อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ศาลเยอรมันตัดสินวันนี้ อายัดเครื่องบินไทย ชี้มีแนวโน้มที่ดี เชื่อไม่กระทบความสัมพันธ์
15 ก.ค.รายงานข่าวแจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง กรณีที่บริษัทเอกชนเยอรมนีอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของไทยว่า อัยการสูงสุด เดินทางไปถึงประเทศเยอรมนีเมื่อวานนี้ เพื่อรับคำร้องต่อศาลเยอรมนี โดยแจ้งข้อเท็จจริงให้เห็นว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของเอกชน ไม่ใช่ของรัฐบาลไทย ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ทั้งนี้ ในเวลา 16.00 น. ศาลเยอรมนีจะนัดตัดสินคดี หวังว่าศาลเยอรมนีจะเปลี่ยนคำตัดสิน จากที่ตัดสินไปเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลได้มีการประสานทุกช่องทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด ซึ่งมั่นใจว่าปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายได้ เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่ คาดว่าภายในวันนี้ปัญหาจะจบ และจะไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
อนึ่ง นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวก่อนหน้านั้น ว่า ศาลเยอรมนีสั่งอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของไทยที่นครมิวนิก เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม หลังมีข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท วอลเตอร์ บาว ของเยอรมนี เกี่ยวกับสัมปทานการก่อสร้างดอนเมืองโทลล์เวย์เมื่อปี 2543 โดยทางวอลเตอร์ บาว ได้มอบหมายให้ทนายชื่อแวร์เนอร์ ชไนเดอร์ เป็นผู้จำหน่ายทรัพย์สิน ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการทางด้านกระบวนการยุติธรรมเริ่มตั้งแต่การไต่สวนที่ฮ่องกง จนไปจบที่คณะอนุญาโตตุลาการที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับกรณีดังกล่าว เป็นไปภายใต้อนุสัญญานิวยอร์กว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ชี้ขาดให้ราชอาณาจักรไทยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินเกือบ 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) บวกดอกเบี้ย 6 เดือนในอัตรา 2 % ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2549 รวมถึงค่าใช้จ่ายในกระบวนการอนุญาโตตุลาการของบริษัท วอลเตอร์ บาว อีกเกือบ 2 ล้านยูโร (ประมาณ 80 ล้านบาท) ซึ่งให้เหตุผลว่าเพราะรัฐบาลไทยผิดพันธกรณี
อย่างไรก็ตาม นายชไนเดอร์ ได้ฟ้องร้องกับศาลยุติธรรมเยอรมนี ที่ตัดสินเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ไปยึดเครื่องบินของไทยที่จอดอยู่ที่เมืองมิวนิก รัฐบาลไทยทราบเรื่องเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม และได้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยในแง่เนื้อหาคือเจ้าทุกข์สามารถดำเนินการกับทรัพย์สินของรัฐบาลไทยได้ แต่เครื่องบินลำนี้ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินของรัฐบาลไทย ดังนั้น ในแง่กฎหมายเป็นการอายัดทรัพย์สินส่วนบุคคล ศาลไม่มีสิทธิทำเช่นนั้น นับเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น