ประธานชมรมรักวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ นายเฉลิม สารแปง ยื่นหนังสื่อต่อนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ทางหน่วยงานราชการจังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนการจัดงานประเพณียี่เป็งเมืองเชียงใหม่ อนุญาตให้มีการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน ผู้ว่าย้ำ ไม่ได้ห้ามแต่ต้องปฎิบัติตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 6 ต.ค.2560 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเฉลิม สารแปง ประธานชมรมรักวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายพิพานพง วงค์วัจนสุนทร ผู้ทรงคุณวุฒิสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่,พ.จ.ท.สาคร ปีกอง ผู้จัดการงานควบคุมจราจรทางอากาศยาน(เขตประชิดสนามบินภูมิภาค)ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และคณะ ได้เข้ายื่นหนังสื่อต่อนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ทางหน่วยงานราชการจังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนการจัดงานประเพณียี่เป็งเมืองเชียงใหม่ อนุญาตให้มีการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน และให้มีการงดการบินในห้วงเวลาดังกล่าว และมาตรฐานในการผลิตและจำหน่ายโคมลอย โคมไฟ หรือว่าวไฟที่เหมาะสม
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ในช่วงเทศกาลเดือนยี่เป็งของทุกปี ตั้งแต่วัน2-3 พ.ย.ของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนมากในช่วงเทศกาลงานประเพณียี่เป็ง ดังนั้นตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 27/2559 เรื่องมาตรการป้องกันเหตุและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2559 ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดทำประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นใน มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัย และการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดแบะปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม)หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2559 ซึ่งผ่านความเห็นชอบร่วมกันของคณะกรรมการจังหวัดเชียงใหม่ และสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.2559
ห้ามมิให้ผู้ใด จุดและปล่อย หรือกระทำการใด หรือโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายอำเภอแห่งท้องที่ และได้ปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ในประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ ,ผู้ใดจุดและปล่อย หรือกระทำอย่างใด เพื่อให้โคมไฟ โคมลอย โคมควัน(ว่าวฮม)หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ได้มีการกำหนดให้กระทำได้ในห้วงระยะเวลา 3 วัน คือตั้งแต่วันที่ 2 -3 พ.ย. ให้กระทำได้ในวันลอยกระทง (กระทงเล็ก) ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทยของทุกปี โดยให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 19.00 น.ถึงเวลา 01.00 น.ของวันถัดไป ยกเว้น เฉพาะการปล่อยโคมควัน(ว่าวฮม)ให้กระทำการจุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 10.00 น.ถึงเวลา 12.00 น. (ปี พ.ศ.2560 ตรงกับวันที่ 3 พ.ย.2560 ) และให้กระทำในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ของทุกปี (กระทงใหญ่)โดยให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 19.00 น.ถึงเวลา 01.00 น.ของวันถัดไป (ปี พ.ศ.2560 ตรงกับวันที่ 4 พ.ย.2560) และให้กระทำได้ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า – ต้อนรับปีใหม่ ในช่วงคืนวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี โดยให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 19.00 น.ถึง 01.00 น.ของวันถัดไป
ทางด้านนายเฉลิม สารแปง ประธานชมรมรักวัฒนธรรมเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการที่ตนเองพร้อมคณะได้เข้าพบและยื่นหนังสือต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขออนุญาตปล่อย โคมลอย โคมไฟ โคมควัน(ว่าวฮ่ม) ในช่วงงานเทศกาลประเพณียี่เป็ง ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ย.2560 ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับหนังสือขออนุญาต ดังกล่าวแล้ว โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้การสนับสนุนการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนการจัดงานประเพณียี่เป็ง หรืองานลอยกระทง และได้ตักเตือนหน่วยงานทั้งของภาครัฐ เอกชน ที่มีการจุดและปล่อยโคมไฟ โคมลอย โคมควัน(ว่าวฮม)ให้ระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัย การเกิดไฟไหม้ บ้านเรือน อาคาร สถานที่ต่างๆ ต้องมีการวางแผนป้องกันเหตุทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมในช่วงงานประเพณียี่เป็ง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ของชาวเชียงใหม่ อีกด้วย.
กมล เครือนิล ทีมข่าว "ที่นี่....เชียงใหม่" Fast News สำนักข่าว เชียงใหม่อัปเดตนิวส์ รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น