<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 01 เมษายน 2567 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

12 มิ.ย. 2561

ผบ สูงสุดตรวจเยี่ยมการดำเนินการขุดลอกคลองแม่ข่า



ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และติดตามความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยคาดว่าภายในปีนี้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าได้เป็นผลสำเร็จ

  เมื่อวันที่11 มิถุนายน 2561 เวลา 08.00 น. พล.อ.ธารไชยยันต์  ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และติดตามความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ บริเวณศูนย์แหนบเชียงใหม่ ซอย BIS 24 รีสอร์ท เขตชุมชนศรีมงคล ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้มีการดำเนินการโดยใช้กำลังพล และเครื่องจักรกลจากกองบัญชาการกองทัพไทย โดยสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ร่วมกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่ และหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่ ดำเนินการขุดลอกและปรับปรุงฟื้นฟูสภาพคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขา
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการอนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแม่ข่า ซึ่งเป็นคลองธรรมชาติที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็น 1 ใน 7 ชัยมงคลของการสร้างเมืองเชียงใหม่เมื่อปี พ.ศ.1839 มีแหล่งต้นน้ำมาจากลำห้วยธรรมชาติของเทือกเขาดอยสุเทพ – ปุย คลองแม่ข่ามีความยาวประมาณ 30 กิโลเมตร ไหลผ่านพื้นที่ครอบคลุม 3 อำเภอ คือ อำเภอแม่ริม อำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอหางดง โดยสภาพปัจจุบันของคลองแม่ข่าอยู่ในสภาพวิกฤติ ทั้งในด้านปัญหาคุณภาพน้ำที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ริมฝั่งคลอง ปัญหาปริมาณน้ำต้นทุนที่สะอาดโดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาคลองแม่ข่า และจากการประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่จึงขอความอนุเคราะห์จากกองบัญชาการกองทัพไทย ในการขุดลอกและปรับปรุงฟื้นฟูสภาพคลองแม่ข่า โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ให้การสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ให้การสนับสนุนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมขอรับการสนับสนุนกำลังพล และเครื่องจักรกลจากกองบัญชาการกองทัพไทย โดยสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ ขุดลอกและปรับปรุงฟื้นฟูสภาพคลองแม่ข่า
สำหรับ สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ดำเนินการเข้าสำรวจพื้นที่คลองแม่ข่า พบว่าการแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องดำเนินการขุดลอกคลองแบ่งออกเป็น 4 ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ 1 กิโลเมตรที่ 0 + 000 ถึง 5+ 500 เป็นคลองธรรมชาติ ตั้งแต่ ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยการดำเนินการ สำนักงานพัฒนาภาค 3 ได้จัดชุดปฏิบัติงานช่าง โดยมีกำลังพล ยานพาหนะ และเครื่องจักรกลเข้าปฏิบัติงาน ซึ่งทางเทศบาลจังหวัดเชียงใหม่ ให้การสนับสนุนน้ำมันเชื่อเพลิงในการดำเนินการ ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 3,500 เมตร ช่วงที่ 2 กิโลเมตรที่ 5+500 ถึง 8 +250 เป็นคลองคอนกรีตเสริมเหล็กตั้งแต่ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ถึง ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง อยู่ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยการดำเนินการใช้งบประมาณของ กองบัญชาการกองทัพไทย ช่วงที่ 3 กิโลเมตรที่ 8 +250 ถึง 10+ 200 เป็นคลองธรรมชาติ ตั้งแต่ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง ถึง ถนนมหิดล อยู่ในพื้นที่ เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยการดำเนินการ ใช้งบประมาณของกองบัญชาการกองทัพไทย ช่วงที่ 4 กิโลเมตรที่ 10 +200 ถึง 14+00 ระยะทาง 3,800 เมตร ตั้งแต่ถนนมหิดล ถึงประตูน้ำดอนชัย อยู่ในพื้นที่ เทศบอลตำบลป่าแดด การดำเนินการของกองบัญชาการกองทัพไทย โดยสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สนับสนุนเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกล เทศบาลตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ให้การสนับสนุนน้ำมันเชื่อเพลิงในการดำเนินการ
ด้าน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า เป็นไปด้วยดีและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน โดยการดำเนินงานของกองบัญชาการกองทัพไทย มีการวางแผนในการทำงานทุกขั้นตอน ซึ่งคาดว่าในส่วนที่รับผิดชอบในพื้นที่ตอนกลางอีกประมาณหนึ่งเดือนน่าจะแล้วเสร็จ และในช่วงเขตรับผิดชอบพื้นที่ป่าแดด และคาดว่าภายในปีนี้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าได้เป็นผลสำเร็จ โดยส่วนของการเตรียมการแก้ไขและรองรับปัญหาอุทกภัยในพื้นที่นั้น ก็ได้มีการเน้นย้ำตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในการเตรียมการให้ทุกหน่วยมีความพร้อม ดังนั้นในปี้นี้จะมีการแก้ไขจุดอ่อน เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างกว้างขวางมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น