กรมทางหลวง เปิดใช้ทางลอดฟ้าฮ่าม และสะพานข้ามน้ำปิง "ขัวสรีเวียงพิงค์" จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด และอำนวยความสะดวกในการใช้รถใช้ถนนแก่ประชาชน รวมทั้งมีปลอดภัยในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น
วันที่ 9 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดทางลอด "ฟ้าฮ่าม" และสะพานข้ามน้ำ "ขัวสรีเวียงพิงค์" ณ บริเวณจุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวง หมายเลข 1001 (สามแยกแม่โจ้) จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรรอบเมืองเชียงใหม่และพื้นที่คอขวดบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิง กรมทางหลวงจึงได้มีการก่อสร้างทางลอดแห่งนี้ รวมทั้งขยายและก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปิง โดยรูปแบบทางลอดและสะพานออกแบบให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนา เช่น โคมไฟ หอซุ้ม ราวสะพาน รวมถึงลานใต้สะพานเพื่อจัดกิจกรรมของชุมชนในงานประเพณีต่าง ๆ
ด้าน นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ทางหลวงหมายเลข 11 ตอน อินทร์บุรี-เชียงใหม่ เป็นทางหลวง แผ่นดินสายหลักเชื่อมการคมนาคมระหว่างจังหวัดภาคกลางกับภาคเหนือด้านตะวันออกและภาคเหนือ ด้านตะวันตก ซึ่งการก่อสร้างเส้นทางสู่ภาคเหนือได้ก่อสร้างช่วงเชียงใหม่-ลําปางเป็นช่วงแรก มีขนาด 2 ช่องจราจร ต่อมาได้รับการขยายให้มีขนาด 4 ช่องจราจร ไป-กลับ นับเป็นทางหลวงสายหลักในการ เดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีความสําคัญในการเดินทางของประชาชน ใช้ในการขนส่งสินค้าการเกษตร และสินค้าพื้นเมือง รวมทั้งเป็นเส้นทางในการเดินทางไปสู่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ และถือเป็นถนนวงแหวนรอบในของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งกรมทางหลวงได้ก่อสร้างทางลอดที่บริเวณจุดตัดกับทางหลวงอื่นๆ ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่แล้วหลายแห่ง ซึ่งทางลอดฟ้าฮ่ามนี้ถือเป็นทางลอดอีกแห่งหนึ่งที่กรมทางหลวงได้ดําเนินการก่อสร้าง ตั้งอยู่ในบริเวณจุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 11 กับ ทางหลวงหมายเลข 1001 (สามแยกแม่โจ้) อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ใกล้แหล่งชุมชนที่มีประชาชน อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จึงทําให้ปริมาณการจราจรติดขัดตลอดแนวทุกทิศทาง โดยเฉพาะในเวลาชั่วโมง เร่งด่วน หรือช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทําให้เกิดการสูญเสียเวลาและสิ้นเปลืองทางด้านเศรษฐกิจ จึงได้ก่อสร้างทางลอด และสะพานข้ามน้ำปิงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
สำหรับ งานก่อสร้างทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับ ทางหลวงหมายเลข 1001 หรือทางลอดฟ้าฮ่าม แบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ งานทางลอด ก่อสร้างตามแนวทางหลวงหมายเลข 11 เป็นทางขนาด 6 ช่องจราจร ไป-กลับยาว 533 เมตร และ กว้าง 31 เมตร งานก่อสร้างและขยายความกว้างสะพานข้ามแม่น้ำปิง จาก 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร ความยาว 140 เมตร และ ก่อสร้างสะพานคู่ขนาน ขนาด 2 ช่องจราจร ด้านซ้ายทางและ ขวาทางของสะพานเดิม ความยาว 160 เมตร รวมงานบันไดเชื่อมต่อทางเท้าสะพาน จํานวน 4 แห่ง งานก่อสร้างและขยายทางหลวงหมายเลข 11 โดยขยายช่องจราจรในทางหลัก จาก 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร รวมทั้งก่อสร้างและขยายทางคู่ขนานอย่างน้อย 3 ช่องจราจร โดยก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ ในวงเงิน ค่าก่อสร้าง 1,172,771,000 บาท (หนึ่งพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาท) โดยได้รับการเสนอชื่อทางลอดว่า ฟ้าฮ่าม และ ชื่อสะพานข้ามแม่น้ำปิง คือ ขัวสรีเวียงพิงค์ (ขัว-สะ-หรี-เวียงพิง) เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชนผู้ใช้ทางในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง โดยสามารถลดระยะเวลาในการเดินทาง ตลอดจนแก้ไขปัญหาการจราจร ในบริเวณดังกล่าว ให้ประชาชนมีความสะดวก รวดเร็ว และ ปลอดภัยในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ประปา ไฟฟ้า ได้ร่วมกันปรับ ทัศนียภาพบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิงให้ดูโดดเด่นคู่เมืองเชียงใหม่อีกด้วย
ภาพข่าวโดย ณัฏฐ์ สินันตา / ส.ปชส.เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น