ทางการพม่าได้กำหนดบทลงโทษจำคุก 5 ปีและปรับเป็นเงิน กรณีหมิ่นประมาทหรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงบนเว็บไซต์เฟสบุ๊คตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของพม่า ขณะที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเฟสบุ๊ค กำลังเป็นที่นิยมและยอดผู้ใช้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
สำนักข่าว the Weekly Eleven journal ซึ่งเป็นสำนักข่าวในประเทศพม่ารายงานว่า ทางการพม่าได้กำหนดบทลงโทษจำคุก 5 ปีและปรับเป็นเงิน กรณีหมิ่นประมาทหรือกระทำให้ผู้อื่น หรือหน่วยงานได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงบนเว็บไซต์เฟสบุ๊ค ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของพม่า ขณะที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเฟสบุ๊ค กำลังเป็นที่นิยมและยอดผู้ใช้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
ทั้งนี้ แม้อัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตในพม่าจะต่ำที่สุดในโลก โดยมีประชากรเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต แต่สำนักข่าว the Weekly Eleven journal รายงานว่า แม้จะไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้ใช้เฟสบุ๊คได้ แต่ยอดผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในพม่า แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ใช้เฟสบุ๊คบางส่วนไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์ จึงอาจทำให้คุกคามและไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น เช่นการไปโพสต์ข้อความหรือนำรูปของผู้อื่นไปใช้ในเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นต้น
ซึ่ง the Weekly Eleven journal รายงานว่า ขณะนี้ ผู้ที่ถูกกระทำเช่น ถูกหมิ่นประมาทและถูกทำให้เสียชื่อเสียงบนเว็บไซต์เฟสบุ๊คสามารถฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายได้แล้ว
ส่วนสำนักข่าวดีวีบีเปิดเผยว่า สิ่งที่รัฐบาลพม่ากำลังกลัวก็คือ การปลูกระดมมวลชนให้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ เห็นได้จากที่ผ่านมา รัฐบาลได้ปิดใช้อินเตอร์เน็ตในช่วงเหตุการณ์ตึงเครียดในประเทศ อย่างไรก็ตาม เฟสบุ๊คไม่ได้เป็นที่นิยมในพม่าเท่านั้น แต่ชาวพม่าและชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศก็หันมาเล่นเฟสบุ๊คเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยเฟสบุ๊คได้เชื่อมต่อระหว่างประชาชนที่อยู่ในและนอกประเทศพม่า และเป็นเครื่องมือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารระหว่างคนทั้งสองกลุ่ม
สำนักข่าว the Weekly Eleven journal ซึ่งเป็นสำนักข่าวในประเทศพม่ารายงานว่า ทางการพม่าได้กำหนดบทลงโทษจำคุก 5 ปีและปรับเป็นเงิน กรณีหมิ่นประมาทหรือกระทำให้ผู้อื่น หรือหน่วยงานได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงบนเว็บไซต์เฟสบุ๊ค ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของพม่า ขณะที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเฟสบุ๊ค กำลังเป็นที่นิยมและยอดผู้ใช้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
ทั้งนี้ แม้อัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตในพม่าจะต่ำที่สุดในโลก โดยมีประชากรเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต แต่สำนักข่าว the Weekly Eleven journal รายงานว่า แม้จะไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้ใช้เฟสบุ๊คได้ แต่ยอดผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในพม่า แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ใช้เฟสบุ๊คบางส่วนไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์ จึงอาจทำให้คุกคามและไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น เช่นการไปโพสต์ข้อความหรือนำรูปของผู้อื่นไปใช้ในเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นต้น
ซึ่ง the Weekly Eleven journal รายงานว่า ขณะนี้ ผู้ที่ถูกกระทำเช่น ถูกหมิ่นประมาทและถูกทำให้เสียชื่อเสียงบนเว็บไซต์เฟสบุ๊คสามารถฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายได้แล้ว
ส่วนสำนักข่าวดีวีบีเปิดเผยว่า สิ่งที่รัฐบาลพม่ากำลังกลัวก็คือ การปลูกระดมมวลชนให้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ เห็นได้จากที่ผ่านมา รัฐบาลได้ปิดใช้อินเตอร์เน็ตในช่วงเหตุการณ์ตึงเครียดในประเทศ อย่างไรก็ตาม เฟสบุ๊คไม่ได้เป็นที่นิยมในพม่าเท่านั้น แต่ชาวพม่าและชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศก็หันมาเล่นเฟสบุ๊คเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยเฟสบุ๊คได้เชื่อมต่อระหว่างประชาชนที่อยู่ในและนอกประเทศพม่า และเป็นเครื่องมือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารระหว่างคนทั้งสองกลุ่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น