข่าวระบุว่าเมื่อไทยเปลี่ยนรัฐบาลสถานการณ์ก็ต้องเปลี่ยนไป เยอรมันจึงปล่อยให้คนที่มีคดีติดตัวเข้าประเทศ นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นจุดยืนของแต่ละประเทศที่ต่างมีเหตุผล แต่เราต้องการให้ทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรมด้วย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยจ่ายเงินชดเชยให้บริษัทวาลเทอร์ บาว เป็นเงิน 36 ล้านยูโร (ประมาณ 1,542 ล้านบาท) โดยอ้างคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตัดสินให้ไทยต้องชดใช้ให้บริษัทดังกล่าวถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ว่า กระ ทรวงการต่างประเทศของไทยกำลังตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และจะทำเรื่องชี้แจงกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี และไทยได้ยืนยันในเรื่องข้อมูลพื้นฐานทั้งหมด เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-เยอรมนี ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะจนถึงวันนี้มีปรากฏบ้างแล้วว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน
"ไทยยืนยันในหลักการและเข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมันเคยพูดว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมดำเนินการอยู่ในชั้นอุทธรณ์ และยังมีข้อสังเกตทางกฎหมายอยู่หลายเรื่อง เข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมันตระหนักดีว่ากระบวนการยุติธรรมในเยอรมันเองแยกแยะออกจากฝ่ายบริหาร ดังนั้นเราจึงแปลกใจนิดหน่อยที่กระทรวงการต่างประเทศเยอรมันให้ความเห็นเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าจะเป็นอิสระต่อกัน" นายปณิ ธาน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการหารือระหว่างนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศ กับทางการเยอรมันไม่มีผลใดๆ นายปณิธาน ชี้แจงว่า ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศดีและใกล้ชิดมาตลอด แต่ขณะนี้ต้องระวังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นละเอียดอ่อน กระทบต่อความรู้สึกของคนไทย ต้องไม่ให้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้น ขอเรียกร้องกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันให้ระมัดระวัง และต้อง การให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งกระ ทรวงการต่างประเทศของไทยเตรียมส่งข้อมูลไปชี้แจงไปกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันในวันเดียวกันนี้
ต่อข้อถามว่า แถลงการณ์ดังกล่าวของสถานทูตจะส่งผลกระทบต่อคดีศาลเยอรมันสั่งอายัดเครื่องบินพระราชพาหนะ โบอิ้ง 737 หรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังประเมินสถานการณ์ โดยจะชี้แจงและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อไป
เมื่อถามว่า ล่าสุดเยอรมันอนุญาตให้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางเข้าประ เทศแล้ว มองว่าเกี่ยวโยงกับกรณีนี้หรือไม่ นายปณิธานระบุว่า ยังเป็นเพียงข่าว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังตรวจสอบ แต่ละประเทศต่างมีแนวทางอนุญาตให้บุคคลเข้าประเทศ เป็นสิทธิ์ของแต่ละประเทศ แต่เราต้องการให้มีความร่วมมือที่ดี เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมายเนื่องจากอดีตนายกฯ มีเรื่องคดีที่ต้องดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรม จึงไม่อยากให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีรายงานข่าวระบุว่าเมื่อไทยเปลี่ยนรัฐบาลสถานการณ์ก็ต้องเปลี่ยนไป เยอรมันจึงปล่อยให้คนที่มีคดีติดตัวเข้าประเทศ นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นจุดยืนของแต่ละประเทศที่ต่างมีเหตุผล แต่เราต้องการให้ทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรมด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น