หน้าเว็บ

8 ก.ค. 2554

พระราชทานดอกไม้ให้กำลังใจ 'หมอมุก'

 เจ้าตัวปีติน้ำตาไหลชี้อาการสมองดีขึ้น

ครอบครัว 'หมอมุก' สุดตื้นตันใจ สมเด็จพระราชินี โปรดเกล้าฯ พระราชทานดอกไม้-ผ้าห่มเยี่ยมแม่เผยระหว่างห่มผ้าให้ ลูกถึงกับน้ำตาไหล ด้าน “ผบ.สส.” สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงชี้ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ระบุไม่มีการช่วยคนผิด ด้านเพื่อนสนิทเปิดใจก่อนเกิดเหตุมีลาง เจ้าตัวใส่ชุดดำไปทำบุญ ส่วนโปลิศเรียกลูก-เมีย “พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น” ให้ปากคำเพิ่มเติมแต่ถูกเบี้ยว ลั่นหากพบผิดจริงฟันข้อหาพยายามฆ่าทันที แม้จะปฏิเสธก็ตาม
จากกรณีเหตุการณ์สะเทือนใจ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก อายุ 34 ปี แพทย์ประจำคลินิกผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฎเกล้า บุตรสาวของ พ.ต.ประสิทธิ์ อิ่มวิทยา นายทหารผ่านศึก ผู้พลีชีพในสมรภูมิรบเขาค้อเมื่อปี 2520 และพญ.พรรณกร อิ่มวิทยา อดีตอาจารย์ภาควิชาจุลชีววิทยา รพ.ศิริราช ถูกชายนิรนามตั้งใจขับรถเก๋งนิสสัน ซันนี่ นีโอ สีทอง ทะเบียน วค 1355 กรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกระบุว่าเป็นของกรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พุ่งชนอย่างจัง เหตุเกิดหน้าเสาวรสคลินิก ใกล้สถานีรถไฟสามเสน เมื่อหัวค่ำวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองบวม ต้องผ่าตัดและพักฟื้นในห้องไอซียู รพ.พระมงกุฎฯ ต่อมา พล.ต.พิสุทธิ์ เปาอินทร์ รองปลัดบัญชีทหารฯ ได้นำรถเก๋งคันดังกล่าวมามอบให้พนักงานสอบสวนขณะที่ “พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น” ผอ.กองกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร บก.กองทัพไทย เข้ามอบตัว พร้อมอ้างว่า “หมอมุก”กระโดดขึ้นมาชนรถเอง หลังมีปากเสียงกันเรื่องที่จอดรถตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
   
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลา 15.45 น.วันที่ 22 มิ.ย.ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนัก อาคารท่านผู้หญิงประภาศรี กำลังเอก รพ.พระมงกุฎเกล้า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯให้ ท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว นันทาภิวัฒน์ นางสนองพระโอษฐ์ฯ เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญแจกันดอกไม้พระราชทาน พร้อมกระเช้าเครื่องใช้ พระราชทานให้ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์ประจำคลินิกผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฎเกล้า  โดยมี พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดา เป็นผู้รับมอบแทน จากนั้นท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว ได้เข้าเยี่ยมและสอบถามอาการจากแพทย์เจ้าของไข้หมอมุก ประมาณ 20 นาที จึงเดินทางกลับ
   
พญ.พรรณกร เปิดเผยว่า  ท่านผู้หญิงฉัตรแก้วได้สอบถามอาการของหมอมุกพร้อมให้กำลังใจก่อนเดินทางกลับ  ซึ่งหลังจากได้รับมอบแจกันดอกไม้และของใช้พระราชทานแล้วได้นำผ้าห่มขนหนูที่ได้รับพระราชทานมาห่มให้ลูกและบอกลูกว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระราชทานของมาให้นะมั่นใจว่าลูกรับรู้เพราะเห็นลูกน้ำตาไหลทันที  ส่วนอาการหมอมุกนั้นขณะนี้ดีขึ้นมากแล้ว  ครั้งแรกคิดจะอ่านหนังสือธรรมให้ฟัง แต่แพทย์เจ้าของไข้แนะนำว่าเนื้อหาอาจจะหนักไป ควรหานิทานเด็กที่มีประโยคสั้น ๆ เนื้อเรื่องเข้าใจง่ายมาอ่านให้ลูกฟัง และคอยพูดคุยกับลูกตลอดเวลาหรือบางครั้งก็เปิดเพลงพระราชนิพนธ์ให้ลูกฟัง 
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีบรรดาญาติและเพื่อน ๆ ของหมอมุก นายทหารชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาเยี่ยมหมอมุกอย่างต่อเนื่อง โดยนำกระเช้าดอกไม้และกระเช้าของขวัญมามอบให้ พร้อมเซ็นชื่อในสมุดเข้าเยี่ยม เพื่อขอให้หมอมุกหายป่วยโดยเร็ว ซึ่งทางแม่หมอมุกฝากขอบคุณทุกคนที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ หลายคนไม่เคยรู้จักแต่ทราบข่าวจากสื่อเลยเดินทางมาเยี่ยม ถ้าเป็นไปได้จดเบอร์โทรศัพท์ไว้เพราะหมอมุกจะได้โทรฯขอบคุณเมื่อออกจากโรงพยาบาล
   
ด้าน พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. ให้สัมภาษณ์ ว่าเรื่องนี้จะต้องทำไปตามกฎหมายทุกอย่าง โดยได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนในรายละเอียดแล้วไม่ต้องเป็นห่วงให้ความยุติธรรมเต็มที่กับทุกฝ่ายเท่านั้น อยากให้ทุกคนสบายใจได้ว่าจะไม่มีการช่วยเหลือกัน ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกติกาของกฎหมายใครผิดใครถูกก็ว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย
   
ส่วน พ.อ.สิทธิชัย มากกุญชร โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ พล.อ.ทรงกิตติ สั่งให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทยขับรถชนแพทย์หญิง รพ.พระมงกุฎเกล้า โดยมี พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองเสนาธิการทหาร เป็นประธานคณะกรรมการในการสอบครั้งนี้ ล่าสุด คณะกรรมการฯได้เดินทางไปตรวจสอบรายละเอียดเพื่อเก็บข้อมูลหลักฐานที่กรมยุทธบริการทหาร เพื่อทำรายงานเสนอให้กับผบ.สส. ขณะที่รถยนต์ที่เป็นวัตถุพยานสำคัญที่ใช้ในการก่อเหตุนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ ผบ.สส. ได้สั่งการให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเน้นย้ำว่าจะไม่มีการช่วยเหลือกำลังพลที่ไปก่อเหตุในครั้งนี้เด็ดขาด และปล่อยให้เรื่องดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และกฎหมาย เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นทหารด้วยกันไม่มีลูกน้องใครทั้งสิ้นต้องให้ความยุติธรรม
   
ขณะ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่ปักใจเชื่อ คำให้การของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ ต้องรอพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ดี ได้ติดต่อภรรยาและบุตร ของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ที่เจ้าตัวอ้างว่า อยู่ด้วยกันขณะเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ ได้เชิญตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.พญาไท โดยได้นัดหมายเวลาไว้ 10.00 น. แต่ทางภรรยา พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้โทรฯมาแจ้งขอเลื่อนเป็นเวลา 14.00 น. ในส่วนของผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานที่ออกมา เบื้องต้นยืนยันชัดเจนแล้วว่ารถเก๋ง นิสสัน รุ่นนีโอ สีบรอนซ์ ทะเบียน วค 1355 กรุงเทพมหานคร เป็นคันที่ก่อเหตุจริง และวันนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐานจะเดินทางไปตรวจรถของหมอมุก โดยจะตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชน ตรวจหาดีเอ็นเอจากรอยนิ้วมือ ลายมือที่เขียนคำด่าที่กระจกรถ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับคำให้การ ที่พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ให้การว่าลูกสาวเป็นคนเขียน
   
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า ส่วนการเดินทางเข้ามอบตัวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้รอเพียงผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน ถ้ากระทำผิดจริงจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าทันที ถึงแม้ว่าทาง พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ จะปฏิเสธว่าเป็นการขับรถเคลื่อนออกไปโดยประมาทก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่จะดูที่เจตนาเป็นหลัก ซึ่งจากภาพวงจรปิดและพยานในที่เกิดเหตุ เชื่อได้ว่าคนขับมีเจตนาชนอย่างแน่นอน ถ้า พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้กระทำผิดจริงก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะ ยังคงรับราชการทหาร เรื่องหลบหนีจึงเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้คำให้การของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ที่อ้างว่าหม้อน้ำรั่วเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อต้องนำรถมาตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบรถคันดังกล่าวยังคงอยู่ในสัญญาเช่า ถ้าหม้อน้ำรั่วจริงสามารถส่งรถซ่อมได้ทันที นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบในส่วนของการชำระเงินค่าอาหาร เพราะ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ อ้างว่าชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องนำหลักฐานมาตรวจสอบ เพื่อนำไปประกอบกับกล้องวงจร
ปิด ว่าเวลาที่ใช้บัตรตรงกันหรือไม่
   
ต่อมา พ.ต.อ.ณฐพล สามเสน ผกก.กลุ่มงานตรวจสอบทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมด้วย ร.ต.ท.สุดประเสริฐ หลัดกอง พงส.(สบ 1) สน.พญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่เสาวรสคลินิกเวชกรรม เลขที่ 45/12 ถนนเศรษฐศิริ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท นำเสื้อผ้าของหมอมุกที่ใส่ในวันเกิดเหตุเป็นเสื้อยืดสีดำและกางเกงยืดสีดำ มาเก็บหลักฐาน เครื่องมือทางวิทยา ศาสตร์ พร้อมทั้งตรวจรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นคัมรี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษต 4056 กรุงเทพมหานคร  เพื่อหาร่องรอยการเฉี่ยวชนรอบคันและลายมือที่บริเวณกระจกด้านซ้ายที่เขียนด้วยลายมือว่า “.... จอดรถไม่มีมารยาท”
   
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการจำลองวันเกิดเหตุโดยมีการนำรถมาจอดในสภาพเดียวกับที่รถของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ จอดขวางอยู่และมีการบันทึกภาพ วัดระยะด้วยตลับเมตร โดยเริ่มตั้งแต่รถของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มาจอดรถถ่ายภาพท้ายรถหมอมุก ซึ่งห่างจากจุดที่ชน 10.2 เมตร และจากจุดที่ชนจนกระทั่งหมอมุกกระเด็นไป หน้าบริษัทนิวยอร์คดีไซน์เนอร์ซึ่งมีระยะทางห่างถึง 30.7 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกค่าที่ได้เพื่อไปทำกราฟิกที่เกิดเหตุเพื่อคำนวณความเร็วของรถที่พุ่งเข้าชนหมอมุก เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 16.30 น. นางสภาวัน ภรรยาของพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้โทรศัพท์มาขอเลื่อนนัดกับทางพ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รองผกก.สส.สน.พญาไท ว่าในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. จะนัดหมายอีกครั้งว่าจะเข้ามาให้ปากคำ ส่วนบรรยากาศ ที่สน.พญาไท ตลอดทั้งวันมีโทรศัพท์จากประชาชนเข้ามาสอบถามความคืบหน้าของคดีหมอมุกเป็นจำนวนมาก มีทั้งโทรฯมาให้กำลังใจหมอ และมีทั้งโทรฯมาสอบถามต่อว่า และจะเดินทางมาดูหน้า พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ที่อ้างว่าตนเป็นคนขับรถชนหมอมุก แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ปรามไว้ นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์ โทรฯมาเสนอแนะเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ
   
ที่สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี วันเดียวกัน นพ.สุขุม ทัศนชัยกุล แพทย์แผนกศัลยกรรมตกแต่ง รุ่นน้องคนสนิท ซึ่งเคยทำงานด้วยกันกับหมอมุก สมัยที่เริ่มทำงานที่ จ.ลพบุรี และเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่รักษาหมอมุก และน.ส.กนกลดา วิชากุล เพื่อนรุ่นน้องคนสนิท เดินทางมาออกรายการสด เปิดใจกับพิธีกรรายการบอกเก้า เล่าสิบ โดยนพ.สุขุมกล่าวว่ารู้จักกับหมอมุก เมื่อตอนที่เริ่มทำงานเป็นแพทย์ครั้งแรกที่ รพ.อานันทมหิดล จ.ลพบุรี โดยได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ พร้อมกับหมอมุกทุกครั้งในวันหยุด นอกจากนี้ยังเคยร่วมงานกับหมอมุกที่ จ.ปัตตานี ด้วยเนื่องจากหมอมุกอาสาลงไปทำงานรับใช้ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตามรอย พ.ต.ประสิทธิ์ ที่ทำงานรับใช้ชาติเป็นเวลา 1 ปี และตั้งใจที่จะไปอีกทุก ๆ ปีด้วย ทั้งนี้หมอมุกตั้งใจว่าจะเดินทางลงไป จ.ปัตตานี อีกครั้งในอีก 1 เดือนข้างหน้านี้ด้วย
   
นพ.สุขุมกล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าอาการของหมอมุกนั้น ขณะนี้ถือว่าดีขึ้นมาก โดยยืนยันว่าไม่ได้กระทบกระเทือนถึงสมอง และก้านสมองแต่อย่างใด แต่ก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อน เนื่องจากแพทย์ต้องดูอาการหลายด้านทั้งด้านกล้ามเนื้อ และการควบคุมปริมาณเกลือแร่ภายในร่างกาย
ด้าน น.ส.กนกลดา กล่าวว่าสนิทกับหมอมุกมาก เนื่องจากคุณแม่ชอบมารักษาความงามที่คลินิกของหมอมุกเป็นประจำ เพราะหมอมุกเป็นแพทย์ที่เก่งจบการแพทย์ถึง 3 ด้าน คือแพทย์ศัลยกรรม แพทย์จิตเวช และแพทย์รักษาความงาม ทั้งนี้กับหมอมุกจะไปทำบุญด้วยกันเป็นประจำ เนื่องจากหมอมุกเป็นคนใจบุญ เมตตากรุณา ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ตนเองกับแม่พร้อมหมอมุกได้ไปไหว้พระ ที่รพ.วิชัยยุทธ เนื่องจากมีพระมารักษาที่รพ.ดังกล่าว แต่ครั้งนี้หมอมุกแต่งกายแปลก ๆ โดยแต่งสีดำไปไหว้พระ และยังกล่าวแบบมีลางสังหรณ์กับคุณแม่ว่า ให้รีบ ๆ เสริมความงามเนื่องจากหากตายแล้วจะไม่ได้ทำ จนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในที่สุด.
เดลินิวส์.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น