<<<<<..... ลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ ( 20 มกราคม 2568 ) เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ....อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส   บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.  กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" สำนักข่าว เชียงใหม่ อัปเดตนิวส์ รายงาน. แหล่งที่มาของข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา - https://www.tmd.go.th/thailand.php .....................................................>>>>

1 มิ.ย. 2568

✅ CM-UPDATE-NEWS ✅ : วธ.ปักหมุดเที่ยวชมมนต์เสน่ห์ล้านนา “ชุมชนวัดศรีสุพรรณ” สุดยอดชุมชนยลวิถียลศิลป์อุโบสถเงิน เครื่องเงินวิจิตร แอ่วถนนคนเดินวัวลาย สัมผัสกลิ่นอายล้านนา เรียนรู้งานศิลป์ ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง ต่อยอดเศรษฐกิจท้องถิ่นและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

 

 ✅  CM-UPDATE-NEWS ✅ :วธ.ปักหมุดเที่ยวชมมนต์เสน่ห์ล้านนา “ชุมชนวัดศรีสุพรรณ” สุดยอดชุมชนยลวิถียลศิลป์อุโบสถเงิน เครื่องเงินวิจิตร แอ่วถนนคนเดินวัวลาย สัมผัสกลิ่นอายล้านนา เรียนรู้งานศิลป์
ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง ต่อยอดเศรษฐกิจท้องถิ่นและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

  วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดชุมชนวัดศรีสุพรรณ 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ ชุมชนวัดศรีสุพรรณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระครูพิทักษ์สุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผศ.ว่าที่ ร.ต.ดรณ์ สุทธิภิบาล ประธานคลัสเตอร์เครื่องเงินวัวลาย นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ชาวชุมชนวัดศรีสุพรรณ สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม โดยกิจกรรมภายในงานมีการฟ้อนต้อนรับ การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดง โดยวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตลาดช้อปสินค้าวัฒนธรรม สินค้าชุมชนมากมาย
  โดยก่อนพิธีเปิด ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เยี่ยมชมอัตลักษณ์ชาวชุมชนวัดศรีสุพรรณ “ตอกดุนลายแผ่นโลหะ” และเปิดป้ายพิพิธภัณฑ์หอศิลป์ล้านนา ณ บ้านพ่อครูดิเรก สิทธิการ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ พ.ศ. 2565             ครูภูมิปัญญาสาขาอุตสาหกรรมและหัตถกรรม (สล่าดุนโลหะ) ตลอดจนเยี่ยมชมภายในพิพิธภัณฑ์หอศิลป์ล้านนา พร้อมกันทั้งร่วมตอกดุนลายพวงกุญแจที่ระลึกและมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดสลักดุน 6 ราย           เพื่อแสดงความยินดีและเป็นขวัญกำลังใจในการสืบสานงานศิลปะล้านนาอีกด้วย
  ปลัด วธ. กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนวัดศรีสุพรรณ ชุมชนที่ประจักษ์พร้อมด้วยศักยภาพและความเข้มแข็งของคนในชุมชนในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม สอดคล้องนโยบาย วธ.ที่มุ่งนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชนมาพัฒนาต่อยอด สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ             ผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ซึ่งชุมชนวัดศรีสุพรรณมีจุดเด่นด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนา                วิถีชุมชน และหัตถกรรมเครื่องเงินอันเลื่องชื่อ โดยชุมชนวัดศรีสุพรรณตั้งอยู่บนถนนวัวลายถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชีวิต โดยมีอุโบสถเงิน เป็นอุโบสถที่สร้างจากเงินและโลหะแห่งแรกของโลกเป็นจุดเด่นสำคัญ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาเยี่ยมชมความงดงามของสถาปัตยกรรมล้านนา
  ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำเครื่องเงิน การเวียนเทียน ในคืนวันเสาร์และเวิร์กช็อปดุนลายที่เปิดสอนโดยช่างฝีมือในชุมชน รวมถึงร่วมพิธีสืบชะตาแบบล้านนา อันเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน นอกจากนี้มีตลาดวัฒนธรรมถนนคนเดินวัวลายที่รวบรวมสินค้าทำมือ เช่น เครื่องประดับ เครื่องเขิน และงานศิลปะพื้นบ้าน รวมถึงอาหารท้องถิ่นอย่างข้าวซอย ไส้อั่ว แกงฮังเล และขนมไทยพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองอย่างจุใจ
“จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวด้วยความงดงามของธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมและความเป็นเอกลักษณ์ของล้านนา อีกทั้งรายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรมมากมาย เช่น วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดสวนดอก วัดโลกโมฬี รวมถึงพิพิธภัณฑ์หอศิลป์ล้านนาและบ้านพ่อครูดิเรก สิทธิการ ศิลปินแห่งชาติด้านการทำเครื่องเงิน จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมเปิดประสบการณ์ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ที่ชุมชนวัดศรีสุพรรณ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน และช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น”
.



















30 พ.ค. 2568

✅ CM-UPDATE-NEWS ✅ : พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงฯ พร้อมทีมอาสา ลุยน้ำท่วมบ้านแม่กุ้งน้อย แจกน้ำดื่ม–อาหารสัตว์ บรรเทาทุกข์พี่น้องชาวสันป่าตอง

 

✅  CM-UPDATE-NEWS ✅ : พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงฯ พร้อมทีมอาสา ลุยน้ำท่วมบ้านแม่กุ้งน้อย แจกน้ำดื่ม–อาหารสัตว์ บรรเทาทุกข์พี่น้องชาวสันป่าตอง
 วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญูเชียงใหม่ และสมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังใจและแจกจ่ายน้ำดื่มแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่บ้านแม่กุ้งน้อย หมู่ที่ 8 ตำบลทุ่งต้อม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
ท่ามกลางระดับน้ำที่ยังท่วมขังในหลายพื้นที่ของอำเภอสันป่าตอง คณะสงฆ์นำโดยพระครูอ๊อด พร้อมทีมอาสาสมัคร ได้ลงพื้นที่โดยใช้เรือลากเสบียง น้ำดื่ม และอาหารเม็ดสำหรับสุนัขและแมว เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับผลกระทบ โดยได้รับการต้อนรับด้วยความซาบซึ้งจากชาวบ้านที่ต่างพากันยกมือไหว้ “อนุโมทนา” ไปตามๆ กัน
พระครูอ๊อด กล่าวว่า บ้านแม่กุ้งน้อยเป็นพื้นที่รับน้ำแห่งแรกของตำบลทุ่งต้อม และขณะนี้ถูกน้ำท่วมต่อเนื่องเป็นวันที่สามแล้ว ทำให้น้ำเริ่มมีกลิ่นและส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน “การได้มามอบกำลังใจถึงพื้นที่ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ในช่วงวิกฤติ สิ่งนี้มีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่กำลังเดือดร้อน” พระครูอ๊อด กล่าว
แม้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจุดของอำเภอสันป่าตองจะเริ่มคลี่คลาย แต่บ้านแม่กุ้งน้อยซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังคงมีน้ำท่วมขังในหลายจุด ทั้งบริเวณบ้านเรือนและสวนลำไยที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของชาวบ้าน โดยพระครูอ๊อดได้ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีจิตศรัทธา ให้ร่วมบริจาคสิ่งของที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง และอุปกรณ์ซ่อมแซม เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับชุมชนที่ยังรอการฟื้นฟูหลังน้ำลด
“เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย สิ่งที่ตามมาคือภารกิจการเก็บกวาด ซ่อมแซม และฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งยังต้องใช้เวลาและแรงสนับสนุนจากทุกภาคส่วน” พระครูอ๊อด กล่าวทิ้งท้าย
.
#เชียงใหม่วันนี้ #ข่าวเชียงใหม่ #ที่นี่เชียงใหม่
.




















29 พ.ค. 2568

✅ CM-UPDATE-NEWS ✅ : นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” นำทัพตำรวจลุยเดือด ปราบยาเสพติดทั่วประเทศ ยึดยาบ้า 29.93 ล้านเม็ด ไอซ์และคีตามีน 4,443 กิโลกรัม และเฮโรอีน 126 กิโลกรัม ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,900 ล้านบาท ล่าถึงทรัพย์!

 

✅  CM-UPDATE-NEWS ✅ : นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” นำทัพตำรวจลุยเดือด ปราบยาเสพติดทั่วประเทศ ยึดยาบ้า 29.93 ล้านเม็ด ไอซ์และคีตามีน 4,443 กิโลกรัม และเฮโรอีน 126 กิโลกรัม ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,900 ล้านบาท ล่าถึงทรัพย์!

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ว่าปัญหายาเสพติดถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย  รัฐบาลจึงได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ครอบคลุม และเป็นระบบ  ทั้งการตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ด้วยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงการปราบปรามจับกุมผู้ค้า และการยึดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้กระทำผิดรายสำคัญ พร้อมทั้งมีระบบฟื้นฟูและติดตามผู้เสพ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับเข้าสู่วงจรอีก และเพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพเกิดผลในทางปฏิบัติ รัฐบาลได้ผลักดัน ยุทธศาสตร์ SEAL – STOP – SAFE อย่างเข้มข้น โดย SEAL: ปิดล้อมพื้นที่ต้นทาง สกัดยาไม่ให้ทะลักเข้าไทย/ STOP: หยุดยั้งการแพร่ระบาดในประเทศ โดยกวาดล้างผู้ค้าอย่างเด็ดขาด/ SAFE: ทำให้ชุมชนปลอดภัย ลูกหลานไทยห่างไกลยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สนองนโยบายดังกล่าวทันที พร้อมเปิดยุทธการเชิงรุกปราบปรามยาเสพติดแบบเข้มข้นทั่วประเทศ ปิดล้อม–บุกจับ–ขยายผล-ยึดทรัพย์ ทั้งคน ทั้งเส้นทางการเงิน ทั้งทรัพย์สิน ไม่มีละเว้น!

ล่าสุดวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแถลงผลการปฏิบัติ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร./ประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส. รวมถึง ผบก.ในสังกัด เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน ที่ผ่านมา (1 เม.ย. – ปัจจุบัน) หลังจากการเปิดปฏิบัติการ SEAL – STOP – SAFE กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เดินหน้า ปิดล้อม–บุกจับ–ขยายผล-ยึดทรัพย์ เครือข่ายรายสำคัญได้กว่า 31 คดี ผู้ต้องหา 34 คน ยึดยาบ้า 29.93 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 126 กิโลกรัม, ไอซ์และคีตามีน 4,443 กิโลกรัม ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,900 ล้านบาท ยุทธการเชิงรุกในการสกัดกั้นและขยายผลการปราบปรามยาเสพติดในครั้งนี้ รายละเอียด ดังนี้ 
- สกัดกั้นจากชายแดนภาคเหนือ 10 คดี ผู้ต้องหา 17 คน ของกลาง ยาบ้ากว่า 29.93 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 70 กิโลกรัม, ไอซ์และคีตามีน 2,476 กิโลกรัม 
- สกัดกั้นจากชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 คดี ผู้ต้องหา 8 คน ของกลาง ไอซ์ 697 กิโลกรัม 
- สกัดกั้นในพื้นที่ภาคใต้ไม่ให้ผ่านไปยังประเทศที่สาม 4 คดี ผู้ต้องหา 9 คน ของกลาง ไอซ์ 1,132 กิโลกรัม 
- สกัดกั้นลักลอบลำเลียงยาเสพติด ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ปลายทาง ได้แก่ ออสเตรเลีย, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และกินี ตามโครงการ AITF 15 คดี ของกลาง ไอซ์ 137.68 กิโลกรัม และ เฮโรอีน 57.26 กิโลกรัม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลเปิดปฏิบัติการ “SEAL-STOP-SAFE” เมื่อ                 1 ก.พ.68 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เพิ่มความเข้มในการสกัดกั้นจับกุมในพื้นที่ชายแดน โดยให้ทุกหน่วยเปิดปฏิบัติการบุกทะลวงเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญแบบไม่ให้ตั้งตัว เข้าถึงเป้าหมายอย่างเฉียบขาด ทลายจุดพักยา และเส้นทางลำเลียงอย่างเด็ดขาด พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรู บ้านพักหรู เงินสด ทองรูปพรรณ หรือทรัพย์สินที่ซุกซ่อนในรูปแบบซับซ้อน ทุกชิ้นถูกกวาดล้างอย่างไม่ปรานีและไม่มีหลุดรอดแม้แต่รายการเดียว ปฏิบัติการนี้สอดรับนโยบายอย่างเข้มข้น  และที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ “จับคนผิด” แต่ไล่ล่าทุกเส้นทางการเงิน ขยายผลถึงทรัพย์สิน ดำเนินการยึด อายัด และฟ้องร้องตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่มีละเว้น ไม่มียกเว้น!  ทำให้มีผลการจับกุมและยึดทรัพย์สิน “เพิ่มขึ้นทุกมิติ” เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และผลการปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (7 เดือน) 
-ปิดล้อมตรวจค้น 25,745 เป้าหมาย, 6,549 เครือข่าย จับกุมผู้ค้ารายย่อย 34,563 คน ยึดยาบ้า 152 ล้านเม็ด, ไอซ์ 13,335 กิโลกรัม, อาวุธปืน 1,798 กระบอก, ระเบิด 4 ลูก และยึดทรัพย์สิน 2,795 ล้านบาท 
-จับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกข้อหาทั่วประเทศ 158,832 คดี  ผู้ต้องหา 157,881 คน จับกุมตามหมายจับ 3,899 คน ดำเนินคดีข้อหาสมคบ สนับสนุน 2,338 คดีข้อหาฟอกเงิน 181 คดี ของกลางยาเสพติด ยาบ้า 645.93 ล้านเม็ด, ไอซ์ 34,223 กก., เฮโรอีน 938 กก., คีตามีน 4,471 กก. และยาอี 271,329 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 8,064 ล้านบาท  พร้อมทั้งได้สั่งการให้ขยายผลถึงระดับเครือข่ายและผู้สั่งการ ถือเป็นสัญญาณเตือนแรง! ถึงกลุ่มค้ายาที่ยังเหลืออยู่ว่า “ไม่มีที่ยืนในแผ่นดินไทย!”  

ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติดได้ โดยหากพบเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง