หน้าเว็บ

29 ก.ค. 2554

เชียงใหม่ เฝ้าระวังหลัง ลำพูน มีโรคระบาดหมู


ปศุสัตว์เชียงใหม่ สั่งเฝ้าระวังเข้มงวดหลังมีโรคระบาดในพื้นที่ จ.ลำพูน ที่เป็นจังหวัดใกล้เคียง

วันนี้(29 ก.ค.)นพ.สมพร  พรวิเศษศิริกุล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับโรคระบาดในหมูจนทำให้หมูป่วยตาย จำนวนมากในเขตพื้นที่ จ.ลำพูนนั้น ในส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นจังหวัดใกล้เคียง ก็มีการตรวจสอบกันอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุการณ์โรคระบาดในหมู เขตพื้นที่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ มีหมูเสียตาย 40 - 50 ตัว ในเขตพื้นที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ จำนวน 10 กว่าตัว ซึ่งหมูที่ตายเป็นหมูที่เป็นการเลี้ยงในฟาร์มของชาวบ้านทั่วไป แต่ในฟาร์มใหญ่ๆ ยังไม่เกิด และบางส่วนพอรู้ว่ามีโรคระบาดในพื้นที่ใกล้เคียง ก็รีบขายหมูที่ตัวเองมีอยู่ให้กับโรงฆ่าทันที จึงทำให้อัตราการพบหมูตายในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ไม่ค่อยสูงเหมือนในเขตพื้นที่ จ.ลำพูน และการที่มีโรคระบาดขึ้นมาอีกครั้งในเขตพื้นที่ จ.ลำพูนในรอบนี้ ได้สั่งการให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด พร้อมกับให้ติดต่อผู้ประกอบการ ออกไปให้ความรู้กับกลุ่มชาวบ้านที่เลี้ยงหมู เพื่อให้ช่วยกันสอดส่อง และไม่ให้นำหมูจากต่างพื้นที่เข้ามา รวมถึงการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในฟาร์มของตนเองบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ระบาดเข้ามาฟาร์มของตนเอง ซึ่งงบประมาณในการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมถึงยาป้องกันไข้หวัดนกนั้น ทางอบจ.เชียงใหม่เป็นผู้สนับสนุนในงบประมาณนี้ด้วย พร้อมกับประสานไปที่ด่านกักกันสัตว์เชียงใหม่ ให้มีการเฝ้าระวังการขนย้ายอย่างเข้มงวด ซึ่งมั่นใจว่ามาตรการต่างๆ จะช่วยป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ได้


ด้านนางสาวปานจิตต์ พิศวง พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทราบเรื่องการแพร่ระบาดของหมูในเขตพื้นที่ จ.ลำพูนแล้ว ซึ่งโรคดังกล่าว ทำให้แม่หมูนั้นแท้งลูก ในเมื่ออัตราการเกิดของหมูลดลง แต่อัตราการต้องการของเนื้อหมู การบริโภคยังเท่าเดิม จึงทำให้ราคาขยับตัวพุ่งสูงขึ้น จากเดิมราคาสูงสุดไม่เกิน 135 บาทต่อกิโลกรัม แต่หากโรคระบาดในเขตพื้นที่ใกล้เคียงแบบนี้ราคาน่าจะขยับไปที่ 150 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งในส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่พบการระบาดของเชื้อโรคในหมู จึงยังไม่สามารถควบคุมราคาได้ ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการจะมีการฉวยโอกาสในการขึ้นราคาตามจังหวัดอื่นๆ หรือไม่นั้น ในเรื่องนี้เท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบการขึ้นราคา แต่หากต่อไปในเขตพื้นที่ใกล้เคียงมีความต้องการหมูเพิ่มมากขึ้น และสั่งหมูจากในพื้นที่ออกไป อาจทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ได้ประสานไปยังปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ ในการเฝ้าระวังการเกิดโรค และประสานไปยังสำนักงานการค้าภายใน เพื่อเชิญผู้ประกอบการมาพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้มีการควบคุมราคา และไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการติดต่อผู้ประกอบการ และโรงฆ่า มาทำการพูดคุยกัน ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องของราคาหมูแพง และการฉวยโอกาสขึ้นราคาเนื้อหมูได้.
แหล่งที่มาของข่าว
หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น