รถฟอร์ด เฟสต้าป้ายแดงถูกเด็กรับล้างรถขโมยหลบหนี "ดาบตำรวจ" ควงลูกชายออกแรงตระเวนตามหาจนเจอรถที่หายจอดอยู่แฟลตประชาสงเคราะห์ย่านดินแดง แต่พอจะไปเปิดประตูรถกลับเจอคนร้ายนอนเฝ้า และตกใจรีบขับรถหนีการจับกุม จนรถได้รับความเสียหาย สุดท้ายได้รถป้ายแดงคืน แต่คนร้ายหลบหนีไปได้
วันนี้ (30 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ขณะที่พ.ต.ท.กิตติ บุญเสน สวป.สน.บางซื่อ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณ ถ.วิภาวดี ตัดแยกสุทธิสาร ขาออก แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ได้รับแจ้งให้สกัดจับกุมรถยนต์นั่งยี่ห้อฟอร์ด รุ่น เฟสต้า ป้ายแดง ทะเบียน ณ 8311 กรุงเทพ ซึ่งถูกขโมยมาสภาพรถมีรอยเฉี่ยวชนบริเวณกระจกมองข้างซ้าย และยางหน้าซ้ายแตก
โดยพบว่าคนร้ายขับรถหลบหนีเข้าไปบริเวณ ซ.เล่งโก จึงขับรถติดตามไปจนถึงบริเวณกลางซอยเห็นรถคันดังกล่าว จอดทิ้งอยู่ ส่วนคนร้ายหลบหนีไป ต่อมาพบว่า ด.ต.วัชรินทร์ สอนใจ ผบ.หมู่สายตรวจ สน.พลับพลาไชย 2 ซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าของรถได้ติดตามมาถึงบริเวณดังกล่าว
จากการสอบถาม ด.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า รถคันดังกล่าวเป็นของ น.ส.ลีลาวดี สอนใจ อายุ 22 ปี นักศึกษา ม.หอการค้าไทย ซึ่งเป็นลูกสาวของตนเอง ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 เม.ย.) ก่อนเข้าเรียน ลูกสาวได้นำรถคันที่ถูกขโมยไปล้างที่อู่ล้างรถที่อยู่บริเวณหลังม.หอการค้า เมื่อเลิกเรียนและกลับไปเอารถที่ร้านก็พบว่ารถหายไป จึงสอบถามทางร้านมีคนเห็นว่าเด็กล้างรถเพิ่งมาทำงานได้ไม่กี่วันเป็นคนขับรถของลูกสาวออกไปจากร้าน จากนั้นลูกสาวได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.สุทธิสาร
ด.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุตนต้องเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ที่สน.พลับพลาไชย 2 ลูกสาวจึงยังไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อออกเวรช่วงเช้าและทราบเรื่อง ตนจึงไปที่อู่ล้างรถ และสอบถามด้วยตนเองจนทราบชื่อเด็กล้างรถ คนนั้นว่าคือ นายไชยา พรหมฤทธิ์ อายุ 17ปี อยู่บ้านเลขที่ 26หมู่9 ต.โพธิ์ชัย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด จากนั้นตนจึงตัดสินใจขับรถออกตระเวนหารถลูกสาวที่ถูกขโมย พร้อมกับลูกชาย จนไปพบรถของลูกสาวจอดอยู่ที่บริเวณแฟลตประชาสงเคราะห์ 19 พื้นที่สน.ดินแดง
“เมื่อเห็นรถของลูกสาวที่ถูกขโมยจอดอยู่ จึงลงจากรถเพื่อเดินไปสำรวจก็เห็นคนร้ายนอนอยู่ในรถโดยเปิดกระจกแง้มไว้ จึงตัดสินใจจะเข้าไปเปิดประตูรถ จังหวะนั้นทำให้คนร้ายตื่นและรีบสตาร์รถขับหนีไป ผมพยายามวิ่งตามแต่ก็ไม่ทัน จึงเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างตามรถคันดังกล่าวไปอย่างกระชั้นชิด ซึ่งคนร้ายก็พยายามเร่งขับรถหนีจึงไปเฉี่ยวชนรถคันอื่นตลอดทางทำให้กระจกมองหน้าและยางแตก จนมาถึงบริเวณซอยเล่งโก้คนร้ายก็ได้ลงจากรถวิ่งหลบหนีไปก่อน อย่างไรก็ตามนับว่าโชคดีมากถือเป็น 1 ใน 100 ที่ตามรถจนเจอ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะถอดใจแล้ว แต่ผมสงสารลูกสาว จึงได้ออกติดตามกระทั่งพบรถ” ด.ต.วัชรินทร์ กล่าว
วันนี้ (30 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ขณะที่พ.ต.ท.กิตติ บุญเสน สวป.สน.บางซื่อ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณ ถ.วิภาวดี ตัดแยกสุทธิสาร ขาออก แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ได้รับแจ้งให้สกัดจับกุมรถยนต์นั่งยี่ห้อฟอร์ด รุ่น เฟสต้า ป้ายแดง ทะเบียน ณ 8311 กรุงเทพ ซึ่งถูกขโมยมาสภาพรถมีรอยเฉี่ยวชนบริเวณกระจกมองข้างซ้าย และยางหน้าซ้ายแตก
โดยพบว่าคนร้ายขับรถหลบหนีเข้าไปบริเวณ ซ.เล่งโก จึงขับรถติดตามไปจนถึงบริเวณกลางซอยเห็นรถคันดังกล่าว จอดทิ้งอยู่ ส่วนคนร้ายหลบหนีไป ต่อมาพบว่า ด.ต.วัชรินทร์ สอนใจ ผบ.หมู่สายตรวจ สน.พลับพลาไชย 2 ซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าของรถได้ติดตามมาถึงบริเวณดังกล่าว
จากการสอบถาม ด.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า รถคันดังกล่าวเป็นของ น.ส.ลีลาวดี สอนใจ อายุ 22 ปี นักศึกษา ม.หอการค้าไทย ซึ่งเป็นลูกสาวของตนเอง ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 เม.ย.) ก่อนเข้าเรียน ลูกสาวได้นำรถคันที่ถูกขโมยไปล้างที่อู่ล้างรถที่อยู่บริเวณหลังม.หอการค้า เมื่อเลิกเรียนและกลับไปเอารถที่ร้านก็พบว่ารถหายไป จึงสอบถามทางร้านมีคนเห็นว่าเด็กล้างรถเพิ่งมาทำงานได้ไม่กี่วันเป็นคนขับรถของลูกสาวออกไปจากร้าน จากนั้นลูกสาวได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.สุทธิสาร
ด.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุตนต้องเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ที่สน.พลับพลาไชย 2 ลูกสาวจึงยังไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อออกเวรช่วงเช้าและทราบเรื่อง ตนจึงไปที่อู่ล้างรถ และสอบถามด้วยตนเองจนทราบชื่อเด็กล้างรถ คนนั้นว่าคือ นายไชยา พรหมฤทธิ์ อายุ 17ปี อยู่บ้านเลขที่ 26หมู่9 ต.โพธิ์ชัย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด จากนั้นตนจึงตัดสินใจขับรถออกตระเวนหารถลูกสาวที่ถูกขโมย พร้อมกับลูกชาย จนไปพบรถของลูกสาวจอดอยู่ที่บริเวณแฟลตประชาสงเคราะห์ 19 พื้นที่สน.ดินแดง
“เมื่อเห็นรถของลูกสาวที่ถูกขโมยจอดอยู่ จึงลงจากรถเพื่อเดินไปสำรวจก็เห็นคนร้ายนอนอยู่ในรถโดยเปิดกระจกแง้มไว้ จึงตัดสินใจจะเข้าไปเปิดประตูรถ จังหวะนั้นทำให้คนร้ายตื่นและรีบสตาร์รถขับหนีไป ผมพยายามวิ่งตามแต่ก็ไม่ทัน จึงเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างตามรถคันดังกล่าวไปอย่างกระชั้นชิด ซึ่งคนร้ายก็พยายามเร่งขับรถหนีจึงไปเฉี่ยวชนรถคันอื่นตลอดทางทำให้กระจกมองหน้าและยางแตก จนมาถึงบริเวณซอยเล่งโก้คนร้ายก็ได้ลงจากรถวิ่งหลบหนีไปก่อน อย่างไรก็ตามนับว่าโชคดีมากถือเป็น 1 ใน 100 ที่ตามรถจนเจอ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะถอดใจแล้ว แต่ผมสงสารลูกสาว จึงได้ออกติดตามกระทั่งพบรถ” ด.ต.วัชรินทร์ กล่าว
อ้างอิงข่าว ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น