หน้าเว็บ

31 ก.ค. 2554

ผบ.ตร.เต้น! สั่งสอบ ดีเอสไอบุกจับคาราโอเกะสงขลาค้ากาม


พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี

โฆษก ตร.เผย ผบ.ตร.สั่งสอบข้อเท็จจริง ดีเอสไอ บุกจับคาราโอเกะค้ามนุษย์ ช่วยเหลือหญิงลาว พม่า และไทยใหญ่ จำนวนมาก ที่ถูกล่อลวงมาขายบริการใน จ.สงขลา 
       
       วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.เปิดเผยว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ทุกพื้นที่ในสังกัดกองบัญชาตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9, ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อมิให้มีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เพิ่มมาตรการกวดขันสถานบันเทิง และสถานประกอบการ ที่เปิดให้บริการโดยเปิดเผย แต่มีการกระทำความผิดแอบแฝงอยู่ นอกจากนี้ ยังได้กำชับและสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นประชุมชี้แจงผู้รับผิดชอบ และกำกับดูแลควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด
       
       พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้นำกำลังเข้าตรวจค้นร้าน 259 ชาลีคาราโอเกะ และร้านชาลีสปา 259 ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ รวมทั้งสามารถช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ได้จำนวน 32 คน เป็นชาวลาว, ชาวไทยใหญ่ และชาวพม่า ในจำนวนนี้เป็นผู้ใหญ่ 14 คน และเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 18 คนนั้น ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ผบช.ภ.9 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และล่าสุด กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว โดยแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รองผบช.ภ.9 เป็นประธานคณะกรรมการ และคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมาย
       
       ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำโดย พตท.ไพศิษฏ์ สังคหะพงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพดล เพชรสุทธิ์ รองผกก.สภ.สะเดา พ.ต.ท.เดชาพงษ์ ปรีชัย สว.สส.สะเดา นายมานิตย์ บริพันธุ์ ปลัดอำเภอสะเดาและนายสามารถ สุวรรณมณี ปลัดป้องกัน อ.สะเดา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจและอส.เข้าบุกทลายจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ จากการถูกพ่อแม่ของผู้หญิงชาวลาวได้ร้องเรียนมูลนิธิพิทักษ์สตรี ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน และเอ็นจีโอของประเทศลาว ว่าลูกสาวได้ถูกขบวนค้ามนุษย์ล่อลวงมาทำงานอยู่ที่เมืองไทย
       
       กระทั่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสืบทราบว่าผู้ที่โดนล่อลวงได้เดินทางมาทำงานขายบริการอยู่ที่ภาคใต้ บ้านไทยจังโหลน ในท้องที่อำเภอสะเดา ย่านแหล่งท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซีย เจ้าหน้าดีเอสไอได้ทำการวางแผนร่วมกับตำรวจท้องที่และตัวแทนกรมการปกครองบุกจู่โจมตรวจค้นที่ร้าน 259 คาราโอเกะ ชั้นล่าง บริเวณโรงแรมโอริเวอร์ ด่านนอก พบหญิงสาวชาวลาว จำนวน 59 คนอายุระหว่าง 20- 30 ปี หลายคนในจำนวนนี้อายุไม่ถึง 18 ปีหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดิม ยังได้เดินทางไปยังร้านชาลีบ้านสปา ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างโรงแรมเคพีเค ด่านนอก พบหญิงสาวพากันวิ่งหนี อย่างอลเวง โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ จำนวน 12 คน รวมทั้งหมด 71 คน ซึ่งบางคนอายุไม่ถึง 18 ปีเช่นกัน จากการสอบถามหญิงสาวหลายคนให้การว่าทั้งถูกล่อลวงมา ซึ่งจะมีนายหน้าเป็นผู้ติดต่อและล่อลวงมายังสถานที่ดังกล่าว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น