✅ CM-UPDATE-NEWS ✅ : ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี
วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น.
ตามนโยบายรัฐบาล สั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บูรณาการ
แก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์, พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์หลักบุญเลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ มทภ.3 ได้รับบัญชาและข้อสั่งการนำไปสู่การปฏิบัติ
ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร,พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์, พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5,พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง และ พล.ต.ต.พงษ์เดช คำใจสู้ผบก.ภ.จว.แพร่ ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 โดย พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน มทน.3/ผบ.นบ.ยส.35ฝ่ายปกครอง โดย นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.ลำปางนายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผวจ.แพร่สำนักงาน ปปส.ภาค 5 โดย นายธันวา ผุดผ่อง ผอ.ปปส.ภาค 5
แถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี
1. กรณี สภ.สบปราบ จว.ลำปาง จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 6,000,000 เม็ด
2. กรณี สภ.ห้วยไร่จว.แพร่ ตรวจยึดของกลางยาบ้าจำนวน 996,000 เม็ด
รวมของกลางยาบ้าจำนวน 6,996,000 เม็ด
คดีที่ 1 สืบเนื่องเมื่อวันที่ 4 มี.ค.68 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ
ได้รับแจ้งจากสายลับ(ขอปิดนาม) ว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่านพื้นที่ของ อ.สบปราบโดยจะใช้เส้นทางผ่านด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และได้สั่งการให้เฝ้าสืบสวนติดตามตรวจดูรถตามที่ได้รับแจ้งต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันเดียวกัน มีรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บว 1067 กำแพงเพชรขับเข้ามายังด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ ซึ่งมีลักษณะตรงกับที่สายลับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคัดกรองรถจึงให้สัญญาณชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อทำการขอตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบนายฐานพัฒน์ อายุ 38 ปี เป็นผู้ขับขี่ จากการสอบถามทราบว่าจะเดินทางไป จว.กำแพงเพชร ขณะที่ทำการตรวจพบความผิดปกติเนื่องจาก นายฐานพัฒน์ ได้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ติดต่อสื่อสารกับบุคคลอีกคนหนึ่งค้างไว้ ซึ่งเชื่อได้ว่ามีการลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมาย และจึงได้ทำการขอตรวจค้นตัวนายฐานพัฒน์และรถคันดังกล่าว ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายใด ๆ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พร้อมพวกได้แบ่งกำลังออกตรวจสอบตามเส้นทางที่คาดว่า รถเป้าหมายจะจอดหลบจนเดินทางมาถึง ปั้มน้ำมัน ปตท.สาขาสบปราบ จว.ลำปาง ได้พบรถบรรทุก 6 ล้อ ตู้ทึบ ทะเบียน 700-4340 กทม.จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ พบนายนันท์นลิน อายุ 27 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของรถ/ผู้ขับขี่ เมื่อสอบถามทราบว่าจะเดินทางไปจว.ลำปาง และขณะสอบถามแสดงอาการมีพิรุธ ลุกลี้ลุกลน พูดจาวกวนไปมาคล้ายลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายมาด้วยจากการตรวจสอบเส้นทางเดินรถโดยละเอียดทราบว่าได้ขัดแย้งกัน และจากการซักถาม นายนันท์นลิน ผู้ขับขี่ โดยละเอียดได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้รับจ้างบรรทุกสิ่งของจาก จว.ลำพูน ไปส่งปลายทาง จว.อ่างทอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เชิญตัวนายนันท์นลิน พร้อมนำรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าว มาที่ด่านตรวจยาเสพติด สภ.สบปราบ เพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียดก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ให้นายนันท์นลิน เป็นที่เรียบร้อยและให้ความยินยอม
ผลการตรวจค้นพบเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) จำนวนรวมประมาณ 6,000,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา และนำของกลางทั้งหมด นำส่ง พงส.สภ.สบปราบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
คดีที่ 2 สืบเนื่องเมื่อวันที่ 5 มี.ค.68 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด ได้รับคำสั่งจาก
ผู้บังคับบัญชาให้ตั้งจุดตรวจสกัดกั้นยาเสพติด ณ บริเวณหน้าด่านตรวจเอกซเรย์ห้วยไร่ต่อมาเวลาประมาณ 15.20 น. ได้มีนายธีระพลฯ อายุ 28 ปี ผู้ขับขี่ รถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 70-5070 พะเยาได้มาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่นำรถเข้าอุโมงค์เอกซเรย์เนื่องจากเกิดความสงสัยว่า
สิ่งของที่บรรทุกมา จากผู้ว่าจ้างใน อ.แม่สาย จว.เชียงราย และต้องนำไปส่งยังพื้นที่ปลายทาง จว.พัทลุง อาจเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย ผลการตรวจพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องเกียร์รถยนต์และถังปั้มลม วางอยู่บริเวณท้ายรถบรรทุก รวมยาเสพติดจำนวน 996,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่ง พงส.สภ.ห้วยไร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
ตำรวจภูธรภาค 5 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้นำบัญชาและข้อสั่งการของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดไม่ให้เข้าไปสู่พื้นที่ตอนในอย่างเข้มข้นและจริงจัง และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น