โดนคู่กรณีไล่บี้ แฉหลักฐานต่างๆ นานา ล่าสุดถึงคิวของสาวมั่น "ยูมิน ทวิกานต์ กุลชล" ออกโรงโชว์หลักฐานอีเมล์ที่นักร้องหนุ่ม "ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" ส่งถึงกันระหว่างที่อยู่ประเทศอังกฤษ นี่เป็นแค่ออเดิร์ฟ ซึ่งสาวยูมินเผยว่ายังมีไม้เด็ดที่ยังไม่ได้เอาออกมาแฉ บอกหากเป็นความต้องการของประชาชน ตนก็ทยอยเอาออกมาตีแผ่ให้ทราบ
จุดประสงค์ที่ออกมาในวันนี้ แค่อยากร้องขอให้อีกฝ่ายพูดความจริงบ้าง ไม่ใช่โกหกเพื่อตัวเองหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ลั่นไม่กลัวต้นสังกัดของฝ่ายชายขู่ฟ้อง ลั่นไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ยืนยันว่ามากกว่าพี่-น้อง ส่วนจะมีอะไรเกินเลยหรือไม่นั้นไม่ขอพูดเพราะด้วยความเป็นลูกผู้หญิง จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือไม่ก็ไม่สมควรพูด
"ก่อนหน้านี้ยังรู้สึกสบายอยู่ ไม่เป็นไรเพราะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่หนูเองก็ไม่ได้ดังอะไรมากมายแค่ทำตามความถูกต้อง เพิ่งมากดดันจริงๆก็เป็นเมื่อวาน มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่ามาจากฟิล์ม ให้หนูพยายามอย่าพูดหลายๆอย่าง ได้ข่าวมาว่าอาร์เอสกำลังจะฟ้อง ทราบและรู้จักคนที่โทรมาด้วย เขาเป็นพี่พนักงานที่สโมสรหมู่บ้านเป็นบริษัทใหญ่บริษัทหนึ่งในการสร้างบ้านและดูแลหมู่บ้าน (อะไรที่ฟิล์มพูดแล้วเรารับไม่ได้) ติดใจทุกอย่างที่ไม่ใช่ความจริง หนึ่งเลยคือสถาบันครอบครัวของหนูสำคัญที่สุด ที่ผ่านมาเขาโทรมาหาแม่หนูตลอดแต่เขาบอกว่าแม่หนูโทร ซึ่งมันดูไม่ดีกับภาพลักษณ์ครอบครัวหนูมาก พ่อแม่หนูฝากมาบอกว่าไม่ได้บ้าดารา และไม่ได้มองว่าเขาคือฟิล์ม สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างแค่ว่าพ่อแม่ยินยอมให้เข้าบ้านมาทำความรู้จักกับลูกเพราะคิดว่าที่ผ่านมาเขาคิดว่าเป็นคนดีค่ะ"
"เราสนิทสนมกันมาเกือบ 2 ปีก็เริ่มตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ไม่ตรงกัน ตรงที่ว่าพี่-น้อง หนูเชื่อว่าไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นค่ะ (อะไรที่บอกได้ว่าไม่ใช่พี่-น้อง) ตรงนั้นหนูไม่ขอเปิดเผยมากมาย ถามว่าเบื้องต้นมีการแตะเนื้อต้องตัวกันไหม มีอยู่แล้ว ถามว่าตรงนั้นที่หนูไม่พูดไม่ใช่ว่าหนูเสียหายแล้ว เหมือนที่ทุกคนพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้นหรือยังแต่ที่หนูไม่พูดเพราะว่าความเป็นลูกผู้หญิงเรื่องแบบนี้จะเกิดหรือไม่ก็ไม่ควรพูดอยู่แล้ว"
"สถานะตอนนั้นไม่ใช่กิ๊ก หรืออาจไม่ใช่แฟนเลยก็ได้ ผู้ชายมีหลายประเภท (แล้วสรุปว่าสถานะเราตอนนั้นละ) เขาพูดว่าเรารู้กันอยู่ในใจ ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย ต้องเข้าใจเขาเพราะว่าเขาอยู่ในสถานะนั้น เขามีหลายคนต้องแคร์ (แสดงว่าเราพอใจที่จะยืนอยู่จุดนี้) ไม่ได้พอใจค่ะ และไม่เชิงว่าจะยืนด้วย หนูไม่เคยง้อเขา ครั้งล่าสุดเขาไม่โทรมาสักพักนึง พอเขาโทรมาหนูก็ถามว่าโทรมาทำไม หนูไม่ใช่ของตายของใคร หนูก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและทำดีกับเขา ถ้าวันนึงหนูไปคุณไม่มีสิทธิ์มาตามหนูกลับ หนูสามารถตัดสินใจเองได้ว่าผู้ชายคนนี้ดีหรือไม่ดี"
"ถามว่าเชื่อไหมว่าเขามีคนอื่นไหม เชื่อว่ามีค่ะ ทนได้ยังไง หนูไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องตาม หนูพูดกับเขาเสมอว่าหนูเปิดใจ คุณจะยอมรับใครหรือเรียนรู้ใครหนูไม่เคยว่าแต่ ณ วันนึงที่หนูคิดว่าเขาคืออนาคตแล้ว หนูเชื่อว่าเขาจะหยุด"
มีหนุ่มเข้ามาคุยกับเราไหม? "เข้ามาคุยตลอด แต่หนูไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย ส่วนกับอ๊อฟ ชนะพล หนูไม่ได้เดินเข้าไปหาเขา หนูพร้อมที่จะรู้จักทุกๆคน ถามว่าคุยพร้อมกันไหมกับฟิล์ม หนูไม่ได้คุยทุกวัน บางช่วงคุยบ่อย บางช่วงเป็นการที่โทรมาระบาย และบางช่วงไม่ได้คุยกัน (อ๊อฟเข้ามาคุยก่อน?) พี่ฟิล์มเข้ามาคุยก่อนนานมากค่ะ (อ๊อฟรู้ไหมว่าเราคุยกับฟิล์ม) รู้ค่ะ"
แสดงว่าที่ฟิล์มบอกว่าไม่ใช่แฟน เราก็รับได้ แต่ที่รับไม่ได้คือเขาบอกว่าไม่ได้คุย? "บอกว่าเป็นพี่น้องถามว่าโอเคไหม หนูโอเค การพูดของเขาหนูโอเค ใจกว้าง แต่สิ่งที่หนูรับไม่ได้คือ จากการที่เราดูแววตา ฟังทุกอย่าง อะไรคือเรื่องจริงหรือคนที่พยายามจะเปิดเผยข้อมูลบางอย่างที่ไม่ใช่เรื่องจริง"
ได้คุยกับฟิล์มล่าสุดเมื่อไหร่? "ก่อนกลับจากอังกฤษประมาณอาทิตย์นึง เขาก็บอกว่าจะกลับแล้วเดี๋ยวถ้าว่างก็เจอกัน คุยกัน ก่อนจะมีข่าวทุกอย่างเหมือนเดิม แค่มีข่าวแล้วมันเป็นการตัดสินใจของแต่ละคนหนูก็เข้าใจและให้เกียรติเขา"
หลักฐานยืนยันความสัมพันธ์คืออะไร? "เฉพาะวันนี้ก็มีอีเมล์บางส่วนที่เขาเคยส่งมา ข้อความว่า "I miss you so muchhhhhh เห็นแล้วนะครับ เก่งมากเลยครับ ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านยังอยากคุยด้วยมากเลย ฟิล์มอยู่ที่นี่ลำบากมากมือถือก็โดนขโมย ไม่มีอะไรดีเลย อยู่ที่นี่โคตรคิดถึงเลย อยากกลับไปแล้ว ทิ้งเบอร์ไว้ด้วยนะเดี๋ยวโทรไป i love you" ส่งมาวันที่ 28 ก.พ. หนูอยู่ในบ้านทีนซูเปอร์สตาร์ค่ะ พ่อแม่ปริ้นอีเมล์มาให้ดูและตอบกลับไปหาเขา ทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์เขาจะทิ้งท้ายว่าฟิล์มรักคุณนะ หนูรับฟังแต่ถามว่าเชื่อไหม คนเราครึ่งๆค่ะ"
คุณพ่อคุณแม่ตอบกลับอีเมล์ให้ประมาณไหน? "คุณพ่อคุณแม่ตอบไปประมาณว่า "ไม่เป็นไรนะลูกทนอีกนิดนึง เดี๋ยวก็ได้กลับมาแล้วอีกไม่กี่วัน คิดถึงลูกนะ แม่รักลูกนะ"
นอกจากอีเมล์แล้วยังมีหลักฐานอื่นอีกไหม? "ก็มีข้อความบางอย่าง ส่วนรูปถ่ายคู่ไม่เคยถ่ายค่ะ ไม่อยากแสดงเจตนารมณ์ให้เขารู้หรือให้เขาคิดแม้แต่นิดเดียวว่าหนูเป็นผู้หญิงที่เข้ามาเพื่อหวังอะไรจากเขา หนูไม่ต้องการ"
ทำไมไม่เอาหลักฐานออกมาโชว์ทีเดียวให้จบเลย? "ก็เพิ่งมารู้จากทุกๆคนนี่แหละค่ะว่าอยากรู้อะไรที่มันเหลืออยู่เพราะที่ผ่านมาหนูคิดว่าช่างมันเถอะ (จะเอาออกมาโชว์อีกเมื่อไหร่) ขึ้นอยู่กับหน้าที่ว่าเมื่อไหร่ (หน้าที่คือ?) เหมือนวันนี้ คือการมาทำงานเป็นหนึ่งงานของหนู"
ก่อนหน้านี้ฟิล์มยอมรับว่าคุยกับเราจริง แต่มีอะไรหลายๆ อย่างที่ไปด้วยกันไม่ได้? "ตรงนั้นหนูเข้าใจและรู้สึกดีที่คุณมีความเป็นลูกผู้ชายที่จะพูด สิ่งที่เขาให้สัมภาษณ์มันขัดในสิ่งที่เขาพูด ถามว่ารู้ไหมอะไรคือเท็จหรือจริง ก็รู้ทุกอย่าง"
จุดประสงค์ที่ออกมาในวันนี้คืออะไร? "ไม่ใช่จุดประสงค์ของหนูค่ะ เป็นความต้องการของประชาชน หนูอยู่เงียบๆถามว่าเช็กกระแสข่าวไหม ก็เช็กว่าคนต้องการอะไร บางกลุ่มให้กำลังใจหนูมากขอบคุณ หลายๆสื่อหลายๆกลุ่ม แต่ที่มากที่สุดคือพันธุ์ทิพย์และเฟซบุ๊ก ทุกคนเข้าใจและกำลังใจหนู"
ตอนนี้มีแต่คนมารุมแฉฟิล์ม ทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ไม่พูดความจริง? " (ร้องไห้) ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเขา จะช้าจะเร็วก็คือตัวเขาทั้งนั้น"
หลายคนมองว่าเราเกาะดัง? "หนูแจ้งไปชัดเจนแล้วว่าหนูไม่ต้องการดัง มันไม่มีความสุขเลย"
อยากฝากบอกอะไรถึงฟิล์มไหม? "จะโกหกอะไรเพื่อธุรกิจ หนูอยากให้เข้าใจความเป็นลูกผู้หญิงบ้าง คนเรามีหัวใจ หนูผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวแต่เขาเองก็มีอะไรรองรับหลายอย่าง มันกดดัน มันเจ็บมาก"
ยังสามารถยืนอยู่ในวงการได้ไหม? "ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาและโอกาส หนูเป็นผู้หญิงคนนึงที่มีทางเดินชีวิตตัวเองชัดเจนแล้ว ไม่ได้คิดว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง พยายามทำตัวให้ดีที่สุดเท่าที่ยังพอมีเวลา เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนหัวใจแข็งแรงแต่กล้าที่จะทำหรือไม่ทำ ณ วันนี้หนูตัดสินใจออกมาทำแล้วแทนผู้หญิงหลายๆคนที่โดนอย่างนี้เหมือนกัน"
ถ้าฟิล์มขอเคลียร์จะยอมไหม? "คุยค่ะ ถ้ามาให้หนูโกหก หนูไม่ทำ คนทั้งประเทศสมควรได้รับรู้ความจริงไม่ใช่ว่านั่งปกปิดเพื่อคนคนเดียว รู้ว่าสิ่งที่เขาทำคือคนไม่มีหัวใจ"
"เรื่องฟ้องร้อง ถามว่ากลัวไหม ไม่ได้กลัวเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด หนูทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วในชีวิตหนูจริงๆ ผลกระทบที่จะเกิดกับครอบครัวหนู หนูไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนในธุรกิจก็ไม่เชิงหรือเรียกว่าการเอาตัวรอดของคนบางคนหรือบางกลุ่ม หนูก็ไม่ทราบเหมือนกัน (ปรึกษากับครอบครัวหรือยังว่าถ้าเขาฟ้องจริงจะทำอย่างไร) พ่อแม่บอกว่าจะกลัวทำไมในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถามว่าไม่เกิดขึ้นจะดีกว่า (ที่เขาโทรมาเตือนหรือให้ระวังตัว?) หนูคิดว่าเตือนค่ะ ผลกระทบที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือทางจิตใจ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น