ตำรวจทหารเชียงรายปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดวันเดียววิสามัญฯพ่อค้ายาบ้า 2 ศพรวมทั้งยึดยาบ้ากว่า1ล้านเม็ด-ยาไอซ์73กก.อาวุธปืนสงคราม เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระบุในช่วงนี้ยาเสพติดจะระบาดเข้ามาในประเทศไทยมากเพราะนายทุนจะใช้ช่วงฤดูฝนซึ่งเห็นว่าเจ้าหน้าที่อาจไม่เข้มงวดเผยทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันอย่างจริงจังในการป้องกันและปราบปรามเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ก.ค.2554 พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนร่วมกับทหารพราน ฉก.ทพ.31 ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง สืบทราบจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากผ่านมาทางถนนพหลโยธินมุ่งหน้าสู่ อ.เมืองเชียงราย จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผกก.สส.กก.สส.ภ.จ.เชียงราย นำกำลังสกัดจับบนถนนพหลโยธิน บริเวณปากทางเข้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อนิสสัน สีแดง ทะเบียน บ 9012 จ.พะเยา ขับมาจากทางทิศเหนือทาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย มุ่งหน้าจะเข้าตัวเมืองจึงให้สัญญานหยุดตรวจ แต่ปรากฎว่าคนขับรถคันดังกล่าวกลับขับขี่แหกจุดตรวจและหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงนำรถยนต์ออกติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนทำให้รถคันดังกล่าวเสียหลักพุ่งลงพงหญ้าข้างทางบริเวณหมู่บ้านขัวแคร่ หมู่ 1 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ห่างจากจุดตรวจเล็กน้อย อย่างไรก็ตามแม้รถจะหยุดนิ่งแต่คนในรถซึ่งพบว่าเป็นชาย 2 คน ได้พากันเปิดประตูออกทั้งสองฝ่ายและวิ่งหลบหนีโดยหนึ่งในนั้นได้ชัดอาวุธปืนอาก้า ยิงใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนีจึงถูกเจ้าหน้าที่ยิงสวนกลับไปและถูกคนร้ายเสียชีวิตคาที่จำนวน 1 คน แต่อีกคนวิ่งหลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นภายในตัวคนตายไม่พบหลักฐานว่าเป็นใคร แต่รูปพรรณสันฐานเชื่อว่าเป็นชาวไทยภูเขา อายุประมาณ 30 ปี ที่ข้างมือขวาคนตาย พบปืนอาก้าตกอยู่ 1 กระบอก
จากการตรวจสอบที่กระบะท้ายรถยนต์ปิกอัพ พบมีสัมภาระวางระแกะระกะโดยมีผ้าใบปิดทับอีกชั้นหนึ่ง โดยเป็นกระเป๋าเป้สีเขียว 6 ใบ และถุงปุ๋ยอีก 6 กระสอบ ภายในมียาบ้าซุกซ่อนอยู่รวม 539 มัดๆ ละ 2,000 เม็ด รวมยาบ้าจำนวน 1,078,000 เม็ด นอกจากนี้พบยาเสพติดประเภทยาไอซ์อีกจำนวน 73 กิโลกรัม มูลค่าของกลางทั้งหมดประมาณ 500 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงนำส่ง พ.ต.ท. อินทัช คำวาง สารวัตรเวรสถานีย่อยบ้านดู่ สภ.เมืองชียงราย จากนั้นขยายผลหาตัวผู้บงการซึ่ง พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางไปตรวจสอบคดีด้วยตัวเองและนำของกลางทั้งหมดแถลงข่าวที่ห้องประชุมดรงควิบูลย์ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ซึ่ง พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่าขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มมูเซอเนื่องจากดูจากพฤติการณ์และของกลางที่ตรวจยึดได้มีลักษระการบรรจุที่คล้ายกันที่จับได้ครั้งก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะนำไปส่งให้กับนายทุนผู้จ้างวานในพื้นที่ภาคกลาง หากเล็ดลอดไปได้จะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งการที่ยาเสพติดทะลักเข้ามามากในช่วงนี้เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนขบวนการค้าเสพติดเห็นว่าเจ้าหน้าที่อาจไม่เข้มงวดแต่เป็นการเข้าใจผิด นอกจากนี้เชื่อว่ายาเสพติดทั้งหมดมาจากโรงงานในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งจะได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตามจังหวัดชายแดนทุกแห่งเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปราม และติดตามขยายผลเครือข่ายที่เหลือซึ่งขณะนี้พอทราบทะเบียนรถเครือข่ายที่หลบหนีแล้วกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีอยู่ ด้านนายพินิจ หาญพาณิชย์ รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายได้วางยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตลอดปี โดยมีจุดสกัดถาวรกว่า 30 แห่ง แต่ด้วยเชียงรายเป็นจังหวัดชายแดนที่มีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 2 ประเทศซึ่งมีแหล่งผลิตอยู่ใกล้ และแนวชายแดนยาวกว่า 300 กิโลกรัม ทำให้มีการทะลักต่อเนื่อง แต่ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนสกัดกั้นให้ได้มากที่สุด
จากการตรวจสอบที่กระบะท้ายรถยนต์ปิกอัพ พบมีสัมภาระวางระแกะระกะโดยมีผ้าใบปิดทับอีกชั้นหนึ่ง โดยเป็นกระเป๋าเป้สีเขียว 6 ใบ และถุงปุ๋ยอีก 6 กระสอบ ภายในมียาบ้าซุกซ่อนอยู่รวม 539 มัดๆ ละ 2,000 เม็ด รวมยาบ้าจำนวน 1,078,000 เม็ด นอกจากนี้พบยาเสพติดประเภทยาไอซ์อีกจำนวน 73 กิโลกรัม มูลค่าของกลางทั้งหมดประมาณ 500 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงนำส่ง พ.ต.ท. อินทัช คำวาง สารวัตรเวรสถานีย่อยบ้านดู่ สภ.เมืองชียงราย จากนั้นขยายผลหาตัวผู้บงการซึ่ง พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางไปตรวจสอบคดีด้วยตัวเองและนำของกลางทั้งหมดแถลงข่าวที่ห้องประชุมดรงควิบูลย์ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ซึ่ง พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่าขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มมูเซอเนื่องจากดูจากพฤติการณ์และของกลางที่ตรวจยึดได้มีลักษระการบรรจุที่คล้ายกันที่จับได้ครั้งก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะนำไปส่งให้กับนายทุนผู้จ้างวานในพื้นที่ภาคกลาง หากเล็ดลอดไปได้จะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งการที่ยาเสพติดทะลักเข้ามามากในช่วงนี้เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนขบวนการค้าเสพติดเห็นว่าเจ้าหน้าที่อาจไม่เข้มงวดแต่เป็นการเข้าใจผิด นอกจากนี้เชื่อว่ายาเสพติดทั้งหมดมาจากโรงงานในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งจะได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตามจังหวัดชายแดนทุกแห่งเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปราม และติดตามขยายผลเครือข่ายที่เหลือซึ่งขณะนี้พอทราบทะเบียนรถเครือข่ายที่หลบหนีแล้วกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีอยู่ ด้านนายพินิจ หาญพาณิชย์ รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายได้วางยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตลอดปี โดยมีจุดสกัดถาวรกว่า 30 แห่ง แต่ด้วยเชียงรายเป็นจังหวัดชายแดนที่มีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 2 ประเทศซึ่งมีแหล่งผลิตอยู่ใกล้ และแนวชายแดนยาวกว่า 300 กิโลกรัม ทำให้มีการทะลักต่อเนื่อง แต่ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนสกัดกั้นให้ได้มากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น