เจ้าหน้าที่หลายหน่วยที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบแกรนด์แคนยอน ก่อนเรียกประชุมหารือร่วมกัน โดยมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุครั้งล่าสุด พร้อมดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สถานที่ ซึ่งเปิดกิจการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ด้านท่องเที่ยวและกีฬาฯ ลั่นสั่งปิดไปก่อนจนกว่าจะมีมติคณะกรรมการจังหวัดฯ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ก.ย.59 พ.ต.อ.ปรีชา วิมลไชยจิต รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายสุธน วิชัยรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงใหม่ , นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช นายอำเภอหางดง , นายสมหวัง บุญระยอง โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด , นายธนา นวลปลอด หัวหน้างานยุทธศาสตร์สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเดินทางเข้าดำเนินการตรวจสอบ บ่อแกรนด์แคนยอน ซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 244 ม.3 บ้านแพะขวาง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ หลังกรณีเกิดเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ทาง พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อช่วงสายวานนี้ โดยในการลงตรวจวันนี้ ทางคณะได้เข้าทำการพูดคุยหารือกับทาง นายฉัตรกรินทร์ ตระกูลอินสัน อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าว เพื่อรับฟังข้อมูลของพื้นที่ และหารือแนวทางในการป้องกันอันตรายที่เกิดจากการเปิดพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากที่ผ่านมานั่นมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวและเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง ซึ่งระหว่างการประชุมหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการปิดสถานที่จนกว่าคณะกรรมการจะมีการประชุมและพิจารณาให้ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปรีชา วิมลไชยจิต รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการรวบรวมสภาพพื้นที่ของจุดท่องเที่ยวแห่งนี้ โดยการท่องเที่ยวมีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด แต่เมื่อมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น หรือเหตุอันตราย ก็จะต้องมีระเบียบการปฏิบัติกำหับ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสถานที่แห่งนี้ยังไม่มีใบอนุญาต และระเบียบในการบังคับใช้ที่ชัดเจน แต่ในส่วนของคดีความนั้นก็จะต้องแยกออกไปอีกส่วนหนึ่ง ส่วนการดำเนินการในพื้นนั้นก็จะต้องนำเสนอกับทางที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง
ในส่วนของการดำเนินการด้านคดีความนั้น ล่าสุดทางผู้กำกับ สภ.หางดง ได้รับคดีไว้แล้วซึ่งเป็นเรื่องของความประมาท โดยจากการตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุจะเห็นว่าบุคคลเสียชีวิตนั้นได้กระโดดลงไปก่อน แล้วมีเพื่อนโดดตามไปทันทีทำให้ร่างกายไปกระแทกกัน ทำให้หมดสติและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แล้วจมน้ำเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งขณะที่เกิดเหตุก็มีทางเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของสถานที่พยายามจะช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันการ ซึ่งตรงจุดนี้ก็ได้มีการรับคดีและแจ้งดำเนินการในเรื่องของความประมาทไปแล้ว พร้อมทั้งจะได้มีการรวบรวมหลักฐาน และดำเนินการสอบปากคำกับทางผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอยู่ จึงได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งในวันนี้
ขณะที่ทางด้าน นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช นายอำเภอหางดง กล่าวว่า หลังจากการดำเนินการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งการรับฟังข้อคิดเห็นต่างๆ จากทุกฝ่ายในวันนี้ เบื้องต้นจะได้นำข้อสรุปเพื่อไปดำเนินการประชุมร่วมกับทางคณะกรรมการชุดใหญ่ของจังหวัดอีกครั้งว่าจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตามในการหารือครั้งนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาที่แน่ชัดเนื่องจากจะต้องรอประชุมร่วมกับทางคณะกรรมการชุดใหญ่โดยมีทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุม ส่วนการดำเนินการลงโทษหรือคำสั่งต่างๆ นั้นก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม เนื่องจากทางอำเภอไม่สามารถที่จะเสนอได้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับทางคณะกรรมการจังหวัดที่จะพิจารณาให้เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการก็ต้องการดำเนินการให้ถูกกฎหมายอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อกฎหมายที่ควบคุมในเรื่องนี้โดยตรงและชัดเจน
ด้าน นายสมหวัง บุญระยอง โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด กล่าวว่า สำหรับสถานที่แห่งนี้จากการพูดคุยหารือและตรวจสอบกับทางเจ้าของผู้ประกอบการนั้นพบว่า ยังไม่เข้าข่าย พ.ร.บ. ว่าด้วยเครื่องเล่น เนื่องจาก พ.ร.บ. เครื่องเล่นนั้นจะมีส่วนที่ควบคุมอยู่ ประกอบกับสถานที่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทำให้การดำเนินการทางกฎหมายไม่ได้ จึงต้องมีการหารือและวางมาตรการกับทางปกครองเพื่อให้สามารถควบคุมระบบการเล่นเครื่องเล่นทางธรรมชาติให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด โดยจะมีคณะกรรมการชุดพิจารณาของทางจังหวัดดำเนินการในส่วนนี้
ทางด้าน นายสุธน วิชัยรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงใหม่ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มีหน้าที่ คือการควบคุม และส่งเสริม โดยการควบคุมนั้นจะมีคณะกรรมการเพื่อติดตาม กำกับ และตรวจสอบพื้นที่ที่มีความเสี่ยง รวมทั้งความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวโดยคณะกรรการชุดดังกล่าว มีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน และทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์หรือสถานที่ท่องเที่ยวแห่งไหนที่มีความเสี่ยงต่อนักท่องเที่ยว ก็จะต้องมีการนำเรื่องเข้าไปยังคณะกรรมการชุดดังกล่าวเพื่อให้มีการพิจารณา และอีกส่วนคือการส่งเสริม ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการส่งเสริมให้แหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งมาขึ้นทะเบียนกับทางสำนักทะเบียนและธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้เมื่อขึ้นทะเบียนเสร็จจะสามารถทำประกันกับทางบริษัท เพื่อป้องกันกรณีที่นักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุก็สามารถที่จะใช้ประกันในการรักษาพยาบาลได้ อย่างเช่นค่ารักษาพยาบาลอาจจะ 500,000 บาท หรือกรณีที่เสียชีวิตก็ต้องจ่ายเงิน 1,000,000 บาท ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระของทางผู้ประกอบการในส่วนนี้ด้วย
ทั้งนี้ในเบื้องต้นการดำเนินการส่วนนี้จะมีเจ้าหนาที่ฝ่ายกฎหมายเข้าไปดำเนินการตรวจสอบก่อน เพื่อให้เกิดความมั่นใจด้านความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวถ้าไม่พบปัญหาก็จะส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีความปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องยื่นเรื่องเพื่อให้พิจารณาต่อไป โดยจะต้องมีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายมาแสดงกับทางเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันในส่วนของสถานที่แห่งนี้ เบื้องต้นหลังจากมีการลงตรวจสอบ และพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในพื้นทีทราบว่า ได้มีการออกคำสั่งให้ดำเนินการปิดการให้บริการและสถานที่ไปก่อนจนกว่าจะมีมติเห็นชอบในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปขอคณะกรรมการ
กมล เครือนิล สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน